“ทักษิณ” ส่ง 2 ซินแสคู่ใจปรับฮวงจุ้ยห้องทำงานทำเนียบให้ “อิ๊งค์” นายกฯไม่รับเงินเดือนส่งต่อมูลนิธิ เผยตั้งใจมาแต่ต้น “พิชัย” ผิดหวัง “โรม” ฟอร์มฝืดมีแต่ วาทกรรม “โรม” สวนเป็นผู้ใหญ่ทำตัวให้น่าเคารพหน่อย ขอให้จริง “นายใหญ่” ไม่มีเอี่ยว เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ครม.จ่อตั้งทีมโฆษกรัฐบาล “จิรายุ” ตัวเต็งจ๋า “จักรภพ” รีบปัดไร้มลทินทุกคดี “แพทองธาร” ลงนามตั้งวิป รบ.ชุดใหม่ “วิสุทธิ์” ขลังยังนั่งประธานต่อ “ไพบูลย์” ดิ้นให้สุดงัด ก.ม. ดักฟังขู่คนแพร่คลิปเสียง “เด็จพี่” จวกฟ้องปิดหู-ปิดตาสื่อ นิด้าโพลชี้คนไม่เชื่อมือรัฐบาล เลือกซ่อม สส.พิษณุโลก “จเด็ศ” พท.ชนะขาด “ณฐชนน” ปชน.

ก่อนที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะเข้าปฏิบัติหน้าที่เต็มตัวที่ทำเนียบรัฐบาลในสัปดาห์นี้ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ผู้เป็นบิดา ได้แนะนำ 2 ซินแสเพื่อนสนิทชาวต่างชาติเข้ามาดูสถานที่ทำเนียบฯ และห้องทำงานบนตึกไทยคู่ฟ้า มีการเสนอให้ปรับเปลี่ยนบางมุมเพื่อให้เหมาะสมกับการทำงาน

ส่งซินแสปรับฮวงจุ้ยให้ “อิ๊งค์”

เมื่อวันที่ 15 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า ก่อนที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะเข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาลในช่วงเช้าของวันที่ 12 ก.ย. และวันที่ 13 ก.ย. น.ส.แพทองธารได้ปรึกษานายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยนายทักษิณได้แนะนำซินแส 2 คนที่เป็นเพื่อนสนิทชาวต่างชาติให้เข้ามาดูสถานที่ทำเนียบรัฐบาล และห้องทำงานนายกฯบนตึกไทยคู่ฟ้า มีการเสนอให้ปรับเปลี่ยนมุมในห้องทำงาน จากที่นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ เคยปรับมาก่อนหน้า เพื่อให้เหมาะสมกับการทำงาน ทั้งนี้ มีรายงานเพิ่มเติมว่าวันที่คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ มารดา เดินทางเข้าทำเนียบเมื่อวันที่ 12 ก.ย.เพื่อสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ คุณหญิงพจมานที่ไม่ได้เข้าทำเนียบฯในรอบหลายปี เอ่ยปากพูดชมกับนายกฯว่า “ทำเนียบสวยขึ้นเยอะ”

...

นายกฯไม่รับเงินเดือนส่งต่อมูลนิธิ

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า หลังการเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการ น.ส.แพทองธารเปรยกับคนใกล้ชิดว่า จะไม่ขอรับเงินเดือนในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยจะมอบให้กับมูลนิธิต่างๆเช่นเดียวกับที่นายเศรษฐา ทวีสิน เคยปฏิบัติ และเป็นความคิดของ น.ส.แพทองธารมาตั้งแต่ต้นแล้ว

ชี้คนตัดเกรดรัฐบาลคือประชาชน

นายดนุพร ปุณณกันต์ โฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงการตัดเกรดนายกฯ และคณะรัฐมนตรี ในการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภาว่า คนที่จะตัดเกรดรัฐบาลคือประชาชน เมื่อถามว่าหลังแถลงนโยบายแล้วประชาชนย่อมคาดหวังผล ในฐานะพรรคแกนนำรัฐบาลจะช่วยสนับสนุนรัฐบาลและรัฐมนตรีอย่างไรบ้าง นายดนุพรตอบว่า ในฐานะ สส.คิดว่าสิ่งที่สามารถสนับสนุนได้คือกฎหมาย อะไรก็ตามหากเป็นอุปสรรคในการทำงานของรัฐบาล เราต้องนำกฎหมายเหล่านั้นเข้ามาแก้ไขในสภาฯ หรือร่างกฎหมายใหม่ๆ ขึ้นมาให้ทันสมัย เพื่อสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลให้ดียิ่งขึ้น

“พิชัย” ผิดหวัง “โรม” มีแต่วาทกรรม

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ว่า รู้สึกแปลกใจการอภิปรายของนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในการแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภาที่ต่ำกว่าคุณภาพมาก ข้อวิจารณ์เรื่องยาเสพติดและเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ที่ว่ามีนายใหญ่ได้เปอร์เซ็นต์ ถือเป็นการกล่าวหาแบบไม่มีหลักฐาน พาดพิงบุคคลอื่นให้เสียหาย อีกประเด็นคือการกล่าวหาว่านายกฯถูกสั่งจากแสงจันทร์ ถือเป็นวาทกรรมที่ไร้วุฒิภาวะ ควรหยุดพูดกันได้แล้วว่าจะมีใครมาสั่งนายกฯได้ วันนี้นายกฯถือเป็นเบอร์ 1 ของการบริหารราชการแผ่นดินที่ถูกต้องตามกฎหมาย และได้รับการยอมรับเป็นอย่างดีจากพรรคร่วมรัฐบาล ในทางกลับกันถ้าพูดบ้างว่าเวลานายรังสิมันต์อภิปราย มีใครสั่งมาบ้างให้พูดเรื่องนั้นเรื่องนี้ รัฐบาลนี้ไม่มีนายกฯม้าแบบที่มีการสาดโคลนโดย สส.คนรุ่นใหม่ มีแต่นายกฯที่ถูกต้องตามกฎหมาย บริหารประเทศจริง นั่งประชุม ครม.อยู่หัวโต๊ะจริง ข้อเท็จจริงตรงนี้ฝากให้นายรังสิมันต์ได้ทบทวน เพื่อเตรียมการอภิปรายในหนต่อไปให้ดีเหมือนที่เคยปฏิบัติมา

“โรม” สวน “พิชัย” ทำตัวไม่น่าเคารพ

ด้านนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) กล่าวว่า นายพิชัยไม่ควรเอาเรื่องอายุมาโยงกับการทำหน้าที่ สส. หากนับก็อายุน้อยกว่านายกฯไม่มากนัก นายพิชัยควรทำตัวให้น่าเคารพกว่านี้ เรื่องอายุเป็นเรื่องไร้สาระที่ไม่ควรหยิบยกมาพูดถึง ส่วนเรื่องยาเสพติดพยายามจะชี้ให้เห็นว่าเราสามารถแก้ปัญหาด้วยการจัดการชายแดนอย่างมีประสิทธิภาพ และมุ่งปัญหาไปที่ต้นตอ เพราะวิธีการเดิมๆนั้นล้มเหลว ตลอดหนึ่งปีของรัฐบาลพรรคเพื่อไทยไม่ได้แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพการจัดการเรื่องนี้แม้แต่น้อย อย่าลืมไปดูพรรคร่วมรัฐบาลของท่านด้วย ที่ทำการพรรควันนี้ถูกยึดอายัดโดยสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) และเรื่องบัญชีม้าตราบใดที่ไม่แก้ปัญหาที่ต้นตอคือความหลวมของธนาคาร การไม่รับผิดชอบของธนาคารและผู้ให้บริการอินเตอร์ เน็ตเราแทบจะแก้ปัญหาเรื่องเหล่านี้ไม่ได้ ไม่ต้องเชื่อตนในข้อมูลที่พูดในสภาก็ได้ แต่การฆ่าตัวตายและการถูกหลอกของประชาชนเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริง

ขอให้จริง “นายใหญ่” ไม่มีเอี่ยว

นายรังสิมันต์กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องเอนเตอร์เทน เมนต์คอมเพล็กซ์ ที่สมาชิกพรรคเพื่อไทยออกมาปกป้องว่านายใหญ่ไม่เกี่ยวข้องหรือมีส่วนแบ่งกับเรื่องนี้ ขอให้มันจริงอย่างที่พูด เรื่องนี้พิสูจน์ได้ด้วยความจริงและความโปร่งใส จะรอดู ยืนยันการหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาเป็นการเตือนด้วยความหวังดี ส่วนเรื่องนายกฯม้า นายทักษิณพูดเองว่าเขาครอบครองนายกรัฐมนตรี อีกทั้งวันที่นายเศรษฐาต้องพ้นจากการเป็นนายกฯ บรรดาพรรคการเมืองต่างๆไปที่ไหน ประชาชนเห็นว่าเกิดอะไรขึ้น น.ส.แพทองธารจะเป็นนายกฯม้าให้คนอื่นใช้งานหรือไม่ อยู่ที่การพิสูจน์ตัวเอง เราจะรอดู

ตั้งทีมโฆษกรัฐบาล-ขรก.การเมือง

วันเดียวกัน นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการวางวาระงานหลังคณะรัฐมนตรี (ครม.) เริ่มเข้าปฏิบัติหน้าที่ว่า จะดำเนินการนโยบายตามที่รัฐบาลประกาศไว้ การประชุม ครม.วันที่ 17 ก.ย.นัดแรก นอกจากทยอยแต่งตั้งข้าราชการการเมือง ที่จะเสนอรายชื่อเข้ามาในส่วนที่พร้อมให้เยอะที่สุด เพราะงานต้องเดินต่อแล้ว ส่วนใหญ่เป็นคนเดิม รวมถึงตำแหน่งโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีน่าจะได้ในวันนั้นด้วย ยังมีวาระสำคัญคือสิ่งที่ต้องทำเร่งด่วน ไม่ว่าจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ต้องรีบจัดการดำเนินการต่อ การแก้ปัญหาน้ำท่วม และวาระที่เหลือเป็นงานที่คั่งค้างที่กระทรวงต่างๆเสนอมา เมื่อถามว่ารายชื่อคณะโฆษกรัฐบาลมีพูดคุยกันมาบ้างหรือไม่ นพ.พรหมินทร์ตอบว่า หากพร้อมก็คงแต่งตั้ง และเชื่อว่าคงมีการแต่งตั้งในที่ประชุม ครม.วันที่ 17 ก.ย. เมื่อถามถึงกรณีมีชื่อนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ อดีต สส.กทม. พรรคเพื่อไทย มานั่งตำแหน่งโฆษกรัฐบาล นพ.พรหมินทร์ตอบว่า ไม่มีความเห็น คงทราบในวันประชุม ครม.ว่าเป็นใคร

ชื่อ “จิรายุ ห่วงทรัพย์” ตัวเต็งจ๋า

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำแหน่งโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดิมมีชื่อนายจักรภพ เพ็ญแข อดีต รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สมัยรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช และอดีตโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สมัยรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เป็นแคนดิเดต ล่าสุดติดเงื่อนไขบางประการ ทำให้มีการเสนอชื่อนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ อดีต สส.กทม. พรรคเพื่อไทย ขึ้นมาแทน และสัปดาห์ที่ผ่านมา น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ได้เรียกนายจิรายุเข้าไปพูดคุย คาดว่าจะเป็นเรื่องนี้และนายจิรายุได้ยื่นใบลาออกจากกรรมการรัฐวิสาหกิจตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมาแล้ว ขณะที่ตำแหน่งรองโฆษกประจำสำนักนายกฯโควตาพรรคร่วมรัฐบาลนั้น ส่วนของพรรคภูมิใจไทยยังเสนอคนเดิมคือนายคารม พลพร กลาง อดีตรองโฆษกประจำสำนักนายกฯ นั่งในโควตาพรรคภูมิใจไทย ส่วนโควตากลุ่ม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีต รมว.เกษตรและสหกรณ์ สส.พะเยา อดีตเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) มีชื่อนายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ อดีตผู้สมัคร สส.สงขลา พรรค พปชร. ด้านพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ไม่ประสงค์ส่งคนนั่งรองโฆษกประจำสำนักนายกฯ ขณะที่พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) มีรายงานว่าได้ชื่อคนที่จะมาเป็นรองโฆษกประจำสำนักนายกฯแล้ว แต่ยังไม่มีการเปิดเผย

ขรก.การเมือง พท.ยึดชุดเดิม

ทั้งนี้ มีรายงานจากพรรคเพื่อไทยเพิ่มเติมว่า ตำแหน่งข้าราชการการเมืองที่จะเข้าสู่ที่ประชุม ครม. วันที่ 17 ก.ย. จะเป็นในส่วนของเลขานุการรัฐมนตรี และที่ปรึกษารัฐมนตรี ส่วนใหญ่ยังคงเป็นบุคคลที่เป็นข้าราชการการเมืองเดิมจากรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน แต่มีการสลับตำแหน่งกันบ้างเพื่อให้เกิดความเหมาะสมกับการทำงานมากยิ่งขึ้น แต่สำหรับรัฐมนตรีที่เข้าใหม่ยังใช้คนเดิมที่เคยมีตำแหน่งข้าราชการการเมืองจากรัฐบาลก่อน เช่น นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ มีนายคุณากร ปรีชาชนะชัย อดีต สส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย มาเป็นที่ปรึกษา รมว.พาณิชย์ นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา มีนายกฤษฎา ตันเทอดทิตย์ อดีต สส.หนองคาย เป็นเลขานุการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา

“จักรภพ” รีบปัดไร้มลทินทุกคดี

ต่อมานายจักรภพ เพ็ญแข โพสต์ลงเฟซบุ๊กระบุว่า “ตกลงโฆษกรัฐบาลไม่ใช่ จักรภพ เพ็ญแข นะครับ ไม่ได้ติดเงื่อนไขอะไรตามข่าว แต่ว่ากันตามยุทธศาสตร์ใหม่ที่เพิ่งคุยกัน กองเชียร์ผู้น่ารักทั่วประเทศขอให้สบายใจว่าผมเคลียร์คดีหมดแล้ว จึงขอแนบหนังสือจากสำนักงานอัยการสูงสุด 2 ฉบับที่สั่งไม่ฟ้องทั้งสองคดีมาให้อ่านกันเล่น ยังเต็มที่”

นายกฯลงนามตั้งวิป รบ.ชุดใหม่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ได้ลงนามหนังสือคำสั่งนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วิปรัฐบาล) มีนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) เป็นประธาน มีรองประธานฯประกอบด้วย นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม สส.สุรินทร์ พรรค พท. นายโอชิษฐ์ เกียรติก้องชูชัย สส.ชัยภูมิ พรรค พท. น.ส.ชนก จันทาทอง สส.หนองคาย พรรค พท. นายอาสพลธ์ สรรณ์ไตรภพ สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย (ภท.) นางพิชชารัตน์ เลาหพงศ์ชนะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) นายประมวล พงศ์ถาวราเดช สส.ประจวบคีรีขันธ์ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และคณะที่ปรึกษาประกอบด้วย นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง และนายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ อดีตที่ปรึกษา รมว.เกษตรและสหกรณ์

“ไพบูลย์” ดิ้นให้สุดงัด ก.ม.ดักฟังขู่

อีกเรื่อง นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวว่า นอกจากยื่นฟ้องดำเนินคดีนายดนัย เอกมหาสวัสดิ์ ผู้ดำเนินรายการ “เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand” รักษาการ ผอ.ใหญ่ และสถานีโทรทัศน์ช่อง 9 MCOT ต่อศาลอาญา ในข้อหาหมิ่นประมาทจากกรณีนำคลิปเสียงมาเผยแพร่แล้ว ยังเตรียมฟ้องในข้อหากระทำความผิดตามประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ฉบับที่ 21 เรื่องห้ามการดักฟังทางโทรศัพท์หรือเครื่องมือสื่อสารใด ข้อ 2 ที่บัญญัติว่า “ผู้ใดรับรู้ข้อความที่ได้มาจากการกระทำความผิดตามข้อ 1 ใช้ประโยชน์หรือเปิดเผยข้อความนั้นต่อผู้อื่น โดยไม่มีอำนาจโดยชอบด้วยกฎหมาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” เพิ่มในคำฟ้องเป็นอีกฐานความผิดด้วย

