“นายกฯอิ๊งค์” นำ ครม.ใหม่ ถ่ายรูปหมู่หน้าตึกไทยคู่ฟ้า ก่อนเป็นประธานประชุม ครม.นัดพิเศษ เห็นชอบคำแถลงนโยบายรัฐบาล ประกาศจะทำงานแข่งกับเวลาทุกนาที ประสานทุกฝ่ายสร้างโอกาสให้คนไทย วางกรอบ 3 เดือน สรุปผลงาน รมต. โอดไม่อยากโดนคดีลูกยังเล็กอยู่ กำชับวง ครม. ต่อยอดนโยบายจาก “รัฐบาลเศรษฐา” ให้สำเร็จ ขอจบดราม่า “ทักษิณ” บอกวิสัยทัศน์ดียังไงก็ดี ตั้ง “หมอมิ้ง”คืนสู่เก้าอี้เลขาธิการนายกฯ “สรวงศ์” ไม่หวั่น พปชร.ล้างแค้น พร้อมสู้ทุกคดี กร้าวคงร่วมงานกันอีกไม่ได้ กลุ่มต้านนัดดีเดย์ลงถนน 17 ก.ย. ที่ทำเนียบ ชาวสะเอียบฮือค้านแก่งเสือเต้น

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นั่งหัวโต๊ะเป็นประธานการประชุม ครม.นัดพิเศษ ครั้งแรก เพื่อให้ความเห็นชอบคำแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภา ประกาศนับจากนี้เดินหน้าทำงานแข่งกับเวลาทุกนาที วางกรอบเบื้องต้น 3 เดือนจะมีการสรุปผลงานรัฐมนตรีแต่ละกระทรวง

“นายกฯอิ๊งค์” นำ ครม.ถ่ายรูปหมู่

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 7 ก.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาล ด้วยรถเบนซ์ รุ่น Vito Tourer สีบรอนซ์ เลขทะเบียน ขจ 995 กรุงเทพ มหานคร มีนายปิฎก สุขสวัสดิ์ สามี ร่วมเดินทางมาให้กำลังใจ บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคักบรรดารัฐมนตรี ทยอยเดินทางมาถึงและรวมตัวกันที่ตึกสันติไมตรี จากนั้นเวลา 09.15 น. น.ส.แพทองธารนำคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถ่ายภาพหมู่ร่วมกันที่บริเวณสนามหญ้า ตึกไทยคู่ฟ้า ก่อนเดินนำรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทยเดินมายัง ตึกบัญชาการ 1 เพื่อประชุม ครม.นัดพิเศษ เพื่อให้ความเห็นชอบคำแถลงนโยบายของรัฐบาล ระหว่างเดินนายกฯได้ทักทายสื่อมวลชน พร้อมชี้นิ้วไปที่ตัวเองก่อนพูดแซวว่า “น้องใหม่” อย่างไรก็ตาม ก่อนการประชุม ครม. มีการถ่ายภาพติดบัตรเพื่อทำพาสปอร์ตของรัฐมนตรีด้วย

...

ลั่นทำงานแข่งกับเวลาทุกนาที

ต่อมาเวลา 11.50 น. น.ส.แพทองธารเดินนำรัฐมนตรีทั้ง 36 คน ลงมาจากตึกบัญชาการ 1 ไปยัง ตึกสันติไมตรี เพื่อแถลงผลการประชุม ครม.นัดพิเศษ น่าสังเกตว่า น.ส.แพทองธารได้จัดแถวให้รัฐมนตรีผู้หญิงเดินขนาบข้างเป็นแถวหน้า ตามด้วยบรรดารองนายกฯ และรัฐมนตรีที่เหลือ น.ส.แพทองธารแถลงว่า ตามที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชดำรัสแก่คณะรัฐมนตรี เนื่องในโอกาสเข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรี นับเป็นเกียรติยศและความภาคภูมิใจสูงสุดแก่ชีวิต และคณะรัฐมนตรี พร้อมน้อมนำพระราชดำรัสมาปรับใช้ในการบริหารราชการแผ่นดิน พร้อมจะปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ คณะรัฐมนตรีทุกคนพร้อมทำงานเพื่อประเทศอย่างเต็มที่ เราจะทำงานแข่งกับเวลาทุกนาทีให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพราะเราคือผู้แทนประชาชน ที่ได้รับการเลือกตั้งมาจากทั่วพื้นที่ของคนทั้งประเทศ เรามาจากพรรคการเมืองที่มีความแตกต่างหลากหลาย ต่างภูมิภาค ต่างช่วงวัย เพื่อทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับพี่น้องประชาชน จะใช้ความหลากหลายให้เป็นจุดแข็ง ให้รู้ปัญหาที่แท้จริงของประชาชน และสามารถแก้ไขปัญหาได้ตรงจุดทันเวลา

ดึงทุกฝ่ายสร้างโอกาสคนไทย

น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ให้ความมั่นใจว่าจะใช้ความสามารถประสานพลังกับคณะรัฐมนตรีทุกคน ให้ทำงานด้วยกันอย่างมีประสิทธิภาพ เชื่อว่าโอกาสคือสิ่งที่เราสามารถสร้างให้เกิดขึ้นได้ คณะรัฐมนตรีและข้าราชการทุกภาคส่วน พร้อมทำงานอย่างแน่วแน่และมั่นคง เพื่อชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชน สร้างความเชื่อมั่น สร้างโอกาสที่เท่าเทียมให้ประชาชน และไม่ใช่เริ่มพรุ่งนี้ แต่จะเริ่มตั้งแต่นาทีนี้เป็นต้นไป ได้ขอรัฐมนตรีทุกคนในที่ประชุม ครม. ช่วยกันดำเนินการต่อเนื่องจากงานของนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ โดยเฉพาะการกระตุ้นเศรษฐกิจ และขอให้ทุกกระทรวงดำเนินกิจกรรมต่อเนื่องในพิธีเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนม พรรษา 6 รอบ ตลอดทั้งปี

ตีกรอบ 3 เดือนสรุปผลงาน รมต.

ผู้สื่อข่าวถามว่ามีเวลา 3 ปี ตั้งการประเมินผลงานตัวเองและรัฐมนตรีอย่างไร น.ส.แพทองธารตอบว่า การวัดประเมินต่างๆคงต้องดูกันตลอด อย่างที่บอกเราจะทำงานแข่งกับเวลา ส่วนของนโยบายต่างๆ ต้องขึ้นอยู่กับว่านโยบายนั้นคืออะไร ในใจคิดว่าต้องสรุปให้ประชาชนฟังใน 3 เดือนแรกแน่นอน ส่วนตัวจะนัดรัฐมนตรีแต่ละคนมาร่วมพูดคุยกันทุกกระทรวง สลับกระทรวงกันไป วางเวลากันแล้วว่าจะเป็นช่วงไหน อยากให้การทำงานเป็นไปอย่างใกล้ชิด ไม่อยากให้เวลามอบหมายอะไรไปแล้วไม่สามารถถามได้ว่าอยู่ตรงไหน คิดว่าทุกคนตั้งใจทำตามนโยบายอยู่แล้ว คิดว่าตรงนี้น่าจะเป็นส่วนช่วยกระตุ้นให้เกิดผลงานได้เร็วขึ้น

โอดไม่อยากโดนคดีลูกยังเล็ก

เมื่อถามว่าปัจจุบันเป็นนิติสงครามทางการเมือง จะสู้รบอย่างไรเพื่อให้การทำงานอยู่ครบ 3 ปี น.ส.แพทองธารตอบว่า เรามีทีมกฎหมายอยู่ แต่แน่นอนในคณะรัฐมนตรีมีผู้มีประสบการณ์และมีรัฐมนตรีใหม่ ฉะนั้นเราปรึกษากันและกัน ประสบการณ์เหล่านี้บางทีต้องช่วยกันตีความหมายของกฎหมายในบางเรื่องด้วย เพราะบางเรื่องไม่สามารถตอบได้ว่าขาวหรือดำ แน่นอนว่าต้องมีความตั้งใจและดูทุกอย่างปรึกษาทุกหน่วยงานให้รอบคอบและรัดกุม เมื่อถามอีกว่าไม่กังวลกับคิวกฐินที่รออยู่ใช่หรือไม่ น.ส.แพทองธาร ย้อนถามว่า คิวกฐินเลยหรือ นี่คือคำเปรียบเปรียบเทียบใช่หรือไม่ เมื่อสื่อตอบว่ามีนักร้องเตรียมที่ร้องหลายคดี นายกฯหัวเราะก่อนกล่าวว่า แค่สื่อมวลชนถามก็น่าสงสารแล้ว ตั้งแต่เกิดมาก็ไม่เคยมีคดี พอมาถึงจุดนี้มีคดี จะพยายามรับมือให้ได้ดีที่สุด ความจริงไม่อยากมีคดีเพราะลูกยังเล็กอยู่เลย

ต่อยอดนโยบาย “รัฐบาลเศรษฐา”

เมื่อถามว่านโยบายที่จะแถลงต่อรัฐสภามีอะไรแตกต่างไปจากของรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน บ้าง น.ส.แพทองธารตอบว่า อยากขอความร่วมมือว่าเราอยากทำงานให้ครบ 3 ปี ให้เกิดความต่อเนื่อง เมื่อมีการเปลี่ยนนายกฯและคณะรัฐมนตรี เราพยายามตอกย้ำยืนหยัดว่าตั้งแต่สมัยนายเศรษฐาเป็นนายกฯจากพรรคเพื่อไทย นโยบายที่เคยปรึกษาพรรคร่วมรัฐบาลมาแล้วค่อนข้างคล้ายเดิม ครั้งนี้เราก็ได้ปรึกษาพรรคร่วมรัฐบาลเช่นกัน เป็นนโยบายที่ต่อเนื่องจากนายเศรษฐา และเป็นความเห็นของพรรคร่วมรัฐบาลว่ามีตรงไหนหรือไม่ต้องปรับแก้บ้าง เพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคำปรับแก้ ต่างๆจะทำให้เราสามารถดำเนินนโยบายได้อย่างเต็มที่ และนโยบายที่จะแถลงเราใช้ตั้งแต่ตอนหาเสียง อยากแย้มได้เลยว่าค่อนข้างเหมือนเดิม แค่ปรับแก้ให้ เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน และมั่นใจว่าจะสามารถทำนโยบายได้สำเร็จ

ขอจบดราม่าคุณพ่อ “ทักษิณ”

ผู้สื่อข่าวถามว่าการก้าวขึ้นมาเป็นนายกฯด้วยความเป็นพ่อลูกกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ทำให้ถูกมองว่าระบอบทักษิณกลับมาแล้ว จะลบคำปรามาสอย่างไร น.ส.แพทองธารตอบว่า “จะไม่ขอตอบเรื่องนายทักษิณแล้ว เราต้องเดินไปข้างหน้า วิสัยทัศน์ที่ดีไม่ว่าจะมาจากใคร อายุเท่าไหร่ก็ตาม วิสัยทัศน์ที่ดีคือสิ่งที่ดี ขอตอบแค่นี้แล้วกันค่ะ” เมื่อถามย้ำว่าโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ในเดือน ก.ย.นี้จะเห็นผลหรือไม่ น.ส.แพทองธารตอบว่า เรื่องไทม์ไลน์ขอให้นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง เป็นคนให้รายละเอียด แต่แน่นอนว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจจะเกิดขึ้นทันที เพราะเป็นข้อแรกที่เราเน้นย้ำและต้องทำงานกันต่อไป

ทำทุกอย่างให้ประเทศมีอนาคต

ผู้สื่อข่าวจากสำนักข่าวต่างประเทศถามว่าหลายประเทศมีความกังวลต่อสถานการณ์ทางการเมือง ของไทย นายกฯจะสื่อสารกับต่างชาติเกี่ยวกับอนาคตของประเทศไทย และเสถียรภาพทางการเมืองของไทยอย่างไร น.ส.แพทองธารตอบว่า พร้อมจะทำให้ประเทศกลับมามีอนาคต วันนี้ในฐานะนายกฯพร้อมจะเดินหน้า เหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นในช่วงเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา เป็นความโชคร้ายของนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ พวกเราเข้าใจทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้น แต่พวกเราพร้อมจะทำทุกอย่างให้ดีที่สุดให้รัฐบาลอยู่ครบวาระ และส่งต่อนโยบายของรัฐบาลไปสู่ประชาชน

“หมอมิ้ง” คืนสู่เก้าอี้เลขาฯนายกฯ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในที่ประชุม ครม.นัดพิเศษ ที่มี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯเป็นประธาน มีมติเห็นชอบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (สลน.) เสนอแต่งตั้ง นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ให้ ดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมือง ในตำแหน่งเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ 7 ก.ย.เป็นต้นไป

ทุกวันศุกร์เปิดประตู รมต.เข้าพบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงท้ายก่อนจะปิดประชุมครม.นัดพิเศษ น.ส.แพทองธารกล่าวขึ้นว่า ช่วงครึ่งเช้าของทุกวันศุกร์จะเปิดโอกาสให้รัฐมนตรีเข้ามาพูดคุยหารือกันได้อย่างเป็นกันเอง ไม่ต้องเกรงใจ เพราะอยากให้เกิดความใกล้ชิดเนื่องจากช่วงเวลาทำงานที่เหลืออีก 3 ปี ถือเป็นงานที่ท้าทาย ใครมีอะไรก็มาคุยกัน แต่ถ้าไม่มีใครมา หากรัฐมนตรีคนไหนถูกเรียกตัวให้เข้ามาคุยก็อย่ากังวล เพราะเป็นเรื่องของการติดตามงาน หากมีอะไรขอให้เข้ามาได้เลย ส่วนนโยบายอะไรที่ดีในสมัยรัฐบาลนายเศรษฐา ขอให้ดำเนินการต่อไป

นายกฯคุม ก.ตร.มอบ “อ้วน” ดู ตร.

สำหรับการประชุม ครม.นัดแรกอย่างเป็นทางการ วันที่ 17 ก.ย. นอกจากจะมีวาระสำคัญแต่งตั้งข้าราชการการเมืองแล้ว จะมีการพิจารณาการแบ่งงาน ให้รองนายกฯทั้ง 6 คน เบื้องต้นในส่วนของรองนายกฯจากพรรคร่วมรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีระกูล รองนายกฯ หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯ หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ยังคงเหมือนเดิม จะมีการสลับสับเปลี่ยนเฉพาะรองนายกฯจากพรรคเพื่อไทย เบื้องต้นนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ จะรับผิดชอบดูแลงานความมั่นคง ทหารและตำรวจ อย่างสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) คณะกรรมการนโยบายตํารวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) และหน่วยงานด้านความมั่นคงอื่น ขณะที่คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) น.ส.แพทองธารจะกำกับดูแลเอง

“พิชัย” ดูแลกระทรวงเกษตรฯ

ขณะที่นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯและรมว.คลัง ที่กำกับดูแลกระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ มาก่อนหน้านี้ ยังได้รับมอบหมายกำกับดูแลกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ก่อนหน้านี้นายภูมิธรรมกำกับดูแลอยู่ ส่วนนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯและ รมว.คมนาคม ยังคงกำกับดูแลเหมือนเดิมเป็นส่วนใหญ่ แต่อาจมีการแบ่งหน่วยงานให้นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กำกับดูแล นอกเหนือจากนายประเสริฐ กำกับดูแลงานเดิมของ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีตรองนายกฯและ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในส่วนของกระทรวงทรัพยากรฯยังไม่ชัดเจนว่าใครจะกำกับดูแล

“สรวงศ์” ไม่หวั่น พปชร.ล้างแค้น

นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กรณีนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ระบุว่าจะทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลโดยไม่มีการเกรงใจอะไรกันแล้วว่า การร่วมรัฐบาลตลอด 1 ปีที่ผ่านมา ทุกสิ่งทุกอย่างออกมาชัดเจน แม้ไม่ได้ออกมาเป็นคำพูด การที่พรรค พปชร.พูดเช่นนี้ถือว่าชัดเจนว่าที่มาของการที่เราไม่สามารถร่วมงานกับพรรค พปชร.ได้ มีที่มาเป็นอย่างไร เป็นการยืนยันด้วยตัวของเขาเอง เมื่อถามถึงกรณีที่นายชัยวุฒิระบุว่ามีการครอบงำจากบุคคลภายนอก นายสรวงศ์ตอบว่า ไม่มี สื่อมวลชนก็ทราบดี ช่วงที่มีการโหวตเลือกนายกฯแม้จะมีข่าวต่างๆออกมา แต่สุดท้ายพรรค พท.ก็มีมติพรรคออกมา ยืนยันว่าไม่มีใครมาครอบงำพรรคได้ เราทำงานกันเป็นระบบ และทำงานกันเต็มที่จนมีวันนี้ได้

