รอตัดริบบิ้นบริหารราชการแผ่นดินอย่างเป็นทางการ “นายกฯอิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นำคณะรัฐมนตรีชุดใหม่เข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ปฏิญาณตนก่อนเข้ารับหน้าที่

ติดเครื่องด่วนจี๋ ประชุม ครม.นัดพิเศษ วันที่ 7 ก.ย.นี้ เพื่อเร่งตรวจร่างและให้ความเห็นชอบนโยบายรัฐบาลที่จะแถลงต่อที่ประชุมรัฐสภา วันที่ 12-13 ก.ย.นี้

เหลืออีกไม่กี่อึดใจ “นายกฯอิ๊งค์” จะไขประตูสู่ตึกไทยคู่ฟ้า ปักหลักทำเนียบรัฐบาล คุมทัพ ครม. ลูกผสม ทั้งแดง-เหลือง-น้ำเงิน-ฟ้า รอพิสูจน์ฝีมือการทำงาน

ภาระนางแบก หอบความคาดหวังคนไทยทั้งประเทศล้นบ่า ต้องเร่งสปีดทำงานทันทีทันใด ไม่มีเวลารำมวย เต้นฟุตเวิร์ก รอดูเชิงใดๆ

ทีม ครม.มีครบแล้ว กระสุนก็เพิ่งบรรจุเต็มโกดัง หลังจากที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ให้ความเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 วงเงิน 3.75 ล้านล้านบาท ผ่านวาระ 3 เรียบร้อยแล้ว

คนครบ เสบียงพร้อม ถึงเวลาเหยียบมิดไมล์ใส่เต็มสูบ กู้กระแสความนิยมกลับคืนมา

ตามแนวโน้มสัญญาณบวก ตลาดหุ้นไทยเด้งขึ้นต่อเนื่อง หลังเพิ่งทุบสถิติปิดตลาด เมื่อวันที่ 5 ก.ย.2567 แตะที่ 1,404.28 จุด สูงสุดในรอบเกือบ 2 ปี ต่างชาติแห่แย่งซื้อเป็นมูลค่ากว่า 7,484 ล้านบาท ภายในวันเดียว

หุ้นไทยพุ่งแรง ส่วนหนึ่งมาจากการขานรับ ครม.ชุดใหม่ ที่นักลงทุนคาดหวังจะเข้ามาเร่งผลักดันนโยบายเศรษฐกิจสำคัญของรัฐบาล โดยเฉพาะโครงการดิจิทัลวอลเล็ต โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจเร่งด่วนอื่นๆ ตลอดจนการเตรียมขายกองทุนวายุภักษ์หนุนหุ้นไทยพุ่งลิ่ว

ดัชนีหุ้นไทยคึกคัก นับแต่ช่วงที่ น.ส.แพทองธารได้รับโหวตจากที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรเป็นนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ 16 ส.ค.2567 ยืนระยะเคลื่อนไหวแตะแดนบวก

ล่าสุด นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง แสดงความมั่นใจเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้ที่ 2.7-3% ในช่วงไตรมาสสุดท้ายปี 2567 สูงกว่าที่คาด

...

เนื่องจาก พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 2568 มีผลบังคับใช้ และจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหญ่ของรัฐบาลออกมา ส่งผลให้มีเม็ดเงินไหลเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจมากขึ้น

การเมืองนิ่ง ช่วยเศรษฐกิจขยับตัวทิศทางบวก สร้างความมั่นใจนักลงทุน ยิ่งถ้าการเมืองมีเสถียรภาพชัดเจนก็ยิ่งเร่งเศรษฐกิจโตได้เร็วขึ้น

ภายใต้เงื่อนไขสำคัญ ต้องลุ้นไม่ให้รัฐบาล “แพทองธาร” เผชิญการเมืองแปรปรวน ฉุดเศรษฐกิจซวนเซ ประสบชะตากรรมเหมือนยุครัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน ที่ติดด่านคดีการเมือง ต้องจอดป้ายเก้าอี้ผู้นำในเวลาต่อมา

รัฐบาล “นายกฯอิ๊งค์” จะอยู่ได้ครบเทอมหรือไม่ ปัจจัยหลักอยู่ที่ฝีมือการบริหารงาน จะฝ่ามรสุมเศรษฐกิจ แก้ปัญหาค่าครองชีพที่ผูกโยงกันในหลายๆปัจจัยได้หรือไม่

ปลดล็อกวิกฤติปากท้องประชาชนไม่ได้ก็ไปต่อยาก

แต่ที่ประมาทไม่ได้คือ กับดักคดีการเมือง ถ้าเสียท่าพลาดพลั้งอาจหล่นเก้าอี้ผู้นำได้

อย่างที่เห็นยังไม่ทันนายกฯหญิงจะเริ่มบริหารราชการแผ่นดิน ก็โดนทีมนักร้องจดๆจ้องๆขู่เล่นงานตรวจสอบปมจริยธรรมในการแต่งตั้งรัฐมนตรีที่มีประวัติเทาๆ

ล็อกเป้าไว้หมด ทั้งคนแต่งตั้งและคนถูกแต่งตั้ง แค่รอเลือกจังหวะจู่โจมตามเวลาที่เหมาะสม

แม้กระทั่ง “นายกฯอิ๊งค์” ก็แอบเสียวสันหลัง จุดเสี่ยงล้อมตัว ตั้งแต่ยังไม่เริ่มทำงาน อ้อนนักร้องอย่าฟ้องเยอะ บอกสงสารกันบ้าง ไม่อยากติดชนักปมจริยธรรม ในฐานะหัวหน้ารัฐบาลต้องแบกความรับผิดชอบการตั้ง ครม.

ปมชอกช้ำ “เพื่อไทย-ประชาชน” ตกที่นั่งเดียวกัน ต่างหงายหลังด้วยอำนาจองค์กรอิสระมาเหมือนกัน

แม้จะเกลียดกันเข้ากระดูกดำ มีเรื่องให้ผูกใจเจ็บตอนหักหลังตั้งรัฐบาล แต่อาจถึงเวลาลงเรือลำเดียวกันเฉพาะกิจ จับมือแก้รัฐธรรมนูญ เคลียร์ประเด็นหนามยอกอก

โปรแกรมการแก้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ ขยับเร็วแน่ อย่างที่ นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ป้ายแดง ส่งสัญญาณพร้อมผลักดันการแก้รัฐธรรมนูญ และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

เคลียร์ปมการตีความมาตรฐานทางจริยธรรมให้ชัดเจน ห้ามตีความแบบเหวี่ยงแห เสี่ยงต่อการบริหารประเทศไม่ได้

เพื่อไทยจ่อลุยไฟแก้รัฐธรรมนูญ ถ้าการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) มายกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ไม่ทันใจ ก็อาจยื่นแก้รายมาตราไปก่อน

โจทย์ยากถอดสลักมาตรฐานจริยธรรมเสี่ยงถูกแรงต้านหนัก ยิ่งผูกโยงอำนาจองค์กรอิสระ แรงต้านยิ่งทวีคูณ

แต่ถ้าปลดล็อกไม่สำเร็จ ผู้นำก็ต้องอยู่แบบหลอนๆ พรรคก็เสียวถูกยุบได้ทุกเวลา

ทีมข่าวการเมือง

คลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม