“ณฐชนน” ผู้สมัครพรรคประชาชน มั่นใจชนะเลือกตั้งซ่อมพิษณุโลก เขต 1 ยันไม่กดดันรับไม้ต่อ “หมออ๋อง” ด้านผู้ช่วยหาเสียงตัวตึง “ธนาธร-ชัยธวัช-ปิยบุตร-พิธา” ร่วมปราศรัย ขอโอกาสเปิดใจให้รับใช้ประชาชน

วันที่ 13 กันยายน 2567 ที่สวนชมน่าน จ.พิษณุโลก นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ กรรมการบริหารพรรคประชาชน ตอบคำถามสื่อมวลชนก่อนร่วมเวทีปราศรัย ถึงกรณีที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวในที่ประชุมรัฐสภา ในการแถลงนโยบายรัฐบาล เมื่อวานนี้ (12 กันยายน) ไม่อยากเห็นฝ่ายค้านกลายเป็นฝ่ายแค้น โดยมองว่าเป็นเทคนิคและลีลาในการตอบโต้ และเป็นการเบี่ยงประเด็นจากคำถามของ สส. แกนนำพรรคประชาชน คาดว่าเป็นลีลาของนายกรัฐมนตรีที่จะได้เห็นกันใน 2-3 ปีข้างหน้าตามวาระที่เหลือ

ขณะเดียวกัน นายพิจารณ์ ยังกล่าวให้กำลังใจนายกรัฐมนตรี เพราะขึ้นสู่ตำแหน่งตั้งแต่อายุยังน้อย และยังมีประสบการณ์ไม่มากนัก ส่วนประเด็นที่นายกรัฐมนตรีขอให้ฝ่ายค้านหยุดใช้วาทกรรมมาโจมตีนั้น นายพิจารณ์ ระบุว่า ในการอภิปรายอาจมีการใช้วลีหรือถ้อยคำ แต่อยากให้นายกรัฐมนตรีตอบประเด็นที่ถูกตั้งคำถามมากกว่า เพราะฝ่ายค้านอยากเห็นการแสดงวิสัยทัศน์มากกว่าแค่การตอบโต้

...

ทางด้าน นายณฐชนน ชนะบูรณาศักดิ์ ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) เลือกตั้งซ่อมพิษณุโลก เขตเลือกตั้งที่ 1 พรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ว่ามั่นใจจะชนะได้ 100% หลังทำพื้นที่มาตั้งแต่อดีตจนถึงช่วงการหาเสียงเลือกตั้งซ่อม เป็นหลักฐานชี้ชัดว่าพรรคประชาชนคือพรรคที่พูดอย่างไรทำอย่างนั้น โปร่งใส ตรวจสอบได้ และหวังว่าประชาชนจะยืนข้างเรา

ขณะเดียวกัน นายณฐชนน ยังหวังว่าเวทีปราศรัยใหญ่โค้งสุดท้ายจะสะท้อนความคิด โอกาส และความหวังของประเทศ ทำให้เห็นว่าแม้การเมืองจะถูกแบ่งเป็นกี่ขั้วก็ตาม แต่จะดำเนินนโยบายโดยมีศูนย์กลางคือประชาชน พร้อมกับยืนยันว่าไม่รู้สึกกดดันที่ต้องรับผิดชอบพื้นที่ต่อจาก นายปดิพัทธ์ สันติภาดา หรือ หมออ๋อง อดีตรองประธานสภาผู้แทนคนที่ 1 และอดีต สส.พิษณุโลก เขต 1 เพราะได้รับกำลังใจอย่างเต็มที่ พร้อมกันนี้ เชื่อว่าสิ่งที่ตนและพรรคประชาชนได้ทำมาจะทำให้ประชาชนให้โอกาสอีกครั้ง และมองว่าการเลือกตั้งไม่ใช่เรื่องของตัวเองอย่างเดียว แต่เรื่องที่สำคัญกว่าคือจะดูแลและตอบแทนประชาชนได้อย่างไร

