“นายกฯอิ๊งค์” ปิดจ๊อบ ครม.ใหม่ เผยรายชื่อ รมต.นิ่งหมดแล้ว ไม่มีกระเพื่อมคาดนำขึ้นทูลเกล้าฯได้ภายในสัปดาห์นี้ ไม่กังวลจะถูกร้องเรียนตามหลัง “ภูมิธรรม” ยันกฤษฎีกาชุดใหญ่การันตีไม่มีปัญหา “ชูศักดิ์” โต้ข่าว 11 รมต.มีคดีติดตัว ยันแค่ถูกร้องเรียนต่อ ป.ป.ช.หรือศาล ยังไม่ได้ข้อยุติสิ้นสุด โอดการเมืองไทยโยงปมจริยธรรมพาประเทศติดหล่มเดินหน้าไม่ได้ “แพทองธาร” ร่วมวงประชุม สส.เพื่อไทย ขันนอต สส.เพิ่มสปีดเหยียบคันเร่งปั่นผลงาน “สรวงศ์” สวนกลับ “อภิสิทธิ์” ก้าวไม่ข้าม “ทักษิณ” รอวัดใจเสียงโหวตค่าย ปชป.ในสภาฯ “วิสุทธิ์” โอ่เสียงทะลุ 320 คะแนน หนุนงบฯปี 68 ผ่านฉลุย “ปชน.” จัดทีม สส.ขย่มจัดงบฯสะเปะสะปะ ชำแหละเรียงมาตรา จองกฐินถล่มดิจิทัลวอลเล็ต-ซอฟต์พาวเวอร์-งบฯกลาโหม
คณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ภายใต้การนำของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ใกล้คลอด นายกฯเผยโผ ครม.ทุกอย่างนิ่งหมดแล้ว และเตรียมเข้าสู่กระบวนการนำขึ้นทูลเกล้าฯภายในสัปดาห์นี้
นายกฯชี้โผ ครม.นิ่งสัปดาห์นี้ทูลเกล้าฯ
เมื่อเวลา 11.40 น. วันที่ 2 ก.ย. ที่อาคารชินวัตร 3 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ความคืบหน้าโผคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า โผ ครม.เรียบร้อยแล้ว เมื่อถามว่าสามารถนำขึ้นทูลเกล้าฯได้เลยหรือไม่ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ขอไปคุยกับ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ว่าขั้นตอนจะเป็นอย่างไร เพราะตนไม่เคยทำ แต่โผทุกอย่างนิ่งหมดแล้ว เมื่อถามว่าจะสามารถนำขึ้นทูลเกล้าฯได้เมื่อไหร่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า พยายามจะทำให้เร็วที่สุด
เมื่อถามย้ำว่า จะสามารถนำขึ้นทูลเกล้าฯได้ภายในสัปดาห์นี้หรือไม่ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า น่าจะได้ เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวบางรายชื่ออาจมีปัญหาเรื่องคุณสมบัติ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า เราส่งตรวจสอบตามระบบ เมื่อถามย้ำว่าคำว่าเรียบร้อย นายกฯได้วางตำแหน่งทั้งหมดใช่หรือไม่ น.ส. แพทองธาร กล่าวว่า “ใช่ค่ะ และไม่น่ามีอะไรกระเพื่อมแล้ว” เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่ว่าจะมีการร้องเรียนมาภายหลัง น.ส.แพทองธารกล่าวว่า “ไม่ซี” (ไม่กังวล)
...
“ทักษิณ” เข้าตึกชินฯ พท.หารือ สส.คึกคัก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกัน นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เดินทางเข้ามาที่อาคารชินวัตร 3 ตั้งแต่เวลา 11.20 น. ขณะที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯเดินทางเข้ามาเวลา 11.40 น. จากนั้นมีแกนนำและ สส.พรรคเพื่อไทยทยอยเดินทางเข้าอาคารชินวัตรอย่างต่อเนื่อง กระทั่งเวลา 15.00 น. มีการประชุม สส.พรรคเพื่อไทย มีนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธาน สส.พรรคเพื่อไทย เป็นประธานการประชุม โดยในที่ประชุมได้พูดคุยถึงการหาเสียงเลือกตั้งซ่อม สส.พิษณุโลก เขต 1 และมีการกำชับสมาชิกพรรคให้ร่วมประชุมสภาฯเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบฯ ปี 68 วันที่ 3-5 ก.ย.
