รมว.ต่างประเทศ เดินหน้าหารือเมียนมา หาพื้นที่รับน้ำบรรเทาน้ำเหนือ เล็งใช้ความร่วมมือ MLC จับมือเพื่อนบ้าน ร่วมบริหารจัดการน้ำระยะยาว พร้อมแสดงความเสียใจครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับผลกระทบ

วันที่ 16 กันยายน 2567 นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยถึงสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้น และส่งผลกระทบต่อทั้งประเทศไทย เมียนมา สปป.ลาว และเวียดนาม ว่า ตนได้หารือกับสถานทูตและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างๆ ตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อเร่งประสานงานกับฝ่ายเมียนมา เกี่ยวกับสถานการณ์น้ำท่วมที่ไทยและเมียนมาซึ่งต่างประสบภัยอยู่ในขณะนี้ รวมถึงเพื่อหารือถึงความร่วมมือกัน ในการขยายพื้นที่รับน้ำ บรรเทาปัญหาอุทกภัยในบริเวณตอนเหนือของประเทศไทย ตามข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี โดยขณะนี้สถานการณ์น้ำท่วมในประเทศเมียนมาก็หนักอยู่มาก เนื่องมาจากพายุและน้ำหลากจากที่สูง ไหลลงสู่แม่น้ำสาละวิน เช่นกัน

นายมาริษ ยืนยันว่า สถานทูตไทยกำลังเร่งประสานงานเพื่อให้หน่วยงานด้านน้ำของทั้ง 2 ประเทศ หารือกันในรายละเอียดด้านเทคนิคว่ามีพื้นที่ใดที่จะสามารถขยายให้เป็นพื้นที่รองรับน้ำได้อีก เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาต่อไป พร้อมยังระบุว่า สถานการณ์น้ำเป็นวิกฤติของทุกประเทศในกลุ่มลุ่มแม่น้ำโขง ตนได้ทราบด้วยว่า สถานการณ์อุทกภัยในเมืองท่าขี้เหล็กครั้งนี้ร้ายแรงที่สุดในรอบ 30 ปี ซึ่งแม้จะขุดลอกท่อและเก็บกวาดขยะออกไปก่อนฤดูฝนแล้ว แต่ด้วยสถานการณ์ที่มีฝนตกหนัก ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันตามบริเวณแม่น้ำสาย ซ้ำยังมีสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำแม่น้ำสาย จากทั้งฝ่ายไทยและฝ่ายเมียนมาในหลายพื้นที่ ทำให้ความกว้างของแม่น้ำสายแคบลงและเกิดการตื้นเขิน เป็นการซ้ำเติมปัญหาการระบายน้ำในแม่น้ำสายมากยิ่งขึ้น ดังนั้น ในระยะยาวตนได้เตรียมเสนอความร่วมมือด้านการบริหารจัดการน้ำผ่านกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง MLC ต่อไปด้วย

...

พร้อมกันนี้ นายมาริษ ยังแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยทั้งในประเทศไทย เมียนมา สปป.ลาว และเวียดนาม พร้อมขอเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ในการช่วยเหลือผู้ประสบภัย และขอให้สถานการณ์คลี่คลายสู่สภาวะปกติโดยเร็วที่สุด.