ส่วนประเด็นที่ประชาชนอาจต้องการเลือกพรรคที่เป็นรัฐบาลมากกว่านั้น นายณฐชนน บอกว่าไม่กังวล เพราะเป็นการเลือกฝ่ายนิติบัญญัติ จะมีกฎหมายก้าวหน้าอีกหลายฉบับที่เข้าสภาผู้แทนราษฎร จึงพร้อมเป็นตัวแทนเสียงของประชาชนชาวพิษณุโลก ไม่ว่าจะเป็น สส.ฝ่ายใดก็ตาม

ทางด้านเวทีปราศรัย นายปดิพัทธ์ ขึ้นกล่าวถึงอดีตที่เคยเป็น สส. และอดีตรองประธานสภาฯ โดยยืนยันว่าการเข้าสู่การเมืองนั้นเพื่อรับใช้ประชาชน แต่ประเทศเราเจริญยาก เพราะนักการเมืองไม่ค่อยรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน ที่ผ่านมาภูมิใจแล้วที่ได้ทำหน้าที่ แต่สิ่งที่ทำให้เสียใจที่สุดในขณะเป็นรองประธานสภาฯ คือเมื่อบางท่านได้เป็นรัฐมนตรีแล้ว กลับไม่เหมือนกับตอนที่ตนศรัทธาในช่วงที่เป็นฝ่ายค้านด้วยกัน เหมือนตบหน้าประชาชนเพื่อการขึ้นสู่อำนาจ พร้อมกล่าวสนับสนุน นายณฐชนน ว่าร่วมทุกข์ร่วมสุขกับตนมาตั้งแต่วันแรก ถ้าได้เป็น สส. จะเป็น สส.ที่ดีกว่า หมออ๋อง

นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงของ นายณฐชนน ขึ้นเวทีปราศรัยว่า มาด้วยความเต็มใจ พร้อมชื่นชม นายปดิพัทธ์ ที่มีความยึดมั่นในอุดมการณ์ตลอดมา เป็นบุคคลคุณภาพ เสียดายเหลือเกินที่คนๆ นี้ถูกตัดสิทธิทางการเมืองอย่างไม่เป็นธรรม แต่เราจะไม่ยอมแพ้ จะเลือกคนที่อยู่บนเส้นทางนี้กลับมาเป็น ส.ส.พิษณุโลก อีกครั้งหนึ่งคือ นายณฐชนน ซึ่งเป็นคนที่ช่วยทำงานเคียงข้าง นายปดิพัทธ์ มาตลอด และนี่คือการเลือกตั้งระดับประเทศครั้งแรกของพรรคประชาชน เราจะเปิดศักราชของพรรคด้วยชัยชนะที่ทุกท่านมอบให้ เพื่อบอกเราคุณบดขยี้เราไม่ได้ ทำลายความฝันเราไม่ได้ เราจะพาประเทศไทยไปสู่ความเจริญก้าวหน้า และในปี 2570 พรรคประชาชนจะเป็นพรรคอันดับ 1 ของประเทศ เสียงเกิน 250 เสียง และเป็นรัฐบาล แล้วเราจะสร้างสังคมไทยที่ดีกว่านี้ให้ลูกหลานของเรา

ต่อมาเวลาประมาณ 20.10 น. นายณฐชนน ขึ้นเวทีปราศรัยในโค้งสุดท้ายก่อนจะถึงวันเลือกตั้งในวันที่ 15 กันยายน 2567 ชวนทุกคนออกไปตอกย้ำว่า พรรคประชาชนเป็นพรรคที่คนพิษณุโลกต้องการ และตั้งใจที่จะเข้ามาเพื่อทำให้พิษณุโลกดีขึ้น หลังจากที่ได้ยินได้ฟังว่าปัญหาหลายปีที่ผ่านมานั้นไม่ค่อยได้รับการแก้ไข จึงขออาสาเข้ามารับใช้ชาวพิษณุโลก