“อิ๊งค์” ปลุก สส.เหยียบคันเร่งปั่นผลงาน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.แพทองธารที่ร่วมประชุมด้วย ได้กล่าวกับ สส.ว่า สส.ท่านใดที่มีข้อเสนออะไรที่ประชาชนจะได้ประโยชน์โดยเร็วขอให้เสนอมา เพราะตอนนี้รัฐบาลเตรียมการทำงานหลังจากแถลงนโยบาย เราพร้อมเหยียบคันเร่งเพื่อให้ผลงานออกมาให้เร็วที่สุด และต้องขอบคุณนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ ที่ได้วางรากฐานทำงานหนักมาก่อนหน้านี้ ทำให้ดอกผลมาออกผลในช่วงนี้ แต่จะรอดอกผลที่วางไว้ก่อนอย่างเดียวไม่ได้ เราต้องเหยียบคันเร่งเพิ่ม ให้ผลงานไปถึงประชาชนเร็วๆ เพื่อให้ประชาชนสัมผัสนโยบายได้อย่างอย่างชัดเจน
“อ้วน” แจงกฤษฎีกาดูแล้วไม่มีปัญหา
ที่กระทรวงพาณิชย์ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกฯ ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการจัดตั้งรัฐบาลว่า ขณะนี้ใกล้แล้วเสร็จ คาดว่าไม่เกิน 15 ก.ย. น่าจะเข้าปฏิบัติหน้าที่ได้ เนื่องจากทุกขั้นตอนจะดำเนินการให้แล้วเสร็จทุกกระบวนการ ไม่ว่าการนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ รวมถึงเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับตำแหน่ง และการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ส่วนการตรวจสอบคุณสมบัติขณะนี้รายชื่อว่าที่รัฐมนตรีถูกส่งกลับมายังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ไม่น่าจะมีปัญหา เพราะคณะกรรมการกฤษฎีกาชุดใหญ่ได้ตรวจสอบทั้งหมดแล้ว รายละเอียดทั้งหมดถือว่าเป็นสิ่งที่น่าพอใจแล้ว แต่อยากให้รอดูผลอีกทีเพราะวันนี้ถือว่ายังไม่สะเด็ดน้ำ แต่โดยรวมเท่าที่ทราบไม่มีปัญหา แต่จะชัดเจนที่สุด หลังมีการโปรดเกล้าฯรายชื่อลงมา เมื่อถามว่าผลการตรวจสอบจะไม่มีการเปลี่ยนตัวใช่หรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ขอให้รอดูผลอีกที แต่จากที่ทราบเห็นว่าไม่น่าจะมีปัญหา เมื่อถามว่าจะทันในวันที่ 15 ก.ย. หรือไม่ นายภูมิธรรมตอบว่า “จะพยายามครับ”
“ชูศักดิ์” ป้อง 11 รมต.คดียังไม่สิ้นสุด
นายชูศักดิ์ ศิรินิล สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการตรวจสอบคุณสมบัติรัฐมนตรีใหม่ว่า คณะทำงานที่รับผิดชอบได้ส่งเรื่องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาตรวจสอบว่าผู้ใดถูกร้อง โดนร้องเรื่องใดขั้นตอนไปถึงไหน เรื่องนี้เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แถลงไปแล้ว และส่งกลับมายังคณะทำงาน เพื่อพิจารณานำรายชื่อโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีต่อไป สิ่งที่วิตกกังวลกันทั้งความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ จริยธรรม เรื่องเหล่านี้จะต้องมีคำวินิจฉัยชี้ขาด หรือได้รับการชี้ขาดจาก ป.ป.ช. แต่ขณะนี้ยังไม่ถึงขั้นนั้นยังไม่สิ้นสุด ยังไม่ได้ข้อยุติ ที่ผ่านมาใครไปร้อง ป.ป.ช.รับเรื่อง แต่จะผิดหรือไม่เป็นอีกเรื่อง ถ้าใครถูกร้องแล้วไม่ได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรี ทำไปทำมาจะไม่ได้รับการแต่งตั้งทั้งหมด เช่น ร้องไป 20 คน ถ้าคิดเช่นนั้น จะไม่มีใครได้รับแต่งตั้งเลย การแต่งตั้งรัฐมนตรีเป็นคนละเรื่องกับกรณีนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายก รัฐมนตรี กรณีแต่งตั้งรัฐมนตรียังไม่มีใครถูกชี้มูล
ห่วงประเทศติดหล่มปมจริยธรรม
“กรณีที่มีข่าว 11 รัฐมนตรีมีคำร้องอยู่ใน ป.ป.ช.หรือศาลนั้น ไม่ทราบว่ามีจุดประสงค์อะไร การเมืองไทยเป็นแบบนี้ พอเป็นเรื่องจริยธรรม เป็นเรื่องที่ร้องยังไม่จบ ท้ายที่สุดจะติดหล่มประเทศเดินไม่ได้ ตราบใดที่ยังไม่มีคำวินิจฉัย คำพิพากษาว่าผิด ต้องสันนิษฐานไว้ก่อนว่าเขาบริสุทธิ์ มิเช่นนั้นประเทศเดินไม่ได้” นายชูศักดิ์กล่าว
“ก่อแก้ว” วอนทหารเก่าเลิกจมอดีต
นายก่อแก้ว พิกุลทอง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคพท.กล่าวว่า เห็นอดีตนายพลบางคนออกมาแสดงความเห็น ให้ทหารลุกขึ้นต่อต้านนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รมว.พาณิชย์ ที่จะเป็น รมว.กลาโหม โดยอ้างเหตุผลถึงอดีตของนายภูมิธรรม ที่เคยร่วมต่อสู้ทางการเมืองในยุคหลังเหตุการณ์ ปี 2519 เข้าป่าถูกกล่าวหาว่าเป็น “คอมมิวนิสต์” ทุกคนล้วนมีอดีต ต่างไม่สามารถย้อนกลับไปลบล้างได้ นายภูมิธรรมเคยเข้าป่าหนีตายจากเผด็จการทหาร ก็เหมือนกับนายทหารและข้าราชการผู้ปรารถนาดีต่อประเทศหลายๆคน ที่ใฝ่หาอยากเห็นสังคมที่เป็นธรรม ขอเรียกร้องให้กลับมาอยู่กับปัจจุบันเสียที ทุกวันนี้ที่ประเทศพัฒนาต่อได้ยากเพราะมัวแต่ยึดติดกับอดีต ความคิดเก่าๆหลงยุค ไม่ได้เรียกร้องให้ทุกคนลืมอดีตแต่ช่วยวางไว้ข้างหลัง มองเป็นบทเรียนกันการผิดพลาด เลิกความคิดส่งต่อความขัดแย้งให้ปัจจุบันและอนาคต มุ่งเดินต่อไปข้างหน้า สร้างประเทศและสังคมที่ดีกว่าให้กับคนรุ่นลูกรุ่นหลาน
เผยโฉมหน้ารัฐมนตรี “ครม.อิ๊งค์”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บัญชีรายชื่อ ครม. “แพทองธาร” ที่นายกฯระบุว่านิ่งแล้วและเตรียมนำขึ้นทูลเกล้าฯ ประกอบด้วยรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย 16 คน ประกอบด้วย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และ รมว.คมนาคม นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกฯ นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกฯ นายพิชัย ชุณหวชิร รมว.คลัง นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.วัฒนธรรม น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์
ภท.ยกชุดเดิมมาทั้ง 8 ตำแหน่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคภูมิใจไทยยังยึดรัฐมนตรีชุดเดิมทั้ง 8 ตำแหน่ง ได้แก่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รมช.พาณิชย์ น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รมช.ศึกษาธิการ พรรครวมไทยสร้างชาติ 4 ตำแหน่ง ได้แก่ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯ และ รมว.พลังงาน นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม พล.อ.ณัฐพล นาคพานิชย์ รมช.กลาโหม นายสุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์
“ปชป.-ก๊วนธรรมนัส” จบตามดีล
