"นายกฯอิ๊ง" - สามี เข้าเฝ้าสมเด็จพระสังฆราชฯ "ทักษิณ" จัดรถยนต์ให้ลูกสาวใช้แทนรถประจำตำแหน่ง กลาโหมจัดพิธีต้อนรับ "บิ๊กอ้วน-บิ๊กเล็ก" เต็มสูตร เรียก ผบ.เหล่าทัพถกโผนายพล ยอมรับเก้าอี้ ผบ.ทร.ยังเคลียร์ไม่ลงตัว ลั่นอีก 2 สัปดาห์จบ เล็งทบทวนโครงการเรือดำน้ำ “จิรายุ” ดอดพบ “หมอมิ้ง” นั่งโฆษกรัฐบาล ส่งซิกสื่อไว้เจอกันบ่อยๆ นายกฯชม “จเด็ศ” ขยันทำพื้นที่จนชนะเลือกซ่อมพิษณุโลก “อ้วน” ฟุ้งสะท้อนประชาชนพึงพอใจผู้นำ “ปิยบุตร” แนะ ปชน.ถอดบทเรียนพ่ายศึก “เท้ง” ปลุกเดินหน้าสร้างความเปลี่ยนแปลงต่อ “เรืองไกร” ตามจิกมินิฮาร์ต “อิ๊งค์-ภูมิธรรม-สุริยะ” “ชูศักดิ์” สั่งทีมกฎหมายลุยฟ้องหมิ่นฯ กำราบ “นักร้องไร้สาระ”

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมนายปิฎก สุขสวัสดิ์ คู่สมรส เข้าเฝ้าถวายเครื่องสักการะสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เป็นธรรมเนียมประเพณีปฏิบัติของนายกฯทุกคน ก่อนเข้าทำเนียบรัฐบาลปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นทางการ

"อิ๊งค์"-สามีเข้าเฝ้าพระสังฆราช

เมื่อเวลา 09.15 น. วันที่ 16 ก.ย.ที่วัดราชบพิธ สถิตมหาสีมาราม น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายปิฎก สุขสวัสดิ์ คู่สมรส เข้าเฝ้าถวายเครื่องสักการะสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ที่พระตำหนักสมเด็จพระสังฆราช และกราบนมัสการสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ ที่อาคารสัมฤทธิ์ ทันทีที่มาถึงนายกฯสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 จากนั้นเข้าเฝ้าถวายเครื่องสักการะสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก และกราบนมัสการ สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ ตามลำดับ ถือเป็นธรรมเนียมประเพณีปฏิบัติของนายกฯทุกคนก่อนทำหน้าที่ โดยสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราชฯ มอบพระพุทธวรายุวัฒนศาสดา ฉลองพระชนมายุ 8 รอบ 26 มิถุนายน 2566 และมอบหนังสือประมวลพระโอวาท พระคติธรรม และพระสัมโมทนียกถา หนังสือที่ระลึกการจัดงานฉลองพระชนมายุ 8 รอบฯ ให้แก่นายกฯ จากนั้นนายกฯได้สักการะพระพุทธอังคีรส พระประธานในพระอุโบสถวัดราชบพิธ สถิตมหาสีมาราม

...

ต่อมาเวลา 12.10 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้าเฝ้าถวายเครื่องสักการะสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงประทานพรในการทำงานอย่างไรบ้างว่า “ท่านได้ประทานพร ได้กราบบังคมทูลฯว่าวันนี้มาทำงานวันแรก และรู้สึกดีที่ได้ไปกราบและเข้าไปที่วัด ท่านอวยพรธรรมดาทั่วๆไป”

“ทักษิณ” จัดรถยนต์ให้ลูกสาวใช้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.แพทองธารได้เปลี่ยนมาใช้รถยนต์เลกซัส สีดำ ทะเบียน พพ 267 กรุงเทพมหานคร รถคันดังกล่าวเป็นของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้เป็นบิดาส่งมาให้ใช้ และจะใช้รถคันดังกล่าวเป็นหลัก ส่วนรถประจำตำแหน่ง ขณะนี้จอดอยู่ที่บ้านพิษณุโลก

กห.จัดพิธีรับ “บิ๊กอ้วน-บิ๊กเล็ก”