จากนั้น 20.19 น. นายชัยธวัช ตุลาธน อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล หนึ่งในผู้ช่วยหาเสียงของผู้สมัครพรรคประชาชน ขึ้นเวทีชวนเชิญประชาชนออกมาใช้สิทธิออกเสียง พร้อมย้อนเล่าไปในอดีตถึงวันที่ให้ความเชื่อมั่นกับหมออ๋อง ซึ่งตอนนั้นไม่มีใครเชื่อว่าพรรคอนาคตใหม่จะชนะเลือกตั้งได้ จากนี้ชวนทุกคนส่ง นายณฐชนน เป็นผู้แทนราษฎรของชาวพิษณุโลก การเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นการพิสูจน์ว่าพี่น้องประชาชนต้องการนักการเมืองที่เป็นของประชาชน

ต่อด้วย นายปิยบุตร แสงกนกกุล แกนนำคณะก้าวหน้า ปราศรัยเป็นคนต่อมาว่า วันนี้มาเป็นผู้ช่วยหาเสียงให้พรรคประชาชน ถ้าไม่อยากได้การเมืองแบบเก่า อยากเห็นการเมืองแบบใหม่ ต้องเลือกพรรคประชาชน ไม่ใช่การเมืองที่สืบทอดตระกูลกัน ตีค่าหัวกัน ขอแรงประชาชนสนับสนุนพรรคประชาชนที่สืบทอดอุดมการณ์มาจากพรรคอนาคตใหม่ และพรรคก้าวไกล จึงขอเชิญชวนชาวพิษณุโลก เขตเลือกตั้งที่ 1 มาออกสิทธิออกเสียง และการที่บอกว่าถ้าไม่มี สส.รัฐบาล จะไม่ช่วย เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง กลับดีเสียอีกที่ได้เข้าไปเป็น สส.ฝ่ายค้าน ไปตรวจสอบ พร้อมทำงานได้ทันที และปี 2570 เลือกตั้งอีกครั้งจะได้เป็นรัฐบาล

เวลา 21.07 น. นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงขึ้นปราศรัยเป็นคนสุดท้าย โดยอ้อนว่าคิดถึงชาวพิษณุโลก และมาถึงก็หายเหนื่อยหลังกลับมาจากต่างประเทศ พร้อมส่งกำลังใจให้กับผู้ประสบอุทกภัยให้พี่น้องที่ภาคเหนือ ถึงวันนี้ตนไม่มีอำนาจ ไม่มีตำแหน่ง แต่ไม่เคยลืมประชาชนที่ตกทุกข์ได้ยาก จะหาเวลาเหมาะสมไป จ.เชียงราย และ จ.เชียงใหม่ อย่างแน่นอน

พร้อมกล่าวต่อไปว่า การเมืองไม่มีฝ่ายแค้น ไม่มีความแค้น มีแต่คู่แข่ง เพราะไม่ใช่เรื่องส่วนตัว วันที่ 15 กันยายนนี้ เปิดหีบตั้งแต่ 08.00 น. เพราะพรรคประชาชนมีแต่ประชาชน ขอให้ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งกันมากๆ และแม้ใครจะไม่ได้เลือกตนในการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว ไม่เชื่อในวิสัยทัศน์พรรคก้าวไกล ถ้าท่านรู้สึกผิดหวังในการเมืองปัจจุบันนี้ ขอแบ่งคะแนนมาให้พรรคประชาชน ให้โอกาสเรา พร้อมสื่อสารไปถึงคนเสื้อแดง ถ้ารู้สึกอกหัก ขอให้พรรคประชาชนมีโอกาสรับใช้ท่าน ได้พรรคการเมืองที่ตรงไปตรงมา ไม่ตระบัดสัตย์ ไม่สองมาตรฐาน และยังสื่อสารถึงผู้ที่เคยเลือก นายปดิพัทธ์ ว่า เรามาไกลเกินกว่าจะแพ้แล้ว นาทีนี้ไม่มีใครเหมาะที่จะสืบทอดต่อมากกว่า นายณฐชนน จึงขอร้องด้วยความถ่อมตัว ขอความเชื่อใจ ความไว้วางใจ ไม่ว่าคราวที่แล้วจะเลือกใคร ขอให้วันอาทิตย์นี้ออกมาใช้สิทธิกันให้มากๆ

(ภาพ : วัชรชัย คล้ายพงษ์)