พรรคประชาธิปัตย์ 2 ตำแหน่ง นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.ทรัพย์ฯ นายเดชอิศม์ ขาวทอง รมช.สาธารณสุข “กลุ่มธรรมนัส” 3 ตำแหน่ง ได้แก่ น.ส.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรฯ นายอิทธิ ศิริลัทธยากร รมช.เกษตรฯ นายอัครา พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯ พรรคชาติไทยพัฒนา 1 ตำแหน่ง คือ นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และพรรคประชาชาติ 1 ตำแหน่ง คือ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม
ภท.ชงนโยบายรื้อ ก.ม.พนัน-ผับบาร์
เมื่อเวลา 18.00 น. ที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) นายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรค ภท.พร้อมนายภราดร ปริศนานันทกุล รองหัวหน้าพรรค นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ รองหัวหน้าพรรค และคณะกรรมการบริหารพรรค แถลงมติที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคและสมาชิกพรรค ในการนำเสนอนโยบายพรรค ภท.ที่จะยื่นให้นายกฯและหัวหน้าพรรค พท.ที่เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลในวันที่ 3 ก.ย. เพื่อพิจารณาจัดทำเป็นนโยบายรัฐบาล แถลงต่อที่ประชุมรัฐสภา 6 ข้อ คือ 1.จัดระเบียบสังคม บำบัดทุกข์ บำรุงสุข ให้ประชาชนดำเนินชีวิตด้วยความปลอดภัย ไม่ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของผู้กระทำผิดกฎหมาย และป้องกันเยาวชนให้พ้นจากขบวนการค้ายาเสพติด ควบคุมการประกอบธุรกิจสถานบันเทิง และการพนันผิดกฎหมาย โดยปรับปรุงกฎหมายการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงและการพนันให้ทันสมัย สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันและอนาคต และบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยคำนึงถึงประโยชน์ของรัฐและประชาชน
เดินหน้าต่อกัญชาเพื่อการแพทย์
2.กระจายอำนาจการเงินการคลังสู่ท้องถิ่นเพิ่มขึ้น ให้ประชาชนมีส่วนร่วมตัดสินใจนำส่งภาษีรายได้ให้แก่ท้องถิ่น เพื่อการพัฒนา และสร้างจิตสำนึกการมีส่วนร่วมพัฒนาท้องถิ่นและดูแลชุมชนของประชาชน 3.จัดการศึกษาเท่าเทียม ทุกระดับชั้น โดยใช้เทคโนโลยีทันสมัยสนับสนุน ส่งเสริมการเรียนการสอน การสอบวัดผล การพัฒนาคุณภาพ ยกระดับมาตรฐานการศึกษา และลดค่าใช้จ่ายทางการศึกษาให้แก่ประชาชน และลดภาระของรัฐ 4.ขยายพื้นที่ และพัฒนาระบบประปา และน้ำดื่มสะอาดที่มีมาตรฐานสุขอนามัย ทั้งเพื่อการบริโภคและอุปโภค อย่างทั่วถึง และลดค่าใช้จ่ายจัดซื้อน้ำดื่ม ในการดำเนินชีวิตของประชาชน 5.สนับสนุนให้ประชาชน มีระบบโซลาร์เซลล์ ผลิตกระแสไฟฟ้าใช้ในครัวเรือน และมีรายได้จากการจำหน่ายกระแสไฟฟ้าที่ผลิตเกินกว่าความต้องการใช้ในครัวเรือน คืนให้รัฐ 6.ส่งเสริมการวิจัย พัฒนา ผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทย รวมถึงกัญชาเพื่อการแพทย์ สุขภาพ สร้างมูลค่าในเชิงเศรษฐกิจและควบคุมผลกระทบทางสังคม โดยการตราเป็น พ.ร.บ.และมีมาตรการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด
พท.หวด “มาร์ค” ก้าวให้ข้าม “ทักษิณ”
