“ภูมิธรรม” โชว์สรุปผลการทำงาน 1 ปี ตามยุทธศาสตร์ 7 ข้อ ในการเพิ่มรายได้ลดรายจ่าย ขยายโอกาสประสบความสำเร็จตามเป้า เพิ่มรายได้เกษตรกรเกือบ 2 แสนล้านบาท ราคาข้าวเปลือกเจ้าทำนิวไฮรอบ 20 ปี ส่วนสับปะรด กระเทียม หอมแดง สถิติราคาซื้อขายสูงสุดเป็นประวัติการณ์ พร้อมช่วยคนตัวเล็กมีรายได้ ขยายโอกาสผู้ประกอบการไทยสู่ต่างประเทศ และลดค่าครองชีพคนไทย โอดเสียดายที่ไม่ได้สานงานต่อ

ที่กระทรวงพาณิชย์ เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 9 ก.ย.นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เข้ามาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงพาณิชย์ก่อนแถลงผลการทำงานในตำแหน่ง รมว.พาณิชย์ ในรอบ 1 ปีที่ผ่านมาว่าได้กำหนดนโยบายในการทำงานในช่วงบริหารงานกระทรวงพาณิชย์ไว้ 7 ด้าน ได้แก่

1.ลดค่าใช้จ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส 2.บริหารให้เกิดความสมดุลระหว่างผู้บริโภค เกษตรกร และผู้ประกอบการ

3.ทำงานเชิงรุกระหว่างพาณิชย์จังหวัดและทูตพาณิชย์ 4.แก้ไขข้อจำกัดของกฎหมายหรือปรับปรุงกฎหมายที่เก่า ล้าสมัย

5.ร่วมขับเคลื่อนนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต

6.เร่งผลักดันการส่งออกจากติดลบให้เป็นบวก

และ 7.ผลักดันการใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ซึ่งผลการทำงานประสบความสำเร็จในทุกด้าน สามารถดูแลตั้งแต่เกษตรกร ที่เป็นคนฐานรากของประเทศ ดูแลประชาชนให้มีภาระค่าครองชีพลดลง และดูแลผู้ประกอบการ โดยเฉพาะเอสเอ็มอีให้มีขีดความสามารถในการแข่งขันและช่วยเพิ่มรายได้

สำหรับการลดรายจ่ายจัดโครงการ “พาณิชย์สั่งลุย...ลดราคา” ลดราคาสินค้าจำเป็น ช่วงเทศกาลสำคัญอย่างปีใหม่ ตรุษจีน กินเจ ก่อนเปิดภาคเรียน ลดสูงสุด 60-85 เปอร์เซ็นต์ รวม 8 กิจกรรม ลดค่าครองชีพได้ 8,060 ล้านบาท และกระตุ้นเศรษฐกิจกว่า 13,400 ล้านบาท จัด “โครงการธงฟ้าราคาประหยัด ลดค่าครองชีพประชาชน” จำหน่ายสินค้าจำเป็นราคาต่ำกว่าท้องตลาด 20-40 เปอร์เซ็นต์ รวม 1,134 ครั้ง ลดค่าครองชีพ 130 ล้านบาท เป็นต้น ส่วนการเพิ่มรายได้นั้น สามารถสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรเพิ่มขึ้นเกือบ 200,000 ล้านบาท จากราคาพืชผลทางการเกษตรที่สูงขึ้น โดยพืชหลักได้แก่ ข้าว ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มันสำปะหลัง ปาล์มน้ำมัน ยางพารา ช่วยเหลือเกษตรกรเกือบ 8 ล้านครัวเรือน ดูแลปริมาณผลผลิตเกือบ 90 ล้านตัน สร้างสถิติราคาซื้อขายข้าวเปลือกเจ้าได้สูงสุดในรอบ 20 ปี ขณะที่พืชรอง ได้แก่ ผลไม้ พืช 3 หัว (กระเทียม หอมแดง หอมหัวใหญ่) และผัก ช่วยเหลือเกษตรกรเกือบ 1.5 ล้านครัวเรือน ดูแลผลผลิตกว่า 8 ล้านตัน สร้างสถิติราคาซื้อขายสับปะรด กระเทียม หอมแดง สูงสุดเป็นประวัติการณ์

...

นอกจากนี้ ยังช่วยเพิ่มรายได้ให้เกษตรกรผู้ประกอบการชุมชน และเอสเอ็มอี โดยผลักดันการค้าผ่านอี-คอมเมิร์ซ ทั้งในและต่างประเทศ เกิดมูลค่าการซื้อขาย 2,347.70 ล้านบาท เชื่อมโยงการท่องเที่ยวกับตลาดต้องชม 251 แห่ง เพิ่มรายได้ 1,987 ล้านบาท พัฒนาหมู่บ้านทำมาค้าขาย เพิ่มรายได้ 185 ล้านบาท ผลักดันเพิ่มมูลค่าสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (จีไอ) สร้างรายได้ 71,000 ล้านบาทต่อปี พร้อมทั้งยังใช้ร้านอาหารไทยในต่างประเทศ ที่ได้รับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT เป็นโชว์รูมแสดงสินค้าไทย เพื่อเพิ่มรายได้ให้ผู้ประกอบการและผลักดันซอฟต์พาวเวอร์ไทย เชื่อมโยงร้านอาหาร Thai SELECT กับการท่องเที่ยว เพื่อเพิ่มรายได้ จัดกิจกรรมฟื้นฟูเศรษฐกิจ ผ่านการจัดตลาดพาณิชย์ทั่วประเทศ รวม 318 ครั้ง สร้างรายได้ 373 ล้านบาท และตั้งเป้าหมายจะจัดให้ได้รวม 935 ครั้ง ในช่วงเดือน ส.ค.-พ.ย.67 คาดว่าจะช่วยเพิ่มรายได้ให้ผู้ประกอบการรายย่อยได้เป็นจำนวนมาก

ขณะเดียวกัน ได้เพิ่มรายได้ให้ผู้ประกอบการ โดยนำเข้าร่วมงานแสดงสินค้าต่างๆทั้งในไทยและต่างประเทศ ช่วยสร้างรายได้เข้าประเทศจำนวนมาก ส่วนการขยายโอกาสทางการค้าได้จัดกิจกรรมและโครงการต่างๆ เจาะตลาดเป้าหมายทั้งจีน สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น อินเดีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เกาหลีใต้ ซาอุดีอาระเบีย และแอฟริกาใต้ รวมถึงผลักดันการค้าชายแดนและผ่านแดน ลงนามเอฟทีเอไทย-ศรีลังกา และผลักดันการเจรจาเอฟทีเอกับประเทศใหม่ๆ พร้อมกันนี้ ได้ขยายโอกาสทางการค้าผ่านกลยุทธ์ตลาดแนวใหม่ โดยใช้ซีรีส์วาย ซีรีส์ยูริ ยกระดับสินค้า ชุมชน อาทิ สมุนไพร สุราชุมชน ขนมขบเคี้ยว และนำเข้าร่วมงานแสดงสินค้าที่ฮ่องกง เวียดนาม ฝรั่งเศส เกิดการจับคู่ธุรกิจ 756 คู่ มูลค่า 4,102 ล้านบาท อีกทั้งยังใช้เครือข่ายอินฟลูเอนเซอร์จีนไลฟ์ขายสินค้าและบริการไทย เพื่อสร้างรายได้ให้คนตัวเล็ก คาดการณ์ มูลค่า 1,500 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ได้ฝากกระทรวงพาณิชย์ให้ขับเคลื่อนการทำงานของทีมพาณิชย์ ที่ได้แต่งตั้งไว้ 9 คณะ ได้แก่ 1.พัฒนาศักยภาพเกษตรกร 2.ยกระดับเอสเอ็มอี 3.ขับเคลื่อนการค้าไทย-จีน-อาเซียน 4.ขับเคลื่อนโลจิสติกส์การค้า 5.ใช้ข้อมูลขนาดใหญ่ (บิ๊กดาต้า) และอินฟลูเอนเซอร์ 6.ผลักดันนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ 7.พัฒนาการค้า ตามระเบียบโลกใหม่ 8.พัฒนากฎหมายกระทรวง และ 9.สร้างการรับรู้และภาพลักษณ์กระทรวง ที่ขณะนี้ การทำงานมีความคืบหน้าทุกคณะ และอยากให้สานงานต่อ

“ผลงานของกระทรวงพาณิชย์ทั้งหมด เกิดจากความร่วมมือของข้าราชการทุกคน วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่ผมจะได้ทำงานที่นี่ เสียดายที่ไม่ได้สานงานต่อ แต่เชื่อว่า ทั้ง รมว.พาณิชย์ท่านใหม่ และ รมช.ทั้ง 2 ท่าน จะสานงานต่อและจะมีนโยบายใหม่ๆที่ขับเคลื่อนงานของกระทรวงพาณิชย์ในการช่วยเหลือผู้ประกอบการได้แน่นอน” นายภูมิธรรมกล่าว

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่