“ภูมิธรรม” ฝากฝ่ายค้านร่วมแรงร่วมใจพาประเทศพ้นวิกฤติ เผย 12 ก.ย. หลังรัฐบาลแถลงนโยบาย นายกฯ มอบ “หมอมิ้ง” เรียกประชุมทันทีบ่าย 2 ที่รัฐสภา ช่วยน้ำท่วม ยันรัฐบาลห่วงใย หน่วยงานในพื้นที่เร่งช่วยเหลือแล้ว

วันที่ 11 กันยายน 2567 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบรัฐบาลถึงการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภาในวันที่ 12-13 กันยายน 2567 ซึ่งพรรคประชาชน (ปชน.) เตรียมส่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) 30 คนอภิปราย ในส่วนของรัฐบาลเตรียมความพร้อมรับมืออย่างไร นายภูมิธรรมกล่าวว่า เราเอาความจริงใจและความตั้งใจที่เราได้เตรียมการทั้งหมดผ่านนโยบายทุกข้อ ไม่ว่าจะมีฝ่ายค้านหรือไม่มีฝ่ายค้าน จะตรวจสอบหรือไม่ตรวจสอบอย่างไร เราก็ต้องทำหน้าที่ของเราอย่างดีที่สุดเพื่อให้ประเทศพ้นวิกฤติ

ส่วนคำถามกังวลฝ่ายค้านจะใช้เวทีแถลงนโยบายเป็นเวทีซักฟอกรัฐบาลหรือไม่ นายภูมิธรรม เผยว่า ฝ่ายค้านคงรู้หน้าที่ดีอยู่แล้วว่าสายตาของประชาชนเฝ้ามองอยู่ วันนี้สิ่งสำคัญคือต้องร่วมแรงร่วมใจกันและพาประเทศให้พ้นวิกฤติที่เป็นความเดือดร้อนของประชาชน ที่เป็นความยากลำบาก ฉะนั้น สิ่งที่ดีที่สุดที่ทุกคนจะสบายใจคือฝ่ายค้านต้องช่วยกันส่งเสริมให้เกิดความมั่นใจจากต่างประเทศ วันนี้รัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพิ่งเริ่มต้น จึงไม่ควรใช้อคติทางการเมืองและประโยชน์ทางการเมืองส่วนตนเข้ามาทำให้ความเชื่อมั่นของประเทศขาดหายไป เชื่อว่าฝ่ายค้านคงทำหน้าที่อย่างดีที่สุด

เมื่อถามต่อไปว่ารัฐบาลชุดนี้เป็นรัฐบาลชุดแรกที่เจอนิติสงครามเยอะ นายภูมิธรรมเผยว่า มันเยอะมาตามธรรมชาติ เพราะ 10 ปีที่ผ่านมาปัญหาสะสมมานาน ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลนี้หรือรัฐบาลไหนที่เข้ามาในตอนนี้ก็จะเจอเหมือนกัน ไม่ใช่เจอเฉพาะรัฐบาลนี้เพียงรัฐบาลเดียว ทางด้านคำถามว่านายกรัฐมนตรีได้แสดงความกังวลใจภายหลังจากที่เข้ามาแล้วเจอหลายปัญหาหลายเรื่องที่มีการร้องอยู่ อาจทำให้การทำงานสะดุดหรืออาจมีความไม่สบายใจหรือไม่ นายภูมิธรรมตอบว่า เราอาสาเข้ามาทำงาน ฉะนั้นปัญหาและความท้าทายต่างๆ เป็นภารกิจและเป็นหน้าที่ของเราอย่างสำคัญที่จะต้องแก้ไขและผลักดันให้ไปในทิศทางที่ดีที่สุด

...

สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย นายภูมิธรรมบอกว่า เป็นเรื่องที่รัฐบาลให้ความห่วงใย ได้ส่งกำลังใจ สงสารประชาชนอยากให้ทุกคนปลอดภัย และสถานการณ์เข้าสู่สภาวะปกติได้อย่างรวดเร็ว แต่เนื่องจากช่วงนี้รัฐบาลยังไม่สามารถสั่งการอะไรได้ นอกเสียจากจะต้องแถลงนโยบายต่อรัฐสภาเสียก่อน ต้องรอจนกว่าจะวันที่ 12 กันยายน 2567 เมื่อนายกรัฐมนตรีแถลงนโยบายเสร็จ จะมีอำนาจสั่งการได้เลย ไม่ต้องรอจนแถลงนโยบายจบ ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาประชุมในวันที่ 12 กันยายน 2567 เวลา 14.00 น. ที่รัฐสภา

ในเรื่องของความเสียหาย ได้รับรายงานว่ามีความเสียหายจากดินโคลนถล่มที่ อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ส่วนที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย มีน้ำเชี่ยวกราก ประชาชนได้รับความเดือดร้อนนับพันราย ตอนนี้มีปัญหาทั้งน้ำท่วมสูง ปัญหาเรื่องการกินอยู่ของประชาชน แต่ตนเชื่อว่าหน่วยงานต่างๆ ที่มีหน้าที่โดยตรงได้เข้าไปให้ความช่วยเหลือบ้างแล้ว ซึ่งกระทรวงกลาโหม มณฑลทหารบกที่ 37 มณฑลทหารบกที่ 34 และหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา ได้ไปช่วยแล้ว โดยผู้ใหญ่ในกระทรวงกลาโหมรายงานว่าไม่ต้องกังวลสถานการณ์ในขณะนี้ ตอนนี้ทหารทุกหน่วยอยู่ในพื้นที่แล้ว หน่วยราชการต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง กระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัด มีการเข้าไปช่วยเหลือประชาชนแล้ว ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการที่ควรจะเป็น แม้รัฐบาลจะไม่ได้สั่งการอะไรก็ตาม ซึ่งตนมีความสบายใจขึ้น เพราะตอนนี้รัฐบาลสามารถทำได้แค่มีความห่วงใย แต่หลังจากนายกรัฐมนตรีแถลงนโยบายเสร็จเราจะปฏิบัติการทันที

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่าหลังจากแถลงนโยบายเสร็จสิ้น นายกรัฐมนตรีมีกำหนดการลงพื้นที่ จ.เชียงราย หรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ในวันที่ 12 กันยายน จะมีการประชุมก่อน ตอนนี้เราทราบแต่เพียงสื่อ ซึ่งไม่แน่ใจว่าข้อมูลตรงหรืออันไหนเป็นข้อเท็จจริง แต่หลังจากวันที่ 12 กันยายน น่าจะมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น โดยหลังนายกรัฐมนตรีแถลงนโยบายเสร็จ ปัญหาน้ำท่วมจะเป็นปัญหาแรกที่เราจะทำทันที ส่วนคำถามว่า เท่าที่มีการประเมินคาดว่าน้ำท่วมจะคลี่คลายเมื่อใด นายภูมิธรรมตอบว่า ขอรอหารือในวันที่ 12 กันยายนก่อน ตอนนี้เรายังไม่สามารถประเมินได้ว่าจะคลี่คลายเร็วหรือช้า ปัญหาขณะนี้คือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน ที่เราต้องเข้าไปช่วยก่อน

นอกจากนี้ ในเรื่องการเตรียมเข้าปฏิบัติหน้าที่กระทรวงกลาโหม วันที่ 16 กันยายน 2567 และจะมีหารือร่วมกับผู้บัญชาการเหล่าทัพนั้น นายภูมิธรรมระบุว่า ตนจะไปรับฟังก่อน หลังจากนั้นจะมอบนโยบายกระทรวงกลาโหมขับเคลื่อนโดยเหล่าทัพต่างๆ ยืนยันว่าไม่ได้ต้องการเข้าไปขยายอำนาจอะไร แต่เข้าไปร่วมมือกับเหล่าทัพที่มีอำนาจบริหารจัดการอยู่แล้ว เป็นการช่วยกันทำงานให้กระทรวงกลาโหม และทุกหน่วยทำงานสนับสนุนประชาชนให้มากยิ่งขึ้น โดยในยุคของตนอยากเห็นกระทรวงกลาโหมทำตามบทบาทหน้าที่ของตนเองอย่างเข้มแข็ง และเข้าไปแก้ไขบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนให้พี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ และมีบทบาทส่งเสริมระบอบประชาธิปไตยซึ่งมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ทำให้ได้อย่างเต็มที่ทุกส่วน อยากขจัดข้อจำกัดที่อยู่ในอำนาจหน้าที่กระทรวงกลาโหม เพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ เกิดความสามัคคี มีความเป็นประชาธิปไตย และแก้ไขปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจให้ประชาชน

เมื่อถามถึงกรณีมีคลิปเสียงหลุดการแต่งตั้งข้าราชการประจำ โดยมีข้าราชการการเมืองเข้าไปแทรกแซงในยุครัฐบาลที่ผ่านมา ช่วงนี้ใกล้ฤดูกาลแต่งตั้งโยกย้ายจะมีการป้องกันอย่างไร นายภูมิธรรมกล่าวว่า ตนไม่ทราบ แต่ถ้าเราฟังแล้วควรเอามาพิจารณาไตร่ตรองด้วย เพราะเดี๋ยวนี้เทคโนโลยีเจริญทำได้หลายอย่าง แต่เพื่อให้เกิดความมั่นใจก็ควรฟังแล้วไปตรวจสอบ สำหรับกระทรวงกลาโหมตนเริ่มต้นจากความเป็นจริง เชื่อว่าเหล่าทัพจะเข้าใจตน เราไม่ได้แทรกแซง ตนตั้งใจไว้แล้วว่าจะทำทุกอย่างตามกระบวนการ ปรึกษาหารือตามขอบเขตของกฎหมาย และจะแก้ปัญหาให้ดีที่สุด

อย่างไรก็ตาม นายภูมิธรรมยังกล่าวในตอนท้ายด้วยว่า ช่วงการแต่งตั้งโยกย้ายไม่ว่าหน่วยงานไหนหรือกระทรวงใด ท่านก็จะทราบว่ามันก็จะเป็นเช่นนั้น มีทั้งเรื่องจริงบ้าง ไม่จริงบ้าง หรือจริงครึ่งเดียวบ้าง และก็เป็นการใส่ร้ายป้ายสี ซึ่งก็มีบัตรสนเท่ห์ หน้าที่ของผู้มีอำนาจคือรับฟังทุกส่วนนำมากลั่นกรองให้ได้ประเด็นแก่นแท้ของปัญหาที่เกิดขึ้นจริง และแก้ไขปัญหาให้ได้.