สั่งการกันมือเป็นระวิง รับมือพายุซูลิก พายุโซนร้อนลูกใหม่พุ่งเป้าถล่มทั่วไทย 74 จังหวัดต้องเฝ้าระวังฝนตกหนัก เสี่ยงเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก เขย่าขวัญซ้ำภาคเหนือ ภาคอีสานที่ยังไม่ทันฟื้นตัว หลังถูกพายุลูกเก่าซัดจมอยู่ใต้น้ำไปไม่ทันไร

งานหนักต่อเนื่องรัฐบาล “นายกฯอิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี รีบตั้งศูนย์ติดตามและเฝ้าระวังสถานการณ์ รับมือพายุลูกใหม่

ถ้ารอบนี้ยังปล่อยให้หลายจังหวัดจมน้ำ ไม่มีการเตือนภัยล่วงหน้า และระบบอพยพ ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยไม่ทันท่วงที มีหวังพายุอารมณ์ประชาชนลามหนัก ฉุดความเชื่อมั่นศรัทธารัฐบาลลดลง เข้าล็อกผลนิด้าโพลที่ระบุประชาชนไม่เชื่อมั่นฝีมือบริหารประเทศของนายกฯหญิง

คิวหัวหมุน “นายกฯแพทองธาร” เริ่มต้นทำงานได้ไม่ทันไร มีแต่เรื่องต้องเร่งแก้ไข ปวดหัวไปหมด

แม้แต่นโยบายเรือธงหลัก ดิจิทัลวอลเล็ต จากที่คิดจะไปได้สวย ต้องเปลี่ยนชื่อใหม่ เป็นโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจปี 2567 ปรับรูปแบบแจกเงินใหม่ จ่ายเงินสด 10,000 บาท เข้าบัญชีกลุ่มเปราะบาง 14.5 ล้านคน ระหว่างวันที่ 25-30 ก.ย. ไปก่อน ส่วนกลุ่มใหญ่อีก 30 กว่าล้านคน ถูกเลื่อนจ่ายเงินออกไป ยังไม่รู้เงินหมื่นจะหล่นใส่มือเมื่อไร

ต้องตาลีตาเหลือกหาทางหมุนเงินทุกวิธี มาใช้ดำเนินโครงการให้เพียงพอ แต่ดันเคราะห์ซ้ำกรรมซัดเจอเหตุน้ำท่วมภาคเหนือ ภาคอีสานซ้ำเติม

ยังไม่รวมต้องคอยระวังหลัง เหล่านักร้องขมีขมันยื่นตรวจสอบปมจริยธรรมนายกฯ และ ครม.แทบจะรายวัน เหวี่ยงแหเชื่อมโยงเรื่องราวไปทั่ว ให้ทำงานอย่างไม่เป็นสุข

ฝ่ายค้าน ฝ่ายแค้น จองกฐินรัฐบาลทุกช่องทาง พายุจริงก็ต้องระวัง พายุการเมืองก็ต้องระแวง

มีเรื่องให้เจ็บตัวพุ่งใส่ตลอด ล่าสุดมีประเด็นสายล่อฟ้าเพิ่มคือ การแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา

...

โปรแกรมเร่งด่วนที่พรรคเพื่อไทยเหยียบมิดคันเร่ง เพิ่งยื่นเรื่องต่อรัฐสภาไปสดๆร้อนๆ ตามฉบับของพรรคประชาชนไปติดๆ เพื่อเคลียร์กับดักการเมือง ไม่ให้กระทบเสถียรภาพรัฐบาล “นายกฯอิ๊งค์”

สีแดง-สีส้มพักแค้นเฉพาะกิจ จับมือรื้อรัฐธรรมนูญรายประเด็น

ตั้งธงไปที่การแก้ไขเรื่องมาตรฐานจริยธรรม และหั่นอำนาจองค์กรอิสระ ลุยลดอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ หากจะใช้สอย สส.-สว.-ครม. ต้องใช้เสียง 2 ใน 3 แทนการใช้เสียงข้างมาก

พ่วงไปกับการรื้อกฎเหล็กคุณสมบัติรัฐมนตรีเรื่องมาตรฐานจริยธรรม ความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ตลอดจนนิยามคำว่า “ครอบงำ” ให้มีความชัดเจน รัดกุม เป็นรูปธรรม ไม่ให้ตีความแบบครอบจักรวาลได้

เร่งริบดาบองค์กรอิสระ ไม่ให้มีอำนาจเกินเบอร์ จนเป็นภัยต่อความมั่นคงพรรคการเมือง อย่างที่เคยทุบพรรคเพื่อไทย พรรค ประชาชนล้มลุกคลุกคลานมานับครั้งไม่ถ้วน

ติดเครื่องด่วนจี๋ เตรียมนำเข้าสู่ที่ประชุมรัฐสภาแก้ไขเดือน ต.ค.นี้

แม้เสียง 2 พรรคใหญ่ “เพื่อไทย-ประชาชน” รวมกันแล้ว จะมีเสียงข้างมากเพียงพอ แต่แนวโน้มเป็นเส้นทางลุยไฟ หมิ่นเหม่จุดหัวเชื้อความขัดแย้งรอบใหม่ในสังคม

เส้นทางการแก้ไขคงไม่ราบรื่น เจอแรงต้านรอบสารทิศแน่

ถูกตั้งคำถามหนัก ทำเพื่อประโยชน์ส่วนตัวและพรรคการเมือง ตามปมที่พรรคเพื่อไทยและพรรคประชาชนต่างมีบาดแผลปมจริยธรรม

ฝั่งเพื่อไทยเคยโดนศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย กรณีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ จน นายเศรษฐา ทวีสิน กระเด็นหลุดจากตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี หากไม่รีบแก้ไขเผลอๆอาจสะเทือนไปถึงเก้าอี้ผู้นำ ของ “นายกฯอิ๊งค์” ด้วย ตามที่ถูกเหล่านักร้องเขี่ยหัวเชื้อปมมาตรฐานจริยธรรมไว้รอหลายกรณี

ไม่ต่างจากพรรคประชาชน มี 44 สส.ติดบ่วงปมมาตรฐานจริยธรรม อยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบของ ป.ป.ช.

การเป็นตัวตั้งตัวตีแก้รัฐธรรมนูญรายมาตราของ 2 พรรค เลี่ยงยาก ถูกมองเป็นผลประโยชน์ทับซ้อน มีจุดเริ่มต้นมาจากประโยชน์ส่วนตัว ไม่ใช่ประโยชน์ส่วนรวม

ขืนบุ่มบ่ามใช้เสียงข้างมากลากไป อาจมีจุดจบซ้ำรอย พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับสุดซอย สมัยรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เกิดม็อบไล่ “อดีตนายกฯปู” ลามทั่วประเทศ

จำเป็นต้องชั่งน้ำหนัก ประเมินผลดีผลเสียให้รอบคอบ ขณะที่ท่าทีพรรคร่วมรัฐบาลอื่นๆยังรักษาทรง ไม่กล้าออกตัวแรง ขอเช็กทิศทางลมให้ดีก่อน

ทะเล่อทะล่าแก้ไข โดยไม่เช็กแรงต้านให้ดี อาจเกิดแนวรบนอกสภาเลยเถิดไปกันใหญ่

จุดติดเป็นชนวนร้อนเมื่อไหร่ "นายกฯอิ๊งค์" อาจเสี่ยงเจอเส้นทางลำบาก!


ทีมข่าวการเมือง

คลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม