“ไพบูลย์ นิติตะวัน” ลั่น พร้อมเป็นฝ่ายค้าน จะทำให้ดีที่สุด มั่นใจ กก.บห. พลังประชารัฐ 24 คน เข้มแข็ง เป็นปึกแผ่น ด้าน “ชัยวุฒิ” ชี้ชัด พปชร.มีปัญหา มาจากคนนอกครอบงำ ไม่ขอพูดถึงคนออกไปแล้ว ให้คอยดู “บิ๊กป้อม” มนต์เสื่อมหรือยัง

วันที่ 6 กันยายน 2567 นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมใหญ่วิสามัญประจำปี ระบุว่า เราจะปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานตำแหน่งเลขาธิการพรรค จากเดิมจะมีการเข้าไปดูผู้สมัครเลือกตั้งทั่วประเทศ แต่งานหลักในการสนับสนุนฝ่ายต่าง ๆ อาจไม่ได้ทำมากพอ ซึ่งเราจะปรับโครงสร้างให้สนับสนุนรองหัวหน้าพรรค ให้รองหัวหน้าพรรคดูแลการเลือกตั้งแต่ละส่วน ที่สำคัญการปฏิบัติงานขึ้นตรงกับหน้าพรรค

นายไพบูลย์ ระบุอีกว่า การที่มีกรรมการบริหารพรรคทั้งหมด 24 คน สร้างความเข้มแข็ง เป็นปึกแผ่น จะเดินก้าวไป ย้ำว่าชุดใหม่ มีโครงสร้างเข้มแข็ง นอกจากมี สส., อดีต รมว.จำนวนมาก ยังมีนักวิชาการ ที่มีความรู้ในสาขาต่าง ๆ ได้เข้าร่วมในจำนวนนี้ด้วย ส่วนแนวทางการดำเนินงาน เมื่อมีการประชุมครั้งต่อไปจะมีการแถลงข่าวให้ทราบอีกครั้ง

การปรับครั้งนี้ มั่นใจ คณะกรรมการบริหารพรรคมีโครงสร้างเป็นหนึ่งเดียวมั่นคง เชื่อจะทำให้การดำเนินงานของพรรค การช่วยเหลือประชาชน รวมทั้งการทำหน้าที่อื่น ๆ ในฝ่ายนิติบัญญัติจะทำหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นายไพบูลย์ ยืนยันว่า พรรคเราพร้อมเป็นฝ่ายค้าน ก็เป็นสิ่งที่พร้อมจะปฏิบัติ ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาล หรือฝ่ายค้านก็จะทำให้ดีที่สุด เชื่อมั่นเราจะก้าวสู่ยุคใหม่การเปลี่ยนผ่าน ขอให้ติดตาม ไม่ว่าจะนโยบายอนุรักษ์นิยมทันสมัย หรือการปกป้องสถาบัน ก็เป็นเรื่องที่เราต้องดำเนินการต่อไป

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ
นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ

...

ด้านนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมใหญ่สามัญ ถึงกรณี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค ประกาศรีแบรนด์พรรคใหม่ ว่า ไม่ถึงกับรีแบรนด์ ยังคงเป็นพรรคพลังประชารัฐเหมือนเดิม เพียงแต่ได้เน้นถึงอุดมการณ์ให้ชัดเจน และแนวทางการทำงานต่อไปที่เราจะต่อสู้ในอนาคต ทุกอย่างยังเหมือนเดิม

ผู้สื่อข่าวถามว่า สมาชิกพร้อมรับกับการรีแบรนด์พรรคใหม่ครั้งนี้หรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า คนที่อยู่สู้กับพรรคมีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะทำงานการเมืองต่อกับเรา มีอุดมการณ์ร่วมกัน ส่วนคนที่ไม่อยู่ถือว่าออกไปแล้ว ซึ่งมีความชัดเจน และตนไม่อยากจะพูดถึง ส่วนคนที่อยู่คือรักกัน ทำงานร่วมกันแน่นอน เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้พรรคย้ำเรื่องของการไม่แตกแยก แต่ภาพที่ปรากฏออกมามันสวนทางกัน นายชัยวุฒิ กล่าวว่า มันเป็นธรรมดาของพรรคการเมือง มีคนหลายกลุ่มหลายฝ่ายอยู่ด้วยกันก็มีความเห็นที่ไม่ตรงกันบ้าง ตนว่าอย่ามองที่พรรคพลังประชารัฐเลย ทุกพรรคมีปัญหาแบบนี้ เพียงแต่ว่าแต่ละพรรคจะบริหารจัดการภายในพรรคอย่างไร ซึ่งของพรรคพลังประชารัฐที่เกิดปัญหาในครั้งนี้มันไม่ได้เกิดจากภายในพรรคอย่างเดียว แต่เกิดจากบุคคลภายนอกพรรคที่เข้ามาครอบงำ เข้ามาสั่งการด้วย จึงทำให้เกิดปัญหา

เมื่อถามว่า กลุ่มของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา ได้โหวตสวนในการลงมติร่าง พ.ร.บ.งบประมาณประจำปีงบประมาณ 2568 ไม่ได้เป็นพฤติการณ์ให้ขับออกจากพรรคได้ใช่หรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ยังไม่ถึงจุดนั้น ถ้าถึงจุดนั้นค่อยว่ากันอีกที และในพรรคเรายังไม่มีการพูดคุยถึงการขับ ไม่เป็นไร ใจเย็น ๆ เมื่อถามว่า ท่าทีขึงขังของ พล.อ.ประวิตรในที่ประชุมใหญ่สามัญ เป็นการส่งสัญญาณอะไรหรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ไม่ทราบ เมื่อถามว่า กลุ่มของ ร.อ.ธรรมนัส อยากให้พรรคขับออกเพื่อจะไปร่วมงานกับพรรคอื่น แต่ดูเหมือนพรรคพลังประชารัฐพยายามดึงรั้งไว้ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ไม่ทราบ เพราะยังไม่มีการพูดคุยกัน ตนว่าเรื่อง ส.ส.ที่แยกตัวออกไป คงต้องดูสถานการณ์อีกทีว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ตอนนี้พรรคยังไม่มีท่าที เรื่องนี้ปล่อยให้ฝ่ายต่าง ๆ ทำหน้าที่กันต่อไป ยังไม่ถึงเวลาที่จะมาแตกหักกัน

ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีที่เกิดขึ้น มองว่าเป็นลักษณะการแก้แค้นของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กับ พล.อ.ประวิตรหรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ไม่ทราบ ต้องไปถามท่าน ตนตอบแทนไม่ได้ แต่การเมืองอย่าพูดเรื่องแค้นหรือความโกรธเคืองอะไรกันเลย เพราะต่างคนต่างทำหน้าที่ และสถานการณ์การเมืองมันเปลี่ยนไปตลอด อย่างวันหนึ่งเห็นหรือไม่ว่าคนที่ไม่ถูกกันยังกลับมารักกันเลย ผลประโยชน์ลงตัวก็ทำงานด้วยกันได้ เมื่อถามว่า แสดงว่าถ้ามีโอกาสเคลียร์ใจคงจะสามารถกลับมาทำงานร่วมกันได้ใช่หรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ไม่ทราบ เมื่อถามอีกว่า ที่พรรคพลังประชารัฐเป็นแบบนี้ เป็นเพราะ พล.อ.ประวิตรเสื่อมการปกครองใช่หรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ไม่ทราบ ดูกันเองแล้วกันว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป แต่ตนว่า พล.อ.ประวิตรยังเป็น พล.อ.ประวิตรคนเดิม มีความมุ่งมั่นตั้งใจ มีพลังที่จะทำงานขับเคลื่อนการเมืองต่อไป ใครจะอยู่ใครจะไปเป็นเรื่องของคนภายนอก ไปบังคับเขาไม่ได้ แต่ตนเชื่อว่าอุดมการณ์หลักของพรรคในการที่จะทำงานเพื่อประชาชนให้อยู่ดีกินดี เศรษฐกิจทันสมัยขึ้น ปกป้องสถาบัน ทำให้บ้านเมืองมั่นคง เป็นแนวทางหลักของพรรคที่จะทำงานต่อไปแน่นอน

เมื่อถามว่า สมาชิกพรรคพร้อมที่จะทำหน้าที่ฝ่ายค้านหรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า รอดูต่อไปแล้วกัน การที่เราประชุมพรรควันนี้แสดงว่าเราพร้อม มีการตั้งกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ และยืนยันกับสมาชิกพรรคว่าจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ส่วนการตรวจสอบรัฐบาลมีหลายช่องทางอยู่แล้ว ทั้งในสภาผ่านการอภิปราย เราจะทำให้เต็มที่ และการตรวจสอบด้านกฎหมาย ใครทำผิด ใครทำทุจริต เราก็ว่าไป เราจะทำเต็มที่ ไม่ต้องเกรงใจกันแล้ว เพราะไม่ได้อยู่ร่วมกัน ก็ไม่ต้องเกรงใจกัน ทำให้เต็มที่ เมื่อก่อนเกรงใจกัน แต่ตอนนี้ไม่ต้องเกรงใจกันแล้ว

เมื่อถามอีกว่า พร้อมทำงานร่วมกับพรรคประชาชนใช่หรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า การจะทำงานร่วมกันในส่วนของพรรคฝ่ายค้านก็เป็นไปตามกติกาประชาธิปไตย ส่วนจะทำงานร่วมกันแบบไหนต้องมีการพูดคุยกัน อย่างน้อย ๆ การอภิปรายในสภาต้องมาคุยเรื่องเวลาที่ต้องมาแบ่งเวลากัน ส่วนการลงมติก็เป็นเรื่องของแต่ละพรรคที่มีทิศทางอยู่แล้วว่าจะอย่างไร คงไม่จำเป็นต้องตามกันทุกเรื่อง