“ชูศักดิ์ ศิรินิล” เผย เล็งยื่นแก้รธน. รายมาตรา 2 ประเด็นสัปดาห์หน้า ปมจริยธรรมให้ชัดเจน ต้องศาลฎีการับฟ้อง ป้องกันนักร้องยื่นกลั่นแกล้งในชั้น ป.ป.ช. พร้อมรื้อมติศาล รธน. เรื่องสำคัญ ต้องใช้เสียงข้างมากเด็ดขาด ด้าน “วราวุธ” โนคอมเมนต์แก้รธน. กำหนดกรอบจริยธรรม รมต. เหตุยังไม่ทราบรายละเอียด

วันที่ 17 กันยายน 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าการยกร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ รายมาตราเกี่ยวกับประเด็นจริยธรรม และความซื่อสัตย์สุจริต ว่า พรรคเพื่อไทยเป็นเจ้าภาพ กำลังยกร่างอยู่ เข้าใจว่าใกล้จะเสร็จแล้ว มีทั้งหมด 4-5 มาตรา จะกำหนดกรอบกฎหมายให้มีความชัดเจนไม่ต้องตีความมาก ขณะที่ฝ่ายค้านก็กำลังพิจารณายกร่างกฎหมายเรื่องนี้เช่นกัน โดยแต่ละพรรคจะต่างคนต่างยื่นร่างเข้าสภาแล้วจึงไปว่ากันในการพิจารณาของรัฐสภา ยกตัวอย่างสมมติว่าในรัฐธรรมนูญระบุต้องไม่มีพฤติกรรมฝ่าฝืนประมวลจริยธรรมอย่างร้ายแรง ไม่ทราบว่าตีความอย่างไร จึงอยากกำหนดให้ หากใครถูกร้องหรือระหว่างถูกฟ้องในชั้นศาลว่าฝ่าฝืนจริยธรรม ซึ่งจะทำให้การตีความชัดเจนขึ้น เมื่อถามว่า หากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) รับเรื่องร้องเรียน หรือชี้มูลว่าฝ่าฝืนจริยธรรมแล้ว จะถือว่ายังไม่มีความผิดใช่หรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ใช่ เพราะการร้องไปที่ ป.ป.ช. ยังไม่รู้ว่าเขามีความผิดแล้วหรือยัง ถ้าจะสกัดกั้นคนด้วยวิธีการนี้ร้อง ก็จะทำให้คนที่ถูกร้องได้รับผลกระทบ เมื่อถามว่า แสดงว่าเส้นตัดที่จะพิจารณาว่าใครเข้าข่ายขัดจริยธรรมหรือไม่ซื่อสัตย์สุจริต คือศาลต้องรับฟ้องในคดีจริยธรรมใช่หรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า เราคิดเช่นนั้น เพื่อให้เกิดความชัดเจนขึ้น

เมื่อถามว่า มองอย่างไรที่สังคมมองว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้นักการเมืองเป็นฝ่ายที่ได้ประโยชน์ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า เราคิดว่าเราไม่ได้ประโยชน์อะไร แต่เราก็ระมัดระวัง ไม่ให้เป็นการแก้เพื่อประโยชน์ตัวเอง พรรคเพื่อไทยจึงขอแก้แค่พอดี ๆ ไม่ใช่ไปยกเลิกเขาทั้งหมด และต้องการแก้ไขให้เกิดความชัดเจน ทำให้การปฏิบัติหน้าที่เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และป้องกันไม่ให้การบริหารประเทศลำบาก เรามองว่ามีความจำเป็นไม่ใช่ทำเพื่อให้เราได้รับประโยชน์ และเพื่อให้บ้านเมืองมีกฎหมายที่เป็นธรรมยุติธรรมมากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่

...

ผู้สื่อข่าวถามถึงการแก้ไขประเด็นเสียงข้างมากของรัฐธรรมนูญในการลงมติเรื่องสำคัญ เช่นการยุบพรรคหรือเอาคนออกจากตำแหน่ง จะต้องใช้เสียงข้างมากเด็ดขาด แทนการใช้มติเสียงข้างมากธรรมดา นายชูศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้จะเป็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราเช่นกัน ยกตัวอย่างกรณีของนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ที่พ้นจากตำแหน่งด้วยมติศาลรัฐธรรมนูญ 5-4 เสียง ซึ่งเราก็ใช้วิจารณญาณคิดดูว่าเรื่องใหญ่แบบนี้ควรหรือไม่ จึงมีแนวความคิดว่าให้มติมากขึ้นหน่อยดีหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้กับเรื่องจริยธรรม ให้ชัดเจน จะทำไปพร้อมกัน ซึ่งการยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญคิดว่าเร็วที่สุดอาจจะภายในสัปดาห์หน้า ทั้งนี้ ขอยืนยันว่าทำในนามพรรคการเมืองไม่ใช่รัฐบาล เพราะรัฐธรรมนูญจะทำแต่การแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ส่วนการแก้ไขกฎหมายเพื่อเอาผิดนักร้องนักยื่นตรวจสอบนั้น มีกฎหมายอยู่แล้ว ส่วนจะทำให้เข้มขึ้นหรือไม่ก็ต้องมีการพิจารณาต่อไป โดยเฉพาะกลุ่มนักร้องที่หวังผลทางการเมือง แต่ขอยืนยันว่าขณะนี้มีกฎหมายควบคุมเรื่องนี้อยู่แล้ว

ด้านนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่อาจจะมีการแก้ไขเรื่องจริยธรรมของรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลบางพรรคก็เห็นด้วย ในส่วนของพรรคชาติไทยพัฒนานั้น มีการเอ่ยถึงในรายละเอียดการแก้รัฐธรรมนูญที่รายมาตรา ยังไม่มีการพูดคุยเป็นกิจจะลักษณะ แต่ถึงเวลาคงต้องมาพูดคุยกันอีกครั้งหนึ่ง เพราะต้องรับฟังความเห็นจากหลายฝ่าย ส่วนตัวยังไม่เห็นรายละเอียด จึงไม่อาจให้ความเห็นได้ในขณะนี้

เมื่อถามต่อว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน เพราะเป็นเรื่องจริยธรรมและความซื่อสัตย์ นายวราวุธ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่เซนซิทีฟกับพี่น้องประชาชน เป็นประเด็นที่ต้องพูดคุยหารือกัน ตนเองไม่สามารถให้ความเห็นได้ เพราะไม่ทราบรายละเอียด

นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์