พร้อมสู้ทุกคดี-ทุกเรื่องร้องเรียน

เมื่อถามว่าพรรค พปชร.ระบุว่าจะตรวจสอบทั้งในและนอกสภาฯ นายสรวงศ์ตอบว่า เราพร้อมถูกตรวจสอบอยู่แล้ว และยิ่งเป็นรัฐบาลยิ่งหนีไม่พ้น แต่ขอเวลาทำงานเพื่อพิสูจน์ผลงาน สิ่งที่เกิดขึ้นนายกฯ พร้อมรับบทบาทนี้และสู้ต่อไป เมื่อถามว่าที่ผ่านมาพรรค พท.ถูกมองว่ามีจุดอ่อนเรื่องการต่อสู้ด้วยข้อกฎหมาย นายสรวงศ์ตอบว่า ถูก เพราะเรามองบนจุดยืนของความบริสุทธิ์ใจ หลายเรื่องเราต่อสู้มาตั้งแต่พรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน มาถึงเพื่อไทย แต่ข้อกฎหมายต่างๆถูกพลิกแพลงอะไรไปบ้าง เหนือความคาดหมาย แต่วันนี้ ครม.มีนายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เข้ามาเป็นที่ปรึกษาใหญ่ มั่นใจว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำไปน่าจะมีความรอบคอบพอสมควร ขอให้ติดตามในฐานะเลขาธิการพรรค พท.พร้อมต่อสู้ทุกคดี และทุกข้อร้องเรียน

กร้าวคงร่วมงานกันอีกไม่ได้

เมื่อถามว่าพรรค พปชร.ระบุว่าถูกหลอกให้โหวตแล้วไม่ได้เข้าร่วมรัฐบาล นายสรวงศ์ตอบว่า ไม่มีอะไร วันนั้นพูดจากันตนก็อยู่ในเหตุการณ์และเคยให้สัมภาษณ์ไปแล้วว่ากิริยาและพฤติกรรมหลายอย่างชัดเจนมาก เมื่อถามว่าในอนาคตไม่สามารถร่วมงานกับพรรค พปชร.ไม่ว่ากรณีใดได้เลยใช่หรือไม่ นายสรวงศ์ตอบว่า ณ ตอนนี้ก็ยังเป็นแบบนี้ หากเขาพูดเช่นนี้ก็คงไม่สามารถร่วมงานกันได้

“ซาบีดา” เผยพ่อขอให้นึกถึง ปชช.

น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย กล่าวว่า การทำงานคงต้องรอการมอบหมายจากนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย อีกที ต้องรอฟัง ครม.แถลงนโยบายต่อรัฐสภาก่อน ยืนยันว่าพร้อมทำงานตามที่ได้รับมอบหมายให้ดีที่สุด รู้สึกตื่นเต้นบ้าง นายชาดา ไทยเศรษฐ์ อดีต รมช.มหาดไทย คุณพ่อสอนว่าให้ทำงานโดยคำนึงถึงประโยชน์ของประชาชน เมื่อถามว่าจะดึงนายชาดาเข้ามาช่วยงานด้วยหรือไม่ น.ส.ซาบีดาตอบว่า เรื่องนี้ต้องดูตามความเหมาะสม แต่คิดว่าไม่น่ามีโอกาส เพราะนายชาดามีเรื่องงานในพื้นที่ที่ต้องดูแล ในฐานะ สส.อุทัยธานี

