“พิชิต ไชยมงคล” ยืนยัน คปท.ไม่มีท่อน้ำเลี้ยง ไม่ใช่ม็อบรับจ้างไล่ระบอบ “ทักษิณ” ชี้ 17 ก.ย. นี้ บุกทำเนียบยื่นหนังสือถึงนายกฯ ปกป้องผลประโยชน์ชาติ ปัดเป็นฝ่ายแค้นจ้องจะล้มระบอบชินวัตรให้ได้

วันที่ 9 กันยายน 2567 นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) กล่าวถึงการนัดรวมตัววันที่ 17 กันยายน 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อต่อต้านระบอบชินวัตร ว่า วันที่ 17 กันยายน เราไม่ได้ไปชุมนุมแต่จะยื่นหนังสือท้วงติงรัฐบาลตามสิทธิ์ของประชาชน และคำถามที่จะต้องถามนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ในฐานะนายกรัฐมนตรีในการตรวจสอบข้าราชการ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ หรือนายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ ที่เกี่ยวพันกับคดีที่ คปท. เคยยื่นร้องไป เกี่ยวกับการรับโทษของนายทักษิณ ชินวัตร ซึ่งยังไม่มีความคืบหน้า

และจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีใครโทรประสานแจ้งมาพูดคุยหรือเบรกไม่ให้ คปท. ไปยื่นหนังสือทำเนียบรัฐบาลแต่อย่างไร ถึงมีมาก็ยังยืนยันจะไปทำเนียบรัฐบาลในวันประชุมคณะรัฐมนตรีนัดแรกของรัฐบาลนางสาวแพทองธาร

ส่วนรายการเจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand ของนายดนัย เอกมหาสวัสดิ์ หรือ หมาแก่ ที่เปิดข้อมูลขบวนการนิติสงคราม ขบวนการเช็กบิลรัฐบาลนางสาวแพทองธาร ซึ่งในรายการก็เหมารวม คปท. ว่าเป็นเครือข่ายต้านระบอบทักษิณ ซึ่งตนเองนั่งฟังก็ไม่ได้เห็นด้วยตามที่หมาแก่นำเรื่องไปผูกโยงและมีหลายเรื่องไม่เป็นไปตามนั้น ยืนยัน คปท. ไม่ใช่ฝ่ายแค้น แต่เป็นกลุ่มที่เคลื่อนไหวเพื่อปกป้องและตรวจสอบรัฐบาลเพราะไม่ว่าใครจะเป็นรัฐบาลเราก็ตรวจสอบ ส่วนที่มีการโยงไปถึงการจ้างมีเงินเข้ามาเกี่ยวข้องนั้นก็ยืนยันว่า คปท. ไม่มีท่อน้ำเลี้ยงและทั้งหมดคือความบริสุทธิ์ของการเคลื่อนไหวที่แท้จริง ไม่มีใครอยู่เบื้องหลังและไม่ยินดีที่จะรับเงินใครมาเคลื่อนไหว แต่ คปท. เคลื่อนไหวบนฐานความเชื่อและอุดมการณ์ หากใครเห็นด้วยก็บริจาคเข้ามา ที่บอกว่ามีท่อน้ำเลี้ยงใหญ่และจ้องจะล้มรัฐบาลนั้นเป็นไปไม่ได้ เพราะ คปท. ยังไปไม่ถึงจุดนั้น ที่ผ่านมาในสมัยรัฐบาลนายเศรษฐาก็มีการตรวจสอบชุมนุมหน้าทำเนียบถึง 172 วัน การที่มาบอกว่า คปท. เป็นฝ่ายแค้นจ้องจะล้มระบอบทักษิณให้ได้ และเป็นภัยความมั่นคงนั้นไม่เป็นความจริง และที่บอกว่าเราเป็นม็อบจ้าง ก็เป็นคำแรง เพราะทุกคนที่มาร่วมชุมนุมด้วยความสมัครใจ ยอมรับพี่น้อง คปท. ก็ไม่พอใจหลังจากที่มีการกล่าวหาลักษณะนี้ ส่วนการนัดเคลื่อนไหวหรือยกระดับชุมนุมปักหลักค้างคืนเหมือนที่ผ่านมา ก็มีความเป็นไปได้แต่ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ทางการเมืองรอบด้านไม่ใช่ว่า คปท. เป็นผู้ประสงค์จะชุมนุมอย่างเดียว และถ้ารัฐบาลยังปฏิเสธข้อเสนอของ คปท. ก็อาจจะนัดชุมนุมในอนาคตได้อีกเพราะก็ไม่ได้ปิดประตูเรื่องนี้ เป้าหมายสูงสุดคือไม่ใช่การชุมนุมแต่คือการตรวจสอบการทำงานของรัฐ

...