เวลา 10.00 น. ที่กระทรวงกลาโหม มีการจัด พิธีต้อนรับนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม พร้อม พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ในโอกาสเข้ารับตำแหน่งและปฏิบัติหน้าที่ มี พล.อ.สนิธชนก สังขจันทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) และ พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) และคณะนายทหารชั้นผู้ใหญ่เข้าร่วมพิธีโดยพร้อมเพรียง เริ่มที่ทำพิธีสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ประกอบด้วย องค์พระหลักเมือง ณ ศาลหลักเมือง จากนั้นสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ภายในกระทรวงกลาโหม ได้แก่ อารักขเทวสถาน เจ้าพ่อหอกลอง พระบรมรูปหล่อสมเด็จพระนเรศวรมหาราช พระบรมฉายาสาทิสลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว รูปหล่อจอมพลและมหาอำมาตย์เอกเจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรี (เจิม แสง-ชูโต) พระรูปหล่อจอมพลสมเด็จพระราช ปิตุลาบรมพงศาภิมุข เจ้าฟ้าภาณุรังสีสว่างวงศ์ฯ และพระบรมรูปหล่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า เจ้าอยู่หัว

เรียก ผบ.เหล่าทัพถกโผนายพล

จากนั้นเวลา 10.30 น. กระทำพิธีตรวจแถวกองทหารเกียรติยศผสม 3 เหล่าทัพ ณ ลานอเนก ประสงค์ ในศาลาว่าการกลาโหม ก่อนเข้ารับฟังบรรยายสรุปภารกิจกระทรวงกลาโหม และพูดคุยรับประทานอาหารกลางวันร่วมกับปลัดกระทรวงกลาโหม ผบ.ทสส. และ ผบ.เหล่าทัพ ทั้งนี้ บริเวณด้านในซึ่งเป็นลานอเนกประสงค์ มีการขึ้นป้ายบนจอ LED เป็นรูปภาพนายภูมิธรรมพร้อมข้อความ “ยินดีต้อนรับนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ด้วยความเคารพยิ่ง”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 12 ก.ย.เวลา 16.00 น. นายภูมิธรรมได้เรียก ผบ.เหล่าทัพ มาประชุมที่กระทรวงกลาโหมหารือเรื่องแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารชั้นนายพล มี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม พร้อมปลัดกลาโหม ผบ.ทสส. ผบ.ทบ.และ ผบ.ทอ. ขณะที่ ผบ.ทร.ไม่อยู่เนื่องจากเดินทางไปต่างประเทศ แต่ได้วิดีโอคอล มาร่วมประชุมใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง

ตั้งเพื่อนทักษิณเป็นเลขา รมว.กห.

นายภูมิธรรมให้สัมภาษณ์ถึงกรณีลงนามตั้งพล.อ.ไตรศักดิ์ อินทรรัศมี อดีตผู้ทรงคุณวุฒิ กองบัญชาการกองทัพไทย เพื่อนเตรียมทหารรุ่น 10 (ตท.10) ของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นเลขานุการ รมว.กลาโหมว่า เพิ่งเซ็นแต่งตั้งไปวันที่ 13 ก.ย. ส่วนตำแหน่งอื่นค่อยดูไปจะเลือกคนที่เหมาะสม วันนี้เราต้องการให้กองทัพรับทราบเป้าหมายเจตนารมณ์ของรัฐบาล ต้องการร่วมมือกันพัฒนากองทัพให้สนับสนุนการทำงานของประชาชนได้ วันนี้จะนั่งดูรายละเอียดบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารอีกที ผู้สื่อข่าวถามว่าโผทหารจะเสร็จเมื่อไหร่ นายภูมิธรรมตอบว่า ได้ขยายเวลาไปแล้วยังสามารถดำเนินการได้อย่างเหมาะสม ยืนยันว่าจะพยายามทำให้เร็วที่สุด และวันนี้ ผบ.ทร.เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ คงมีโอกาสคุยกันอย่างเป็นทางการ การคัดเลือก ผบ.เหล่าทัพแต่ละปีไม่ได้มีปัญหาอะไร ทุกอย่างจบลงด้วยดีมาทุกปี ปีนี้ก็น่าจะจบลงด้วยดีเช่นกัน คิดว่าไม่ภายในสัปดาห์หน้า หรืออาจต่อไปอีกหน่อย ไม่เกิน 2 สัปดาห์ น่าจะจบ

เล็งทบทวนโครงการเรือดำน้ำ ทร.

กระทั่งช่วงบ่าย นายภูมิธรรมให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าโครงการจัดหาเรือดำน้ำของกองทัพเรือ ที่ยังค้างคาอยู่ว่า เรื่องสำคัญแบบนี้ไม่ควรเร่งด่วน อยากคุยกับเหล่าทัพแต่ละเรื่องอย่างมีเหตุมีผล ต้องดูว่ากองทัพมีความจำเป็นและจะจัดการอย่างไร เมื่อถามว่านายสุทิน คลังแสง อดีต รมว.กลาโหม ได้สรุปผลการแก้ปัญหาเครื่องเรือดำน้ำ และเตรียมเข้า ครม. นายภูมิธรรมตอบว่า ควรให้ตนได้ทบทวนเพื่อดูและตัดสินใจ จะรับฟังจากเหล่าทัพที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาร่วมกัน

แจงเคลียร์เก้าอี้ ผบ.ทร.ยังไม่จบ

เมื่อถามว่าดูเหมือนต้องพูดคุยกับ ผบ.ทร.หลายเรื่อง โดยเฉพาะโผทหารที่เก้าอี้ ผบ.ทร.คนใหม่ยังไม่ลงตัว นายภูมิธรรมตอบว่า 4-5 วันที่ผ่านมา โทร.คุยกับ พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผบ.ทร. ตลอดคงหาข้อสรุปได้ เป็นธรรมดาช่วงเปลี่ยนผ่านไม่มีอะไรชักช้า พูดคุยเพื่อให้ได้ข้อสรุปที่ทุกฝ่ายสบายใจ เมื่อถามย้ำว่าโผทหารของกองทัพบกเรียบร้อยหรือไม่ นายภูมิธรรมตอบว่า ดูทั้งหมด เพิ่งเห็น ยังคุยไม่จบ เดี๋ยวก็เรียบร้อยเองขอเวลาหน่อย เมื่อถามถึงการแต่งตั้งเพื่อนร่วมรุ่น ตท.10 ของนายทักษิณ ชินวัตร เป็นคณะทำงาน ถือเป็นตัวแทนของนายทักษิณหรือไม่ นายภูมิธรรมตอบว่า ไม่หรอก คณะทำงานที่แต่งตั้งไม่น่าเกิน 3 ท่าน ขออย่ากังวลใจ รับประกันว่าไม่มีใครมาครอบงำอะไรได้ เป็นตัวของตัวเอง พร้อมทำงานกับเหล่าทัพด้วยความสบายใจ

“จิรายุ” ส่งซิกสื่อไว้เจอกันบ่อยๆ

ช่วงสาย นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ อดีต สส.กทม. พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าพบ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มหลังมีชื่อนั่งเป็นโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีว่า ยังไม่แน่ใจต้องรอพบ นพ.พรหมินทร์ก่อน และรอความชัดเจนจากนายกฯ ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 17 ก.ย. เมื่อถามว่ามีความพร้อมรับตำแหน่งโฆษกประจำสำนักนายกฯ ใช่หรือไม่ นายจิรายุตอบว่าทำงานด้านนี้มาตลอด เมื่อถามว่าในวันที่ 17 ก.ย.จะทำหน้าที่เลยหรือไม่ นายจิรายุตอบว่า พยายามอยู่ ให้รอวันที่ 17 ก.ย. ขอบคุณสื่อมวลชนแล้วเจอกันบ่อยๆ

เซ็นแบ่งงาน 5 รองนายกฯแล้ว

ต่อมาเวลา 12.05 น. นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการแบ่งงานรองนายกรัฐมนตรีว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ลงนามคำสั่งแบ่งงานรองนายกรัฐมนตรีเรียบร้อยแล้ว นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และ รมว. ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม จะดูเรื่องกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่องที่ดิน สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) และส่วนที่เกี่ยวข้องกับซอฟต์พาวเวอร์ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม กำกับดูแล กระทรวงกลาโหมและกระทรวงยุติธรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) สำนักข่าวกรองแห่งชาติ และคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) ขณะที่คณะกรรมการข้าราชการ ตำรวจ (ก.ตร.) นายกฯกำกับดูแลเอง

ยัน “จักรภพ” ไม่ติดปัญหาเรื่องคดี

ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคร่วมรัฐบาลส่งรายชื่อ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีมาหรือยัง นพ.พรหมินทร์ตอบว่า ตำแหน่งโฆษกฯมีเพียงรายชื่อเดียวที่ถูกส่งมา อยากให้รอฟังมติ ครม.ก่อน ส่วน 3 รองโฆษกฯ 1 ตำแหน่ง จะเป็นสัดส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ หรือกลุ่ม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา อดีตเลขาธิการ พรรคพลังประชารัฐ เรื่องนี้ค่อยคุยกัน ส่วนโควตาพรรครวมไทยสร้างชาติส่งรายชื่อมาเรียบร้อยแล้ว เป็นผู้หญิง เมื่อถามถึงกรณีนายจักรภพ เพ็ญแข อดีต รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และอดีตโฆษกประจำสำนักนายกฯ ไม่ได้มาดำรงตำแหน่งเพราะติดปัญหาเรื่องคดีความในอดีตใช่หรือไม่ นพ.พรหมินทร์ ตอบว่า นายจักรภพไม่ได้มีปัญหา และเจ้าตัวมีการชี้แจงชัดเจนแล้ว ยืนยันว่าไม่ได้มีปัญหาเรื่องคดีความในอดีต

ชง ครม.เคาะ 5 ชื่อที่ปรึกษานายกฯ

นพ.พรหมินท์กล่าวอีกว่า ส่วนการเสนอรายชื่อ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีที่จะเข้าที่ประชุม ครม. ในวันที่ 17 ก.ย. น่าจะทัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ รายชื่อ 5 คน ที่จะถูกเสนอดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกฯ ประกอบด้วย 1.นายชัยเกษม นิติสิริ 2.นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ 3.นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร 4.นายจักรพงษ์ แสงมณี และ 5.นายเทวัญ ลิปตพัลลภ

นายกฯชม “จเด็ศ” ขยันทำพื้นที่

อีกเรื่อง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงผลการเลือกตั้งซ่อม สส.พิษณุโลก เขต 1 ที่นายจเด็ศ จันทรา ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งซ่อมว่า ได้โทรศัพท์ไปแสดงความยินดีกับนายจเด็ศ นายจเด็ศลงพื้นที่หนักมาก ก็ขอบคุณและส่งกำลังใจไปให้ เมื่อถามว่าผลการเลือกตั้งครั้งนี้สะท้อนความนิยมของพรรคเพื่อไทยมีมากขึ้นหรือไม่ นายกฯตอบว่า ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีที่พรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้ง และนายจเด็ศตั้งใจทำพื้นที่มาก มีความต่อเนื่องกับนโยบายรัฐบาล ทำให้เกิดความเชื่อมั่นว่า สส.จะดูแลประชาชนอย่างดี เมื่อถามย้ำว่าผลการเลือกตั้งครั้งนี้ยิ่งทำให้มีกำลังใจทำหน้าที่หรือไม่ นส.แพทองธารตอบว่า มีแน่นอน เป็นกำลังใจอย่างแน่นอน

“อ้วน” ฟุ้งชนะเลือกซ่อมพิษณุโลก

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม แกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า นายจเด็ศเป็นคนมีศักยภาพ ประชาชนให้ความไว้วางใจ ถือเป็นกำลังใจให้พรรค พท. เมื่อถามว่าผลที่ออกมาสะท้อนอะไรได้บ้าง นายภูมิธรรมตอบว่า เป็นการสะท้อนว่าประชาชนพึงพอใจ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ และหัวหน้าพรรค พท. มีความตั้งใจและเป็นความหวังความเชื่อมั่น สะท้อนว่าประชาชนให้ความมั่นใจรัฐบาล เชื่อว่าจะทำให้รัฐบาลมีความมั่นคง แข็งแรงมากขึ้น เกิดความเชื่อมั่น นายกฯได้สั่งการแล้วว่าทุกคนต้องทำงานอย่างหนักตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย ขณะนี้ปัญหาของเราคือการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจให้ประชาชน

“ปิยบุตร” แนะถอดบทเรียนพ่ายศึก

ด้านนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์ลงโซเชียลยอมรับความพ่ายแพ้เลือกตั้งซ่อม จ.พิษณุโลกว่า “ยอมรับความพ่ายแพ้ แสดงความยินดีกับผู้ชนะนายจเด็ศ จันทรา ให้กำลังใจโฟล์ค อ๋อง ทีมงานพิษณุโลก และพรรค ปชน. ถอดบทเรียน เตรียมพร้อมต่อสู้กับการสนธิกำลังของ “ชนชั้นนำ 3 ฝ่าย” ชนชั้นนำดั้งเดิมจารีต ชนชั้นนำการเมืองจากทุกพรรค ทุกค่าย ชนชั้นนำทางเศรษฐกิจ ที่จะนำพิษณุโลกโมเดลไปขยายผลในการเลือกตั้งสส.ทั่วประเทศ ต้องช่วยกันต่อสู้ ยืนหยัดยืนยันต่อไปว่าประเทศไทยยังมีความหวัง ยังมีโอกาสเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ ด้วยพลังทางการเมืองใหม่”

“เท้ง” ปลุกเดินหน้าเปลี่ยนแปลงต่อ

นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ทวีตผ่าน X ระบุว่า “ขอบพระคุณพ่อแม่พี่น้องทุกคนที่ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งซ่อมพิษณุโลก เขต 1 และต้องขอแสดงความยินดีกับผู้ได้รับการเลือกตั้ง นายจเด็ศ จันทรา ผู้สมัครจากพรรค พท. พรรคประชาชนพร้อมเดินหน้าทำงานรับใช้พ่อแม่พี่น้องประชาชน ตามแนวทางและอุดมการณ์เดิมต่อไป อยากกล่าวคำขอบคุณให้กำลังใจโฟล์ค รวมถึงทีมผู้ช่วยหาเสียง เพื่อน สส. ทีมงานหลังบ้าน ผู้สนับสนุนพรรคทุกคน ครั้งนี้ทุกคนทำอย่างเต็มที่ดีที่สุดแล้ว นี่คือสิ่งที่พวกเราทุกคนควรภาคภูมิใจ ไม่มีสิ่งใดต้องเสียใจ วันนั้นเราตัดสินใจมาทำงานการเมืองเพราะไม่ได้คาดหวังในชัยชนะที่จะได้มาในระยะสั้นๆ แต่เราต้องการเข้ามาทำงานการเมืองระยะยาว เก็บชัยชนะทีละเล็กทีละน้อย เดินหน้าทำงานรับใช้ประชาชน สร้างรัฐบาลแห่งการเปลี่ยนแปลงกันต่อครับ”

“เรืองไกร” ตามจิกมินิฮาร์ต “อิ๊งค์”

ขณะที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวว่า ได้ส่งคำร้องถึงคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ตรวจสอบ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ รวมถึงนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รมว.กลาโหม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯและ รมว.คมนาคม และส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย กรณีชูนิ้วมือทำมินิฮาร์ตขณะใส่เครื่องแบบราชการชุดปกติขาวถ่ายรูปหมู่ ครม.ที่ทำเนียบรัฐบาล เข้าข่ายฝ่าฝืนหรือไม่ ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรม ข้อ 17 หรือไม่ หลังจากยื่นเรื่องให้ ป.ป.ช.สอบกรณีดังกล่าวไปแล้ว นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รอง นายกฯและ รมว.พลังงาน ไปออกรายการหนึ่งเมื่อวันที่ 10 ก.ย. ยืนยันการทำมินิฮาร์ตขณะใส่เครื่องแบบราชการทำไม่ได้ มีเหตุอันควรให้ กกต.ตรวจสอบ

“เด็จพี่” ราวี “ลุงป้อม” ฟอกเงิน

เวลา 10.00 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการ ปปง.ให้พิจารณาไต่สวนดำเนินคดี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร. และ สส.บัญชีรายชื่อ เป็นเจ้าพนักงานรัฐเรียกรับเงิน เข้าข่ายการกระทำผิดฐานฟอกเงิน ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินมาตรา 3 ในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ ตาม ป.อาญา ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์กรหรือหน่วยงานของรัฐ หรือความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ หรือทุจริตต่อหน้าที่ตามกฎหมายอื่น นายพร้อมพงศ์กล่าวว่า พล.อ.ประวิตรเป็นถึงอดีตรองนายกฯ ต้องยึดผลประโยชน์ชาติเหนือกว่าส่วนตน ต้องไม่ขอ ไม่เรียก ไม่รับทรัพย์สินหรือประโยชน์ อื่นใด ที่จะส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่

ทีม ก.ม.พท.ลุยฟ้องหมิ่น “นักร้อง”

นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนัก นายก รัฐมนตรี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่าได้เรียกประชุมฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย หารือกรณีมีผู้ยื่นเรื่องร้องเอาผิด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ล่าสุดเรื่องแต่งตั้งนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ เป็น รมช.คมนาคม เพราะเคยต้องคำพิพากษาให้จำคุก และสื่อมวลชนนำไปเป็นประเด็นพาดหัวโดยไม่ดูรายละเอียด นายสุรพงษ์ไม่เคยต้องคำพิพากษาใดๆมาก่อน ตั้งแต่เป็นนายก อบจ.กาญจนบุรี จนถึงปี 2566 การร้องดังกล่าวทำให้นายสุรพงษ์เสียหาย นายสุรพงษ์เตรียมดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นประมาท การร้องในลักษณะนี้ทำให้เสียเวลาทำงานให้ประเทศ จุกจิกไม่มีสาระ จะให้ฝ่ายกฎหมายพรรคพิจารณา จำเป็นต้องดำเนินการที่คิดว่าสามารถทำได้ ให้ดูเป็นพิเศษเพื่อจัดการ ตอบแทนกันบ้าง รัฐบาล น.ส.แพทองธารตรวจสอบคุณสมบัติเข้มข้น

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่