นายสรวงศ์ เทียนทอง สส.สระแก้ว ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีและอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ระบุรัฐบาลเพื่อไทยก้าวไม่พ้นครอบครัวชินวัตรว่า คนที่พูดเองต้องก้าวให้ข้ามทักษิณก่อน ทุกสิ่งทุกอย่างปรากฏมาแล้วว่า เราทำตามระเบียบข้อบังคับพรรค ตามมติพรรคกรรมการบริหารพรรค ไม่มีใครมาครอบงำพรรคได้ สิ่งที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ตอนลงพื้นที่ จ.สุโขทัย บางข่าวที่ไม่ได้สำคัญ ขออย่าไปตีข่าว ขอให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้
รอวัดใจเสียงโหวต ปชป.ในสภาฯ
นายสรวงศ์กล่าวอีกว่า เรื่องเสียงโหวตพรรคประชาธิปัตย์ เรายึดมั่นตามคำที่เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์บอกมาคือ มีการถกเถียงกันในพรรค แต่เมื่อมีมติพรรคแล้ว ทุกคนต้องปฏิบัติตามมติพรรค เมื่อถามว่าที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์ค้านโครงการดิจิทัลวอลเล็ตมาตลอด แต่การมาร่วมรัฐบาลจะทำให้พรรคประชาธิปัตย์เสียจุดยืนหรือไม่ นายสรวงศ์ตอบว่า เรื่องนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลง ตอนนี้มีรัฐบาลใหม่แล้ว ผู้นำรัฐบาลคนใหม่ ครม.ชุดใหม่ อาจมีการเปลี่ยนแปลงเรื่องวิธีการต่างๆ ต้องรอดูว่า เราทำตามที่หลายฝ่ายทักท้วง และเสนอแนะมา อยากให้ติดตามหลังจากที่มี ครม.ชุดใหม่ และแถลงนโยบายต่อสภาฯแล้ว วิธีการต่างๆของระบบดิจิทัลวอลเล็ตจะเป็นอย่างไร
โวเสียงทะลุ 320 หนุนงบฯปี 68
นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 วาระ 2 และ 3 ในวันที่ 3-5 ก.ย.ว่า น่าจะผ่านได้สบาย เสียงสนับสนุนไม่น่าจะต่ำกว่า 320 เสียง ใครจะร่วมรัฐบาลบ้าง ให้ดูวันพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ หรือส่วนไหนที่มาดูได้จากการโหวตครั้งนี้ เพราะเป็นการพิจารณารายมาตรา ส่วนที่ฝ่ายค้านจะถล่มนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตในการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบฯปี 68 นั้น ไม่กังวล มั่นใจทุกประเด็นมีคำตอบ รัฐบาลไม่ได้เตรียมการรับมืออะไร เหตุการณ์จะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เพราะทุกคนกังวล เนื่องจากงบประมาณปี 2567 ล่าช้าแล้ว งบฯปี 2568 ทุกคนไม่อยากให้ช้าลง
158 สส.จ้องอภิปรายชำแหละ
นายวิสุทธิ์ให้สัมภาษณ์อีกครั้งภายหลังการ ประชุมวิปรัฐบาลว่า ในการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบฯปี 2568 วงเงิน 3,752,700 ล้านบาท วาระ 2 และ 3 กำหนดเวลาคร่าวๆแล้ว วันที่ 3-4 ก.ย.เริ่มประชุมเวลา 09.00-22.00 น. ส่วนวันที่ 5 ก.ย.เริ่มเวลา 09.00 น. และคาดว่าจะได้ลงมติให้ความเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.งบฯปี 68 ประมาณเวลา 21.00 น.เบื้องต้นทราบจากข้อมูลของคณะ กมธ.วิสามัญพิจารณางบฯปี 68 มี สส.ขอแปรญัตติ 158 คน ทั้ง สส.ฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน ตามหลักปฏิบัติคนที่จะอภิปรายได้คือคนที่เสนอคำแปรญัตติในแต่ละมาตรา ส่วนผู้ที่ไม่ได้เสนอคำแปรญัตติจะอภิปรายได้เฉพาะมาตราที่มีการแก้ไข กมธ.วิสามัญฯจะเป็นผู้ชี้แจงต่อประเด็นข้อซักถามของ สส.
