ข่าว “เขย่าขวด” สุดสัปดาห์นี้เหมือนธรรมชาติ จะเอาคืนมนุษย์ ทำให้เกิดพายุจนเกิดน้ำท่วมประชาชนได้รับความ เดือดร้อนไปทั่ว รัฐบาล “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรีหญิงคนที่ 2 ของประเทศไทย ก็เลยต้องเจอปัญหาเข้าไปเต็มๆ

ลำพังช่วยเหลือชาวบ้านคงไม่เท่าใด

แต่ความจำเป็นที่ต้องใช้เงินเพื่อเยียวยาและค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งภาคเหนือ-อีสานและใต้

จำนวนก็คงมากพอสมควร

ปัญหาก็คืองบกลางซึ่งปกติจะนำมาใช้จ่ายเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น แต่เนื่องจากรัฐบาลได้นำเงินในส่วนนี้ไปเป็นงบ “ดิจิทัลวอลเล็ต” แจกชาวบ้าน หัวละหมื่น

ทำให้ “งบกลาง” เหลือไม่มากนัก

ก็จะเกิดปัญหาตามมาแน่!

การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาลด้วยการใช้เงินจำนวนมาก เพื่อหวังกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยเงินจำนวนมากอย่างนี้

ถ้าไม่ได้ผลตามที่คาดหวังไว้ ก็เหมือนเอาเงินไปละลายน้ำเล่น

นายกรัฐมนตรี “อิ๊งค์” ได้แต่งตั้งที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจจำนวน 5 คน นำโดย “พันศักดิ์ วิญญรัตน์” ที่เคยทำหน้าที่ประธานมาตั้งแต่สมัย “ทักษิณ ชินวัตร” เป็นนายกรัฐมนตรี ต่อมาก็รัฐบาล “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ไล่มาถึงรัฐบาล “เศรษฐา ทวีสิน”

ล่าสุดก็รัฐบาลชุดปัจจุบัน

พูดง่ายๆ ว่าเชื่อมือกันมาตลอด...

ก็เพื่อจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล

ล่าสุดก็มีการตั้งกรรมการชุดใหม่ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจโดยระดมรัฐมนตรี ข้าราชการในหน่วยงานต่างๆ

เพื่อหวังจะให้นโยบายเดินหน้าต่อไปได้อย่างมีนัยสำคัญ

เพราะปัญหาเศรษฐกิจเป็นเรื่องใหญ่ และมีความสำคัญมาก

...

ล่าสุดธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ได้ประกาศลดดอกเบี้ย (0.5%) ถือว่ามากพอสมควร มีข่าวว่าจากนี้ไปน่าจะมีอะไรเกิดขึ้นเกี่ยวกับเรื่องเศรษฐกิจแน่

แต่กรณีนี้ทำให้รัฐบาลเบาใจหน่อย เพราะหวังว่าแบงก์ชาติน่าจะลดดอกเบี้ยตามไปด้วย เพื่อให้ไม่ทิ้งระยะส่วนต่างกันมากนัก

เรื่องการลดดอกเบี้ยนั้น ตั้งแต่รัฐบาล “เศรษฐา” มาถึงรัฐบาลชุดนี้ ได้ กดดันให้แบงก์ชาติจัดการมาอย่างต่อเนื่อง

แต่แบงก์ชาติไม่ยอมและอ้างว่าเหมาะสมแล้ว

ก็ต้องดูกันต่อไป แบงก์ชาติจะตัดสินใจอย่างไร?

นี่เป็นภาคเศรษฐกิจล้วนๆ

แต่ในภาคอื่นๆ ที่รัฐบาลกำลังเผชิญ ก็คือภาคการเมือง ซึ่งถูกฝ่ายแค้นรุมกระหน่ำว่าด้วยเรื่องจริยธรรม

จึงต้องตัดไฟแต่ต้นลมด้วยการขอแก้ไขรัฐธรรมนูญ

มีอยู่ 2 ประเด็นสำคัญ!

1. กำหนดกรอบว่าด้วยจริยธรรม ให้ชัด

2. มติของศาลรัฐธรรมนูญจะต้องมีสัดส่วน 2 ใน 3 จึงเป็นความผิด

ดูภาพรวมแล้วน่าจะผ่านได้ เพราะแทบทุกพรรคเห็นด้วย แม้แต่พรรคประชาชน ซึ่งเป็นฝ่ายค้านที่ขอพ่วงในประเด็นการ “ยุบพรรค”

พูดให้ถึงที่สุด “เพื่อไทย” นอกจากจะรำคาญบรรดานักร้องแล้ว

ยังหวั่นไหวไม่น้อย กลัวจะเกิดปัญหาจึงต้องเร่งปิดเกมเสียก่อน

เพราะถ้าเกิดปัญหาขึ้นมาจริงๆ ทั้งนายกรัฐมนตรี รัฐบาลและพรรคร่วมรัฐบาล จะต้องไปกันทั้งพวง

จึงต้องรวมหัวตัดไฟแต่ต้นลมเสียก่อน!


"ลิขิต จงสกุล"

คลิกอ่านคอลัมน์ “สับรางวันอาทิตย์” เพิ่มเติม