“เด็จพี่” จวกฟ้องปิดหู-ปิดตาสื่อ

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การที่นายไพบูลย์ออกมาปกป้อง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร. โดยยื่นฟ้องต่อศาลอาญา ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และฟ้องศาลแพ่งเรียกค่าเสียหาย 50 ล้านบาท การฟ้องสื่อที่กำลังทำหน้าที่ตรวจสอบการทุจริต เท่ากับว่านายไพบูลย์ยอมรับว่าเป็นคลิปเสียงจริง ไม่ใช่ AI วันนี้นายไพบูลย์กำลังแก้เกี้ยวเพื่อปิดปากสื่อ ไม่ให้ความสำคัญกับการตรวจสอบทุจริต ไม่กล้าสู้ความจริง ขอให้นายไพบูลย์ไปตรวจสอบรัฐธรรมนูญมาตรา 35 และคำพิพากษาศาลฎีกา 3782/2564 ที่มีการคุ้มครองสิทธิของสื่อ และประชาชน ในการแสวงหาพยานหลักฐาน เรื่องการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายและทุจริต เนื่องจาก พล.อ.ประวิตรเป็นบุคคลสาธารณะ เป็นถึงอดีตรองนายกรัฐมนตรี เป็นหัวหน้าพรรค พปชร. และปัจจุบันเป็น สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พปชร.ด้วย

นิด้าโพลชี้คนไม่เชื่อมือรัฐบาล

ขณะที่นิด้าโพลเปิดผลสำรวจความคิดเห็นประชาชน เรื่อง “ความเชื่อมั่น ความกังวลที่มีต่อรัฐบาลนายกฯอิ๊งค์” ระหว่างวันที่ 9-11 ก.ย. จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป รวม 1,310 หน่วยตัวอย่าง พบว่าส่วนใหญ่ร้อยละ 35.42 ไม่ค่อยเชื่อมั่นต่อรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ในการแก้ไขปัญหาของประเทศ รองลงมาร้อยละ 28.17 ค่อนข้างเชื่อมั่น ร้อยละ 22.52 ระบุไม่เชื่อมั่นเลย มีร้อยละ 13.13 ที่เชื่อมั่นมาก สำหรับความกังวลต่อการทำงานของ รัฐบาล ร้อยละ 36.03 มีความกังวลเรื่องผลงานของรัฐบาล ไม่เป็นไปตามที่สัญญาและคาดหวัง ร้อยละ 32.14 ชี้ว่า อายุและประสบการณ์ทางการเมือง/ การบริหารของนายกฯอาจทำให้เกิดการตัดสินใจที่ผิดพลาดและบทบาทของนายทักษิณ ชินวัตร ที่เกินขอบเขตจนนำไปสู่การถูกฟ้องเรื่องการครอบงำ รองลงมาระบุว่าการบริหารงานที่ไม่ระมัดระวังอาจเกิดการทุจริตคอร์รัปชัน การบริหารงานที่ผิดพลาดจนนำไปสู่สถานการณ์วิกฤติ การชุมนุมประท้วงรัฐบาลจนเกิดความวุ่นวาย กลุ่มผู้ต่อต้านนายทักษิณ ที่พร้อมจะร้องเรียนและล้มรัฐบาล การก่อรัฐประหาร ล้มรัฐบาล พรรคร่วมรัฐบาลจ้องจะล้มนายกฯ ด้านความคิดเห็นต่อบทบาทของนายทักษิณที่จะส่งผลกระทบต่อคะแนนนิยมทางการเมืองของพรรคเพื่อไทยในรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ส่วนใหญ่ร้อยละ 40.23 มองว่า ส่งผลกระทบในทางลบ ร้อยละ 33.29 มองว่าไม่ส่งผลกระทบใดๆ ร้อยละ 22.21 ชี้ว่าส่งผลกระทบในทางบวก

ปธ.กกต.ดูเลือกตั้งซ่อมพิษณุโลก

ด้านการเลือกตั้งซ่อม สส.พิษณุโลก เวลา 07.45 น. ที่โดมอเนกประสงค์เทศบาลเมืองอรัญญิก อ.เมืองพิษณุโลก นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตรวจเยี่ยมและสังเกตการณ์การลงคะแนนเลือกตั้ง สส.พิษณุโลก เขตเลือกตั้งที่ 1 แทนตำแหน่งที่ว่าง หน่วยเลือกตั้งที่ 11 หมู่ที่ 3 ต.อรัญญิก ต่อมานายอิทธิพรให้สัมภาษณ์ว่า ยังไม่มีเรื่องร้องเรียนการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ส่วนผลการนับคะแนนจะทราบอย่างไม่เป็นทางการไม่เกิน 21.00 น. และสามารถประกาศผลคะแนนอย่างไม่เป็นทางการได้ ส่วนจำนวนผู้ออกมาใช้สิทธิ์ ถ้าดูจากตัวเลขในการเลือกตั้งปี 2566 มีผู้มาใช้สิทธิ์ถึง 75.18% ถือเป็นตัวเลขที่สูง จะพยายามทำเรื่องการนับคะแนนให้ดีที่สุด เรื่องไฟส่องสว่างจะให้มีเพียงพอ ทำให้โปร่งใสมากที่สุด เมื่อถามว่าในโซเชียลมีการกล่าวหาถึงการซื้อสิทธิ์ขายเสียงกัน นายอิทธิพร ืตอบว่า การกล่าวหาหรือพูดแบบคาดคะเนไม่ผิด แต่อยากให้หลีกเลี่ยง อยากให้คนที่วิพากษ์วิจารณ์แบบไม่มีเหตุผล ขออย่าทำเลย เพราะอาจมีความผิดตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง สส.มาตรา 73 (5)

“จเด็ศ” พท.ชนะขาด “ณฐชนน”

กระทั่งเวลา 19.20 น. ผลการนับคะแนนเลือกตั้งซ่อม สส.พิษณุโลก เขต 1 แทนตำแหน่งที่ว่าง อย่างไม่เป็นทางการ หลังจากปิดหีบมีการนับคะแนนไปแล้ว 100% ผลปรากฏว่า คะแนนนายจเด็ศ จันทรา ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทยได้ 37,209 คะแนน ชนะนายณฐชนน ชนะบูรณาศักดิ์ ผู้สมัครจากพรรคประชาชน ที่ได้ 30,640 คะแนน ทิ้งห่างประมาณ 7 พันคะแนน ทั้งนี้ มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง 54.95% ของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง

“ปดิพัทธ์” ยอมรับความพ่ายแพ้

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา อดีต สส.พิษณุโลก เขต 1 โพสต์ข้อความผ่าน X ว่า “ขอยอมรับความพ่ายแพ้ และแสดงความยินดีกับคุณบู้ จเด็ศ จากพรรคเพื่อไทยด้วยครับ ขอบคุณทุกคะแนนเสียง ทุกการรณรงค์ที่เกิดขึ้นในเลือกตั้งซ่อมเขต 1 พิษณุโลกครับ”

“ทักษิณ” ร่วมแต่งลูก “ประเสริฐ”

เวลา 18.00 น. ที่มูลนิธิพรหมธรรมสถานสงเคราะห์ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีฉลองมงคลสมรสนายพชร จันทรรวงทอง สส.นครราชสีมา พรรค เพื่อไทย บุตรชายนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม มีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย นางสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.วัฒนธรรม ร่วมงาน ทันทีที่มาถึงนายทักษิณได้เดินทักทายแขกเหรื่อและชาวบ้านที่มาร่วมงาน บรรยากาศเป็นไป อย่างคึกคักและอบอุ่น มีชาวบ้านขอสวมกอดและถ่ายรูปด้วย ทั้งนี้ นายทักษิณกล่าวอวยพรคู่บ่าวสาวว่า ตั้งใจเดินทางมาแม้เป็นหวัดไม่สบาย เพราะนายประเสริฐ อยู่กับตนและพรรคไทยรักไทย แม้ถูกยุบ 3 รอบ ก็ไม่ ไปไหน เป็นครอบครัวที่เหมือนลูกหลาน และวันนี้มา สานงานต่อคุณพ่อ เป็น สส.สีคิ้ว ขอให้ประสบความสำเร็จ

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่