รัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ ซึ่งมีผลผูกพันต่อทุกองค์กร เมื่อมีความสำคัญอย่างนี้การจะร่างขึ้นมาใหม่หรือแก้ไขจึงทำได้ยาก

ไม่ว่าใครเข้าไปแตะมักจะมีปัญหาแทบทุกครั้ง

นอกจากทหารที่เข้ายึดอำนาจเท่านั้น เพราะมีปืนจึงสั่งให้ยกเลิกได้ทันที แต่เมื่อสมประสงค์แล้ว กลับเขียนขึ้นมาใหม่

ด้วยการสร้างพันธนาการให้แก้ไขได้ยากอย่างรัฐธรรมนูญปี 2560 ที่ใช้ในปัจจุบัน หากจะแก้ไขทั้งฉบับจะต้องทำประชามติให้ประชาชนแสดงความเห็นว่ายินยอมหรือไม่

อีกทั้งการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น ค่อนข้างจะยาก เพราะต่างคนต่างก็มีความเห็นจึงเกิดความแตกต่าง

โดยเฉพาะการแก้ไขเพื่อประโยชน์ของตัวเองมักจะไปไม่รอด...

อย่างสถานการณ์ปัจจุบันที่ “เพื่อไทย” กำลังเดินเครื่อง

เพื่อขอแก้ไขแค่ประเด็นต้องการความชัดเจนนิยามของคำว่า “จริยธรรม-ซื่อสัตย์สุจริต” แค่นี้ยังมีฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย

ก็ในพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันนั่นแหละคือ “ภูมิใจไทย-รวมไทยสร้างชาติ” ที่ไม่ต้องการให้แก้ไขประเด็นนี้

หรืออดีตผู้ร่วมเขียนรัฐธรรมนูญฉบับนี้ก็ไม่เห็นด้วย 

เพราะกระบวนการตรวจสอบตั้งแต่การยื่นคำร้อง จนเรื่องไปถึงศาลรัฐธรรมนูญนั้น

มีความชัดเจนแล้วว่าจริยธรรมและความซื่อสัตย์สุจริตนั้นคืออะไร

ซึ่งไม่มีความจำเป็นต้องแก้ไข แต่ที่แก้ไขก็เพื่อประโยชน์ของตัวเอง...เท่านั้น

นี่แค่ประเด็นนี้เท่านั้นนะ

แต่การที่ “เพื่อไทย” ขยายความว่าจะแก้ไขมากไปกว่านั้น คือ พ.ร.ป. 2 ฉบับว่าด้วยการเป็นสมาชิกพรรคการเมืองและ

การครอบงำทางการเมือง

มันก็ยิ่งยากเข้าไปอีก

แม้จะอ้างว่าที่ต้องแก้ไขเพื่อให้เกิดความชัดเจน และเปิด

...

โอกาสให้ประชาชนมีสิทธิที่จะสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคการเมืองได้อย่างเสรีก็ตาม

เพราะแค่เอ่ยปากก็เห็นลิ้นไก่แล้ว!

เนื่องจาก 2 ประเด็นนี้ หากแก้ไขสำเร็จ คนหนึ่งที่จะได้ประโยชน์ไปเต็มๆคือ “ทักษิณ ชินวัตร” พ่อของนายกรัฐมนตรี

1.สมัครเป็นสมาชิกพรรค “เพื่อไทย” ได้เพราะไม่มีผลผูกพันต่อการที่ถูกดำเนินคดีตรงๆก็คือถูกตัดสินให้จำคุก ซึ่งไม่สามารถเป็นสมาชิกพรรคการเมืองได้

2.การครอบงำทางการเมืองอันนี้ก็ยิ่งชัดเพราะ “ทักษิณ”

กำลังถูกร้องว่า “ครอบงำ” นายกรัฐมนตรี (อ้างว่าไม่ได้ครอบงำแต่ครอบครอง) แต่พฤติกรรมที่แสดงออกชวนให้สงสัย แม้กระทั่งนโยบายของรัฐบาลก็ด้วย

นอกจากนั้นยังกินรวบไปถึงการครอบงำรัฐบาลและพรรคร่วมรัฐบาล ที่ถูกร้องว่า ได้เรียกบรรดาตัวแทนของพรรคร่วมรัฐบาลไปพบที่บ้านจันทร์ส่องหล้า

แม้ยังไม่มีหลักฐานยืนยันชัดเจนว่าได้มีการสั่งการอะไรแต่กลับปรากฏว่าทุกพรรคต่างก็สนับสนุนให้ “แพทองธาร” เป็นนายกรัฐมนตรี

นี่เป็นภาพที่ปรากฏทางการเมือง และกำลังเป็นเรื่องที่กำลังเกิดปัญหาทางการเมืองที่เรียกว่า “นิติสงคราม”

ที่ “เพื่อไทย” กำลังหัวปั่นเพราะไม่แน่ใจว่าจะหลุดรอดได้หรือไม่?

จึงดิ้นหาทางแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลบางพรรคก็ไม่เห็นด้วย อีกทั้งยังไม่แน่ใจว่าวุฒิสมาชิกอีก 200 คนจะคล้อยตามหรือไม่

ทำท่าว่าทุกอย่างจะแท้งก่อนคลอด...เสียกระมัง!

"สายล่อฟ้า"

คลิกอ่านคอลัมน์ “กล้าได้กล้าเสีย” เพิ่มเติม