“ไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์” ระบุ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม คือทางออกของคดี 112-คดี คสช.-คดี พ.ร.ก.ฉุกเฉิน-คดี พ.ร.บ.ประชามติ จี้นายกฯ อย่าปล่อยให้เป็นแค่เสือกระดาษ ประกาศยืนยันฝ่ายค้าน ไม่ใช่ฝ่ายแค้น แค่เป็นพวกทำตามอุดมการณ์

วันที่ 13 กันยายน 2567 ที่อาคารรัฐสภา ในการประชุมรัฐสภา เพื่อให้คณะรัฐมนตรีแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา นายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ ส.ส.พรรคไทยก้าวหน้า อภิปรายถึงนโยบายรัฐบาล เรื่องยึดมั่นในหลักนิติธรรม ถึงคดีทางการเมืองโดยเฉพาะ ม.112 ที่พ่อของนายกรัฐมนตรีก็เผชิญเรื่องนี้อยู่ หากจะปรับกงล้อนี้ให้ตรงสุดท้ายแล้วต้องจบที่ร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมประชาชน พ.ศ. ที่ประชาชนเข้าชื่อกว่า 36,723 ชื่อ เป็นผู้เสนอ ที่ต้องการนิรโทษกรรมให้กับคดี ม.112 คดี พ.ร.ก.ฉุกเฉิน คดี พ.ร.บ.ประชามติ ร่างรัฐธรรมนูญ 2559 และคดีจากประกาศคำสั่ง คสช. ตนเองขอไหว้และขอโทษแทนผู้ต้องขังคดีทางการเมืองที่ไม่สามารถส่งเสียงได้แล้วในวันนี้ ตนเองรู้ว่าทุกคนมีอุดมการณ์และจุดยืนที่หลากหลาย จึงอยากขอโอกาสแทนพี่น้องประชาชนที่อยู่ในเรือนจำ เพราะ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม คือไพ่ใบสุดท้ายแล้วจริงๆ ขอให้นายกรัฐมนตรีจริงใจ ผลักดันกฎหมายนี้อย่างสุดความสามารถ และให้เกิดการบังคับใช้อย่างเท่าเทียม และช่วยทำให้สภาฯ ได้เป็นพื้นที่ที่ปลอดภัย

“ถ้าปีหน้ายังไม่เห็นอะไรที่เป็นรูปธรรมบ้างเลย นี่ก็เป็นเครื่องพิสูจน์ของความจริงใจแล้ว ว่าทำได้เพียงทำได้ไม่จริง หรือเป็นเพียงแค่เสือกระดาษ และผมขอยืนยันครับว่า ฝ่ายค้านไม่ใช่ฝ่ายแค้น พวกเราเพียงแต่ทำตามอุดมการณ์และไม่ยอมผิดคำพูดกับประชาชนที่เคยให้ไว้ในการเลือกตั้ง” นายไชยามพวาน