พอเริ่มต้นบริหารประเทศอย่างเป็นทางการก็ถูก “วางบิล” ดักหน้ารออยู่หลายเรื่องที่เป็นประติมากรรมทางการเมืองยุคใหม่

เป็น “นิติสงคราม” ว่าด้วยจริยธรรมทางการเมือง

ที่ศาลรัฐธรรมนูญได้วางฐานโทษมาจากกรณี “เศรษฐา ทวีสิน” อดีตนายกรัฐมนตรีที่ต้องพ้นจากตำแหน่งแบบไม่ทันรู้ตัว

เพราะตั้งรัฐมนตรีที่ขาดคุณสมบัติ

จากกรณีที่เกิดขึ้นนี้ได้เลื่อนไหลเข้าสู่ระบบการเมืองไทยอย่างเต็มรูปแบบ แต่ละฝ่ายที่เป็นคู่ขัดแย้ง-คู่แค้นต่างก็หยิบยกขึ้นมาใช้เล่นงานอีกฝ่ายหนึ่ง

โดยมีบรรดานักร้องทั้งแบบอาชีพและสังกัดการเมืองเป็นสะพานเชื่อมไปสู่องค์กรซึ่งทำหน้าที่ตัดสินคดีความ

นายกรัฐมนตรีที่เริ่มเข้ามาทำงานการเมืองเต็มรูปก็ได้รับการต้อนรับด้วยคำร้องเกือบจะ 10 เรื่องแล้วมั้ง

จนต้องร้องขอทำงานก่อน “ลูกยังเล็ก” อยู่ด้วย

แต่ก็ไม่สามารถไปหยุดได้เพราะเป็นสิทธิที่เขาพึงกระทำได้ก็ต้องไปแก้ข้อกล่าวหาเอาเองว่าได้ทำผิดตามที่เขาร้องหรือไม่

ถ้าแก้ต่างได้ก็รอด

แก้ต่างไม่ได้ก็ต้องหลุดจากตำแหน่ง

มันเป็นวงจรทางการเมืองแบบใหม่ที่จะต้องยอมรับไม่ใช่องค์กรอิสระเป็นผู้กำหนด แต่เป็นวิถีทางการเมืองที่นักการเมืองกระทำกันเอง

หลังจากที่พรรคพลังประชารัฐ ซึ่ง “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” เป็นหัวหน้าพรรคได้พ่ายแพ้เกมการเมืองอย่างหมดรูป

ก็พยายามดิ้นสู้ทุกวิถีทางเพื่อชำระแค้นอย่างมีเป้าหมายโดยให้นักร้องสังกัดพรรคยื่นคำร้องเล่นงานฝ่ายที่กระทำให้เสียหน้าจนบารมีหดหาย

พูดง่ายๆว่ากำลังต่อสู้กับฝ่ายรัฐซึ่งมีความพร้อมทุกด้านก็ไม่ยอมให้เป็นฝ่ายถูกกระทำจึงได้เปิดฉากตอบโต้ด้วยกลอุบายที่ล้ำลึก

เพราะสามารถกุม “ความลับ” เอาไว้ในมือด้วยการปล่อย “คลิปเสียง” ออกมา 5 ชุด ที่พุ่งเป้าไปที่ “บิ๊กป้อม” และเครือข่าย

...

นอกจากจะย้ำเตือนในความอยากได้อยากเป็นของ  พล.อ.ประวิตรแล้ว ยังพาดพิงไปถึงเรื่องราวต่างๆที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางด้านการเงินและการใช้อำนาจ

สรุปก็คือเรื่องไม่ดีไม่งามของ “บิ๊กป้อม” นั่นแหละ...

นี่ถือเป็น “อาวุธหนัก” ที่ใช้ตอบโต้!

แม้จะมีความพยายามแก้ต่างว่าเป็น “คลิปปลอม” ก็มิได้ทำให้สังคมมีความเชื่อลดหายไปซ้ำร้ายยิ่งหนักเข้าไปอีก

เอาเป็นว่าเป็นความล่อนจ้อนที่มีราคา

คนใกล้ชิด “บิ๊กป้อม” ที่เคยร่วมงานกันมาอย่างน้อยก็ 2 คน ต่างก็ออกมาร้องขอให้ “นายเก่า” ยุติบทบาทการเมืองได้แล้วเพราะไม่มีประโยชน์อันใด

มีแต่เจ็บตัวเปล่าๆ...

“บิ๊กป้อมเป็นคนใจดีแต่คนที่เข้ามาใกล้ชิดล้วนแสวงหาประโยชน์ ดังนั้นหากขืนสู้ต่อไปก็มีแต่แพ้ลูกเดียว”

บางทีคนเราเมื่อเลือดเข้าตาลูกน้องหนุนส่ง

ก็เมาหมัดอย่างที่เห็นๆอย่างนี้แหละ!

"สายล่อฟ้า"

คลิกอ่านคอลัมน์ “กล้าได้กล้าเสีย” เพิ่มเติม