ความจริงคุณสมบัติของแต่ละบุคคลว่าด้วยเรื่อง “จริยธรรม” นั้นโดยมโนสำนึกแล้วต่างก็น่าจะรู้ตัวเองดีว่าเป็นอย่างไร โดยเฉพาะนักการเมือง “สีเทา” ทั้งหลายไปทำอะไรไว้แค่ไหนอย่างไร มีแต่พวกโกหกตัวเองเท่านั้นที่ไม่ยอมรับความเป็นจริงที่เกิดขึ้น

การที่ “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” ไม่ส่งชื่อตัวเองเป็นรัฐมนตรี

นั้นคือการยอมรับความจริงว่าตนเองนั้นขาดคุณสมบัติ

ไม่ต้องรอให้มีการตรวจสอบเสียก่อน...

“ชาดา ไทยเศรษฐ์” ได้ถอนตัวจากการเสนอชื่อเป็นรัฐมนตรีในนาทีสุดท้ายหลังจากที่กฤษฎีกาได้ตรวจสอบคุณสมบัติแต่ละคนแล้วจากการตอบคำถาม 10 ประเด็นจึงจะผ่านไปได้

พูดง่ายๆว่าต้องรอให้ถึงที่สุดก่อน

ความจริงเรื่องนี้ “อนุทิน ชาญวีรกูล” หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย น่าจะรู้ดีว่าปูมประวัติของแต่ละคนที่เป็นลูกพรรคดีอยู่แล้วแต่คงไม่กล้าที่จะห้ามหรือไม่ส่งชื่อเพราะเกรงใจหรือเกรงบารมี

“เจ้าพ่อสะแกกรัง” คนนี้!

ที่สุดก็ต้องถอนตัวเพราะนายกรัฐมนตรีใหม่เอี่ยมถอดด้ามก็คงไม่อยากให้ตัวเองมีอันเป็นไปเหมือนนายกรัฐมนตรีที่ถูกถอดถอนไปก่อนหน้านี้

จึงส่งลูกสาว “ซาบีดา ไทยเศรษฐ์” ให้เป็นรัฐมนตรีแทน

ก็นี่แหละลีลาของนักการเมืองไทยถ้าไม่ถึงที่สุดก็ไม่ยอมรับสภาพความเป็นจริงของตัวเอง พยายามดิ้นทุกทางแต่เมื่อไปไม่ไหวจึงยอมจำนน

ก็เป็นอันว่ารัฐบาลได้รัฐมนตรีครบถ้วนตามโควตาหลังจากการตรวจสอบคุณสมบัติครบทุกคนแล้วที่มีข่าวหลายคนมีปัญหาก็น่าจะเคลียร์ได้หมดแล้ว

แม้จะพันกับคดีที่ศาล ป.ป.ช.แต่ยังไม่ถึงที่สุดก็รอดตัวไป

มาว่ากันถึงรัฐมนตรีที่หลุดจากเก้าอี้และไม่ได้รับการแต่งตั้งอย่าง “สุทิน คลังแสง” ต้องพ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมรูปธรรมหน่อยก็เพราะผลงานไม่ออกไม่มีความรู้ความสามารถที่ชัดเจน

...

ในตำแหน่งสำคัญนี้

อีกทั้งรัฐบาลใหม่ต้องการบุคคลที่มีศักยภาพและความสามารถรวมถึงมีบารมีที่จะทำให้รัฐบาลมีความมั่นคง

ระหว่าง “สุทิน คลังแสง” กับ “ภูมิธรรม เวชยชัย” นั้น

มีความต่างกันค่อนข้างมากจึงจำเป็นต้องเปลี่ยนตัวและให้คุมตำรวจด้วยเพราะไม่มีบุคคลที่เหมาะสม

นายกรัฐมนตรีดูแลเรื่องเศรษฐกิจอย่างเดียวก็หนักหนาแล้ว

อีกคนที่น่าพูดถึงคือ “ชลน่าน ศรีแก้ว” อดีตหัวหน้าพรรค “เพื่อไทย” ที่ถูกถอดจากตำแหน่งรัฐมนตรีสาธารณสุขจากรัฐบาลที่ผ่านมา

ก็คงเพราะไม่ถูกใจนายกรัฐมนตรีสมัยนั้น แม้จะทำงานให้พรรคเพื่อไทยอย่างเต็มที่ในช่วงการจัดตั้งรัฐบาล

เดิมที “เพื่อไทย” ได้วางตัวให้เป็นประธานสภาฯ แต่เนื่องจากเกิดอุบัติเหตุระหว่างจัดตั้งรัฐบาลจึงให้ “วันมูหะมัดนอร์ มะทา” จากพรรคประชาชาติในฐานะคนกลาง

และหวังว่าน่าจะอยู่ในตำแหน่งสักระยะแล้วลุกจากเก้าอี้ปรากฏว่าไม่เป็นอย่างนั้น เพราะก้นติดหนึบทำท่าจะไม่ยอมลุกเอาง่ายๆ

“ชลน่าน” ก็เลยต้องรอแบบไร้ความหวัง

แต่ว่ากันว่าใกล้ๆสภาฯครบเทอม 4 ปี ประธานสภาฯคนปัจจุบัน

อาจจะถูกแซะแล้วให้ “ชลน่าน” ขึ้นมาเป็นแทนก็มีความเป็นไปได้!

"สายล่อฟ้า"

คลิกอ่านคอลัมน์ “กล้าได้กล้าเสีย” เพิ่มเติม