“ธีรรัตน์” มั่นใจทำงานส่งเสริมกัน

น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช. มหาดไทย กล่าวถึงการทำงานร่วมกับ น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทยว่า น.ส.ซาบีดาเคยช่วยงานคุณพ่อของเขาอยู่แล้ว มีรายละเอียดเรื่องงานมาแลกเปลี่ยนกัน จะเป็นประโยชน์มากๆและความเป็นผู้หญิงคิดว่าน่าจะเสริมกันได้ ทั้งนี้มีงานคร่าวๆออกมาแล้ว หลายส่วนมีความเกี่ยวพันกัน เราจะพูดคุยกันแลกเปลี่ยน สิ่งที่ตัวเองได้ทำมาก่อน เช่น การลงพื้นที่พบปะประชาชนที่มีปัญหา เมื่อถามว่าในฐานะที่ สส.กทม. เพียงคนเดียวของพรรค พท.ที่ได้มาเป็นรัฐมนตรี จะดูแลพื้นที่อย่างไร น.ส.ธีรรัตน์ตอบว่า มีการพูดคุยว่าให้ผู้แทนของเราที่เป็นอดีต สส. และผู้สมัคร สส. มาเล่าความต้องการของประชาชนว่านโยบายตัวไหนสามารถนำลงไปในพื้นที่ได้ อาจได้เห็นเป็นโมเดลแรกๆ มาช่วยงานกันเยอะๆดีแล้ว เหมือนเลือกหนึ่งแต่ได้หลายคนมาด้วยกัน

“วันชัย” เปรียบสงครามครั้งสุดท้าย

วันเดียวกัน นายวันชัย สอนศิริ อดีต สว. โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า “ครอบครัวเพื่อไทย...ครอบครัวทักษิณ จะอยู่หรือไป การเอาคุณอิ๊งค์มาเป็นนายกฯ ถือเป็นสงครามครั้งสุดท้ายของคุณทักษิณและครอบครัว ดูจากชะตาและสถานการณ์การเมือง เทพยดาฟ้าดินทั้งล่างและบน พร้อมประชาชนกำหนดให้คุณทักษิณและครอบครัวแก้ตัวอีกครั้ง ถ้าแก้แล้วชนะก็เกิด ถ้าแพ้ก็ดับสูญสิ้น หมดโอกาสแก้ตัวอีก สงครามครั้งนี้ใหญ่หลวงต้องสู้กับเศรษฐกิจย่ำแย่ สังคมย่อยยับ การเมืองยุ่งเหยิง เป็นการพิสูจน์ฝีมือคุณทักษิณและครอบครัวของจริงหรือราคาคุย สิ่งที่เห็นบุญเก่ากำลังจะหมดไป บุญใหม่ยังไม่มี โอกาสครั้งนี้มาด้วยตัวเอง ตัวจริงเสียงจริงเล่นเองกำกับเอง ถ้าเล่นแล้วเหมือนคุณเศรษฐา คุณยิ่งลักษณ์ คุณสมัคร และคุณสมชาย ผ่านมาแล้วผ่านไป ไม่มีอะไรให้ประชาชนจดจำ นายกฯอิ๊งค์จะเหมือนนายกฯเหล่านั้น หรือเหมือนนายกฯทักษิณในอดีต อย่าสักแต่เป็นดีเอ็นเอเดียวกันเท่านั้น เขารออยู่เมื่อไหร่จะอยู่ดีกินดี ประเทศเจริญรุ่งเรือง สงบร่มเย็น ไม่ได้รอว่านายกฯอิ๊งค์จะอยู่นานเท่าไรหรือไปเมื่อไร”

ชี้ทางสิ่งที่ รบ.ควรทำไม่ควรทำ

ขณะที่นายสมชาย แสวงการ อดีต สว. โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า รัฐบาลใหม่กำลังจะแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ถือเป็นสัญญาประชาคม สิ่งสำคัญที่จะส่งผล ให้รัฐบาลอายุสั้นหรือยาวอยู่ที่การลงมือทำ ขอเสนอ 10 เรื่องที่รัฐบาลใหม่ควรทำ คือ 1.เร่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้องให้เป็นรูปธรรม 2.กระตุ้นเศรษฐกิจ แจกเงินสดช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง เฉพาะในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ควบคุู่กับกระตุ้นการใช้จ่ายโครงการอื่น เช่น คนละครึ่ง ชิมช้อปใช้ 3.รื้อโครงสร้างพลังงาน ควบคุมลดราคาน้ำมันดีเซล แก๊สหุงต้ม ปรับลดค่าไฟฟ้าภาคอุตสาหกรรม ครัวเรือน 4.แก้ปัญหาหนี้สินเกษตรกร 5.เร่งแก้ปัญหายาเสพติด 6.ประกาศสัญญาประชาคม ขจัดทุจริตทุกรูปแบบ 7.จัดการปัญหาธุรกิจทุนเทาข้ามชาติ 8.ปฏิรูปการศึกษา ส่งเสริมความรักชาติและสถาบัน 9.ลงทุนเรื่องบริหารจัดการน้ำทั้งระบบ 10.ลดความเหลื่อมล้ำ กระจาย อำนาจ ขยายความเจริญสู่ภูมิภาค ส่วน 10 เรื่องที่รัฐบาลใหม่ไม่ควรทำ คือ 1.โครงการแจก 1 หมื่นบาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต 2.ทุจริตคอร์รัปชันทุกรูปแบบ 3.ออกใบอนุญาตกาสิโนทำลายสังคม 4.นโยบายขายชาติให้เช่าที่ดิน 99 ปี 5.ดีลลับเจรจาพลังงานไทย-กัมพูชา 6.ออกกฎหมายคืนเงิน 46,000 ล้านบาท นิรโทษกรรมสุดซอย 7.แก้ พ.ร.บ.สภากลาโหม แทรกแซงกองทัพ 8.แทรกแซงนโยบายธนาคารชาติ 9.แทรกแซงกระบวนการยุติธรรมและองค์กรอิสระ 10.ปล่อยต่างชาติแทรกแซงการเมืองไทย บ่อนทำลายสถาบันและความมั่นคง

กลุ่มต้านดีเดย์ลงถนน 17 ก.ย.

เมื่อเวลา 13.00 น. ที่ลานอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา สี่แยกคอกวัว 3 เครือข่ายต้านระบอบทักษิณ ประกอบด้วย กลุ่มนักศึกษาและประชาชนปฏิรูปประเทศ หรือ คปท. นำโดยนายพิชิต ไชยมงคล นายนัสเซอร์ ยีหมะ กลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน หรือ ศปปส. นำโดยนายอานนท์ กลิ่นแก้ว และกลุ่มกองทัพธรรม สันติอโศก นำโดย ร.ต.แซมดิน เลิศบุศย์ นายใจเพชร กล้าจน นัดชุมนุมเปิดโปงระบอบชินวัตร #1 “หยุดระบอบชินวัตร ครม.ญาติกา” บรรยากาศมีเหล่ามวลชนที่เคยชุมนุมไล่ระบอบทักษิณตั้งแต่ยุคม็อบพันธมิตรและม็อบ กปปส. ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงวัย บางคนถึงกับรื้อเสื้อเหลืองที่เคยใส่ในการชุมนุมพันธมิตรมาสวม งัด “มือตบ” มาร่วมชุมนุมด้วย ต่อมา นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำ คปท. อ่านแถลงการณ์ฉบับที่ 1 ใจความสรุปว่า การปรากฏตัวแสดงวิสัยทัศน์ ประเทศไทยของนายทักษิณ เสมือนตัวเองเป็นนายกฯ คอยครอบครอง น.ส.แพทองธารอีกชั้น ยิ่งการจัดตั้งครม.ยิ่งเป็นบทสะท้อนว่าคำนึงถึงแต่เครือญาติและคนใกล้ชิด พบกัน ครม.นัดแรก วันที่ 17 ก.ย.ที่ทำเนียบรัฐบาล

ชาวสะเอียบฮือต้านแก่งเสือเต้น

อีกเรื่อง ชาวสะเอียบ 4 หมู่บ้าน คือ ดอนแก้ว ดอนชัย แม่เต้น และดอนชัยสักทอง นับพันคนร่วมชุมนุมประท้วงการสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น มีการเดินถือป้ายคัดค้านการสร้างเขื่อนไปตามถนนสายเชียงม่วน-สะเอียบ ระยะทางกว่า 1 กม. จากนั้นแกนนำสลับขึ้นเวทีปราศรัยคัดค้านการสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น ให้เหตุผลถึงปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้ง ที่เกิดจากการละเลยไม่แก้ปัญหาอย่างจริงใจ นายณัฐปคัลภ์ ศรีคำภา นายก อบต.สะเอียบ กล่าวว่า ครม.เคยมีมติชะลอการสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้นไปแล้ว แต่นักการเมือง 3 คนยังมาปลุกผีโครงการนี้ มีนัยหลายประการโดยเฉพาะการใช้งบประมาณของรัฐบาลที่ต้องการกู้เงินเพิ่ม และพวกต้องการผลประโยชน์ จากนั้นกลุ่มตะกอนยม ที่เป็นกลุ่มเยาวชนรุ่นใหม่ อ่านแถลงการณ์แสดงจุดยืนปกป้องพื้นที่ป่าสักทองกว่า 2 หมื่นไร่ และปกป้องถิ่นที่อยู่อาศัยตลอดไป ทั้งนี้ มีรายงานว่ากลุ่มคัดค้าน สร้างเขื่อนแก่งเสือเต้นและชาวสะเอียบ รวมทั้งสมัชชาคนจนจะเดินทางเข้าพบ น.ส.แพทองธาร เพื่อยื่นหนังสือคัดค้านการสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น ในวันที่ 11 ก.ย.นี้ที่ทำเนียบรัฐบาล

ปชน.ดาวกระจายช่วย “ณฐชนน”

เวลา 10.00 น. ที่ อ.เมืองพิษณุโลก แกนนำพรรคประชาชน (ปชน.) นำโดยนายณัฐพงษ์ เรือง ปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรค ปชน. นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ กรรมการบริหารพรรค พร้อมผู้ช่วยหาเสียง อาทิ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ นายชัยธวัช ตุลาธน 2 อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ลงพื้นที่ช่วยนายณฐชนน ชนะบูรณาศักดิ์ ผู้สมัครเลือกตั้งซ่อม สส.พิษณุโลก เขต 1 พรรค ปชน. มีการจัดดาวกระจายทั่วทั้งเขต 1 แจกแผ่นพับประชาสัมพันธ์ ขึ้นรถแห่กระจายเสียง และเปิดวงกาแฟพบปะพูดคุยกับผู้สนับสนุน ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากประชาชนในพื้นที่ นายณัฐพงษ์กล่าวว่า ตอนนี้สนามพิษณุโลกคือต้นทาง ถ้าอยากทำให้ก้าวแรกของการเปลี่ยนแปลงง่ายขึ้น ขอให้ทุกคนช่วยกันบอกต่อ ชวนทุกคนที่มีสิทธิเลือกตั้ง ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนให้ช่วยกันกลับมายึดเก้าอี้นี้คืน ส่งนายณฐชนนเข้าไปทำหน้าที่นี้ต่อในสภาฯ ต่อจากปดิพัทธ์ สันติภาดา ที่ทำผลงานครองใจชาวพิษณุโลกมาตั้งแต่อนาคตใหม่จนถึงก้าวไกล

“บู้ จเด็ศ”คุยเชื่อม รบ.ไร้รอยต่อ

ช่วงเช้าที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร (วัดใหญ่) จ.พิษณุโลก นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช อดีต รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ นายดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคเพื่อไทย ร่วมทำบุญตักบาตรก่อนลงพื้นที่ช่วยนายจเด็ศ จันทรา ผู้สมัคร สส.พิษณุโลก เขต 1 พรรค พท. หาเสียง นายจเด็ศกล่าวว่า การลงพื้นที่ตลาดใต้ และตลาดร่วมใจ ทั้ง 2 ตลาดเป็นตลาดหลักที่คนพิษณุโลกมาจับจ่ายใช้สอยกันตั้งแต่เช้า ทุกคนต่างพูดถึงปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง การค้าขายฝืดเคือง อยากให้รัฐบาลเร่งแก้ไข โดยเฉพาะเงินดิจิทัลวอลเล็ต ได้รับฟังและพร้อมเสนอไปยังรัฐบาล เชื่อมั่นว่าหากได้รับเลือกเป็น สส.จะสามารถทำงานแบบไร้รอยต่อได้ ส่งปัญหาพี่น้องถึงมือนายกฯและรัฐบาล

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่