สะอึก อาการสะท้านคำถามเสียดแทงใจ ในอารมณ์ผู้นำหญิงป้ายแดง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ต้องอุทานดังๆ “โห แรงจริงๆใช้คำแรงจัง” เมื่อโดนนักข่าวรุมซัก เกี่ยวกับกระแสวิพากษ์วิจารณ์หน้าตา “ครม.อิ๊งค์ 1” เป็นการสืบต่อครอบครัว

ต้องเคลียร์สัญญาณตอบรับเชิงลบของสังคมต่อโฉมหน้ารัฐมนตรีชุดใหม่กันตั้งแต่วันแรกๆที่ผ่านพิธีกรรมแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ

35 ผู้ผ่านมาตรฐาน ทีม “รัฐนาวาแพทองธาร” ที่กรองกันหลายชั้น ตรวจกันละเอียดยิบตั้งแต่ประวัติอาชญากรรมตำรวจ เช็กไปถึงข้อมูลตลาดหุ้น คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ไปจนถึงคณะกรรมการกฤษฎีกา

เข้ม “รหัสแดง” ไม่ปล่อยผ่านพวกเทาๆดำๆ

หักหลบเงี่ยง “จริยธรรม” แต่ไหลไปชนตอ “เก้าอี้มรดกครอบครัว” จังๆ

แบบที่สังคมเชื่อโดยสนิทใจเลยว่า นายอัครา พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ถูกส่งมาคุมขุมทรัพย์ปู่โสมฯ เสียบโควตาแทนพี่ชายในสายเลือด “ผู้กองนัส” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า หัวขบวน “กบฏพลังประชารัฐ”

นามสกุลชัดๆหน้าตาละม้าย สืบสายเลือดคลานตามกันมา

อารมณ์เดียวกับ น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย ที่ถูกดันให้รับ บท “นางสิงห์สาว” จากลุ่มน้ำสะแกกรัง ขึ้นนั่งหลังเสือแทนพ่อ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ขาใหญ่ ค่ายภูมิใจไทย ที่ตัดใจถอนตัวนาทีสุดท้าย ถอยไปอยู่ข้างหลังลูกสาว

เลียนแบบแฟชั่นผู้นำ “ผู้ครอบครอง” รัฐมนตรี

ขยายภาพ “เก้าอี้มรดก” สืบทอดกันตามสายเลือด “ครม.ครอบครัว” กิจการทางการเมืองของไม่กี่ตระกูลบ้านใหญ่ในขุมข่ายนักเลือกตั้งอาชีพ

...

ไฟต์บังคับบีบ “ครม.อิ๊งค์ 1” ยกระดับมาตรฐาน “จริยธรรม” แต่ก็หนีไม่พ้นธรรมชาติการเมืองแบบไทยๆระบบอุปถัมภ์ของขบวนโหนอำนาจอนุรักษ์นิยมที่ใช้เสียง สส.ในสภา ระบบโควตาในการจัดสรรตำแหน่ง รัฐมนตรีในฝ่ายบริหาร

เรื่องของเรื่อง การถ่ายโอนรัฐมนตรีในเครือญาติไม่ผิดรัฐธรรมนูญ

ไม่มีความเสี่ยงเงี่ยงกฎหมาย อย่างน้อยก็ได้แสดงถึงความพยายามล้างคราบเทาดำ ครม.ใหม่ป้ายแดง ไม่สวยหล่อ ไม่ถูกใจ แต่ไม่ถึงกับขี้เหร่ซะทีเดียว

เพราะพวกติด “รหัสแดง” ถอยไปอยู่วงนอก ไม่ให้เห็นตำตา

แต่ปัญหายังเคลียร์ไม่หลุด จุดอันตรายยังนัวเนีย ตามตัวเลข 11 รัฐมนตรี ที่นายสมชาย แสวงการอดีต สว.ลากตั้ง เปิดโพย “ครม.อิ๊งค์ 1” มีปัญหาคุณสมบัติ ติดชนักคดี เสียง “เครื่องสแกนจริยธรรม” ร้องตี๊ดๆ

นั่นหมายถึงยังมีคน “ติดระเบิดเวลา” ไปนั่งร่วมวงกับผู้นำอีกเพียบ

อยู่ในเป้า “วินาศกรรม” ตูมตามได้ตลอดเวลา

อารมณ์แบบที่ “ผู้นำคนสุดท้องตระกูลชิน” ออดอ้อน ขอให้ “สงสารนายกฯบ้าง” แทบวอนร้องขอชีวิตจากบรรดานักร้อง แก๊งดักเจาะยาง ขบวนการโรยตะปูเรือใบที่เข้าแถวรอตะลุมบอน

ผวา รู้สถานะตัวเองดีว่าเป็นเหยื่อ “คนในป่าฯ” จ้อง “ถอนแค้น”

สภาพเสียงแน่นแต่สัมพันธ์หลวม “ครม.อิ๊งค์ 1” หนีไม่พ้นวังวนการเมืองป่วน เกมอำนาจลักลั่น เกมหักเหลี่ยมเฉือนคมกันเองในขบวน โหนอำนาจอนุรักษ์นิยม

ภูมิต้านทานผู้นำรัฐบาลผสมเพื่อไทย ขึ้นๆลงๆตามดีลผลประโยชน์ลงตัว

แต่ตัวแปรสำคัญเลย มันอยู่ที่ปมปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจ “นายกฯแม่ลูกอ่อน” โชว์ลูกฟิต นัดประชุม ครม.นัดพิเศษกันทันทีหลังถวายสัตย์ปฏิญาณ

นัดลุยกันไม่เว้นวันหยุดเสาร์–อาทิตย์ ติดเครื่องเหยียบคันเร่ง

เทกแอ็กชันโชว์ฟอร์มขมีขมัน ล้อไปกับปัญหาปากท้อง ที่จ่อคอหอยชาวบ้านรากหญ้า เสียงบ่นยากลำบากในหมู่ผู้มีรายได้น้อยดังขึ้นทุกขณะ

ตกงาน ค้าขายไม่ดี ไม่มีเงินจับจ่ายใช้สอย หนี้นอกระบบ บานตะไท

อ้างอิงตามข้อมูลหลักๆจากภาคเอกชนตัวจริงเสียงจริงในการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจของประเทศ

ล่าสุด นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะประธานสมาคมธนาคาร เปิดเผยข้อมูลภายหลังการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.)

เป็นข้อมูลชุดเดียวกับที่นำเสนอในการเข้าพบนายกฯไปก่อนหน้า

ตอกย้ำภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ตัวเลขโรงงานปิดตัวเพิ่มขึ้นในช่วง 7 เดือนแรกกว่า 757 แห่ง ภาวะหนี้ครัวเรือนอยู่ในระดับสูง สถานการณ์เศรษฐกิจโลก มีแนวโน้มชะลอตัวลงต่อเนื่อง

เรื่องด่วนฉุกเฉิน ปมปัญหาปากท้องประชาชนจ่อถล่มรัฐบาล

แต่โฟกัส “ครม.อิ๊งค์ 1” ไม่ได้มี “มือเศรษฐกิจชั้นอ๋อง” ติดโพยแม้แต่โรยหน้าเค้กให้ดูสวยงามแต่อย่างใด

ไล่เช็กเครดิตย้อนหลัง นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯและ รมว.คลัง ก็จัดอยู่ในโหมดผู้กว้างขวางตลาดทุน เซียนตลาดหุ้น มือแปรรูป ปตท.

“มืองานเฉพาะกิจ” ของตระกูลชินวัตร

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ ก็เจ้าเก่า ขาประจำ ชื่อผลุบๆโผล่ๆมาแบบเซอร์ไพรส์ แกว่งไปแกว่งมาระหว่าง รมว.พาณิชย์กับ รมว.ต่างประเทศ

ไม่ได้เจาะจงดึงมาใช้งานด้านเศรษฐกิจเป็นการเฉพาะเจาะจง

หรือแม้แต่นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯและ รมว.ดิจิทัลฯ ที่ได้ควบเก้าอี้ใหญ่ มีห้องทำงานในทำเนียบรัฐบาลแบบงงๆ

แค่จัด “สายตรง” ให้ลงตัวกันในหมู่ “นายใหญ่-นายหญิง-น้องปู”

ดูตามทรง โดยความตั้งใจของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯในตำนาน ต้องการใช้เครดิตตัวเองในการรับเหมางานเศรษฐกิจรัฐบาลเพื่อไทย

ทุ่ม “แต้มบุญเก่า” อดีตไทยรักไทยรุ่งเรือง ในการการันตี

“สมองกล” ยี่ห้อ “ทักษิณ” สั่งการตรงจากศูนย์บัญชาการใหญ่

ตามรูปการณ์อย่างที่ “ดร.ไหม” น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ กัปตันทีมเศรษฐกิจพรรคประชาชน อ่านทางดักไต๋ล่วงหน้า มั่นใจเลยว่า รัฐบาลเพื่อไทยถอดวิสัยทัศน์ของอดีตนายกฯในตำนาน ที่เวทีโชว์ “Vision for Thailand 2024”

แปลงเป็นร่างนโยบายรัฐบาลโดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ แถลงต่อสภา

และนั่นก็น่าจะตรงอก ตรงใจ ตอบสนองความหวังของกองเชียร์พรรคเพื่อไทย “ทักษิณ” จะกลับมาฟื้นความกินดีอยู่ดี รวมไปถึงประชาชนทั่วไป นักลงทุน นักธุรกิจ ที่มองว่าวิกฤติเศรษฐกิจขั้นตรีทูตแบบนี้มันต้อง “เบอร์ใหญ่” ระนาบเดียวกับ “ทักษิณ” ถึงจะลุ้นเอาอยู่

“เถ้าแก่ใหญ่” แสดงความเป็น “ตัวจริง” แบกความหวัง ไว้เต็มบ่า

ในสถานการณ์ลุ้นเสียวบน “ความเสี่ยง” ตามจังหวะอดีตนายกฯในตำนานออกหน้าม่าน เล่นเอง คุมคิวกำกับเอง ตามบท “ผู้ครอบครอง” นายกฯคนสุดท้องตระกูลชิน

อารมณ์ฮึกเหิม ย่ามใจในสถานะ “นายกฯ 2 พ่อลูก” ถูกใจกองเชียร์ กระตุกต่อมหมั่นไส้ของศัตรูคู่อาฆาต

ไม่มองมุมน่ารัก “ครอบครอง” แต่จ้องเล่นมุมน่าเกลียด “ครอบงำ”

ตามเสียงขู่ดักทาง นักร้องทีมบ้านป่าฯ ดักคอ น.ส.แพทองธารให้ระวังการลอกวิสัยทัศน์ของนายทักษิณมาเป็นนโยบายรัฐบาล

จะเข้าเงี่ยงกฎหมาย โดนยื่นฟันฐานปล่อยให้คนนอกชี้นำ

ลากไปโยงผูกเป็นปมล็อก กรณี “นักร้องนิรนาม” ยื่นให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ลงดาบสอง สืบเนื่องจากกรณีนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ โดนริบเก้าอี้ เพราะตั้งรัฐมนตรีผิดจริยธรรมร้ายแรง

ต้องมีคำสั่งแฝงมาจากผู้มีบารมีเหนือพรรคเพื่อไทย

นัวเนียกับประเด็น “คลิปลับ” จาก “กล้องกระดุม” ที่เล่าลือกันว่าอยู่ในมือ “คนในป่าฯ” ช็อต “นายใหญ่” เรียกแกนนำรัฐบาลไปฟอร์มทีมหลังนายเศรษฐาตกเก้าอี้ รอเวลาเช็กบิลโค่นกระดาน “รัฐบาลสูตรพิสดาร”

เร้าสถานการณ์ “ทักษิณ” แบกความหวัง บนความเสี่ยง.

“ทีมการเมือง”

คลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม