“จุลพันธ์” เผย น้ำท่วมเชียงใหม่ปีนี้ส่อหนัก ฝนตกหนักดินอุ้มน้ำไม่อยู่ทำน้ำป่าทะลัก เร่งจ่ายเงินเยียวยา “สุดาวรรณ” เร่งสำรวจวัดเสียหาย ย้ำ มีงบซ่อมแซม “วราวุธ” เผย พม. ช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมทั่วประเทศแล้วกว่า 33 จังหวัด พอช. เคาะพักชำระหนี้ 3 เดือนทั้งต้น-ดอก
วันที่ 24 กันยายน 2567 นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และ สส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า จังหวัดเชียงใหม่ หลายพื้นที่ประสบกับปัญหาน้ำป่าไหลหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน และช่วงนี้มีฝนตกติดต่อกันมาก ดินเริ่มอุ้มน้ำมากเกินไป ซึ่งน้ำท่วมปีนี้อาจจะหนักกว่าบางปี เพราะน้ำค่อนข้างแรง มีความเสียหายต่อบ้านเรือน และน้ำป่าที่มาเร็วก็จะไปเร็ว แต่จะทิ้งความเสียหายไว้ ขณะนี้ทางจังหวัดและอำเภอกำลังทำงานกันอย่างแข็งขัน ต้องขอบคุณทุกหน่วยงานที่เข้าไปให้ความช่วยเหลือ ซึ่งข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีที่จะชดเชยเยียวยาสามารถมาประยุกต์ใช้ได้กับจังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดที่มีน้ำท่วมหลังจากนี้ไป ส่วนเงินทดรองจ่ายที่เตรียมให้จังหวัดละ 20 ล้านบาท หากไม่พอสามารถขอเพิ่มเติมกับกรมบัญชีกลางได้อีก 100 ล้านบาท ทั้งหมดอยู่ในกรอบขั้นตอนที่เร่งรัดดำเนินการ
ทางด้าน นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวถึงความเสียหายวัดที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมโดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือ ซึ่งยังไม่สามารถประเมินความเสียหายได้ ยังต้องรอรายงานผลจากอธิบดีกรมการศาสนา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หากน้ำลดหมดแล้วก็ต้องลงไปสำรวจเพิ่มเติมอีกว่าได้รับความเสียหายมากน้อยแค่ไหน เพื่อหาแนวทางต่อว่าจะซ่อมแซมอย่างไร ยืนยันว่ากระทรวงวัฒนธรรมมีงบประมาณสำหรับซ่อมแซมวัดที่ถูกน้ำท่วมแน่นอน เพราะไม่ได้มีแค่วัดอย่างเดียว แต่ยังมีเรื่องอื่นที่กรมศิลปากรดูแล โดยตนได้สั่งให้เร่งส่งรายงานมาให้เร็วที่สุดเพื่อจะได้รีบไปซ่อมแซม
...
ขณะที่ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เปิดเผยถึงการให้ความช่วยเหลือกับผู้ประสบอุทกภัย ว่า ขณะนี้กระทรวง พม. เข้าไปดำเนินการช่วยเหลือในพื้นที่ทั้งหมด 33 จังหวัด ซึ่งที่ผ่านมามีประชาชนที่ได้รับผลกระทบเกือบ 50,000 ครัวเรือน ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมากระทรวง พม. ได้ให้เงินช่วยเหลือไปแล้วกว่า 10,000 ราย รวมถึงเปิดพื้นที่ มอบเครื่องอุปโภคบริโภคทั้งหลาย และสุขาเคลื่อนที่ด้วย พร้อมกับเปิดพื้นที่ของ พม.จังหวัด ให้เป็นศูนย์พักพิงชั่วคราวเพื่อรองรับผู้ประสบภัยทั้งหมด 42 แห่ง
สำหรับสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) ที่ดูแลเรื่องที่อยู่อาศัยนั้น ได้มีการประชุมและมีมติล่าสุดให้มีการพักชำระหนี้ทั้งต้นและดอกเป็นเวลา 3 เดือน ให้กับสหกรณ์ที่อยู่ภายใต้โครงการบ้านมั่นคง โดยขณะนี้มีกว่า 29 องค์กรแล้วที่จะได้รับการอนุมัติ และมีกว่า 6,000 ครัวเรือนที่ได้รับการพักชำระหนี้ และหากใครที่ยังไม่ได้สิทธิก็สามารถแจ้งเพิ่มเติมได้ ส่วนสถานการณ์น้ำป่าไหลหลาก กระทรวง พม. มีการจัดนักสังคมสงเคราะห์ร่วมกับเจ้าหน้าที่กระทรวงมหาดไทยเพื่อดูแลเรื่องร่างกายและจิตใจ
ส่วนเรื่องปัญหาโคลนภายหลังจากน้ำลดแล้วนั้น คงต้องอาศัยแรงกายแรงใจ และต้องให้กำลังใจกับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน รวมถึงหน่วยงานที่ได้ลงพื้นที่ด้วย ได้เห็นน้ำใจจากทั่วทุกสารทิศหลั่งไหลไปยังพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ทั้งนี้ ต้องขอขอบคุณทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง แต่สิ่งสำคัญคือน้ำที่ท่วมในปีนี้เป็นน้ำโคลนเลน 100% ทำให้เห็นว่าปริมาณน้ำที่ตกลงมานั้นชะล้างแต่ดินลงมา จากนี้ไปคงต้องฝากประชาชนในทุกพื้นที่ โดยเฉพาะที่อยู่บริเวณลุ่มน้ำต้นน้ำให้รักษาพื้นที่สีเขียว ปลูกต้นไม้ และพืชคลุมดิน เนื่องจากเป็นห่วงเหลือเกินว่าสถานการณ์ในปีต่อ ๆ ไปจะซ้ำรอยอีก หากเราไม่เพิ่มพื้นที่สีเขียว.