ปชน.จ่อฟัดซอฟต์พาวเวอร์–วอลเล็ต
เมื่อเวลา 13.00 น. ที่รัฐสภา น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าคณะทำงานด้านเศรษฐกิจของพรรคประชาชน (ปชน.) เปิดเผยถึง การอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบฯปี 68 วันที่ 3-5 ก.ย.ว่า หัวข้อใหญ่ๆในการอภิปรายหนีไม่พ้นประเด็นดิจิทัล วอลเล็ต ซอฟต์พาวเวอร์ และงบกระทรวงกลาโหม รวมทั้งความท้าทายใหม่ที่จนแล้วจนรอดยังไม่ปรากฏ การจัดงบฯครั้งนี้สะเปะสะปะ ต้องไล่ไปตามมาตรา และแต่ละมาตราจะมี สส.อภิปรายในโครงการที่เกี่ยวข้อง สส.พรรค ปชน.แต่ละคนจะได้เวลาอภิปรายคนละ 7 นาที คาดว่าตลอดทั้ง 3 วัน จะมีผู้อภิปรายเต็มที่ และจะโหวตในวาระ 3 ว่าจะให้ความเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบร่างงบฯทั้งฉบับ
“ไหม” จวกปรับลดงบฯไม่สมเหตุผล
น.ส.ศิริกัญญากล่าวอีกว่า ค่ำวันที่ 5 ก.ย. แนวทางการโหวตของ สส. 143 คนของ ปชน. เป็นแนวทางเดิมที่เคยปฏิบัติมา คือไม่ให้ความเห็นชอบ เนื่องจากในรายละเอียดนั้นยังมีการปรับลดที่ไม่สมเหตุสมผล อะไรที่ควรลดยังไม่มีการปรับลด และที่สำคัญจะต้องใช้หนี้ธนาคารของรัฐ ทั้ง ธอส. รวมถึง ธนาคารออมสิน และยังมีการโอนให้โครงการดิจิทัลวอลเล็ตจำนวน 35,000 ล้านบาท รวมกับงบเพิ่มเติมปี 67 วงเงิน 1.22 แสนล้านบาท ก็ได้เพียง 180,000 กว่าล้านบาท ยังไม่เพียงพอที่จะแจกเงิน 10,000 บาท ให้ครบ 45 ล้านคนตามที่รัฐบาลตั้งเป้าหมายไว้
กมธ.งบฯวุฒิสภาตั้งข้อสังเกตงบฯปี 68
วันเดียวกัน ที่รัฐสภา คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาร่าง พ.ร.บ.งบฯปี 68 วุฒิสภา แถลงถึงผลการศึกษาของ กมธ.ที่เตรียมเสนอต่อที่ประชุมวุฒิสภา ในการจะพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบฯ ปี 68 หลังสภาฯลงมติเห็นชอบแล้ว โดย น.ส.มาเรีย เผ่าประทาน สว. ฐานะโฆษก กมธ. แถลงถึงผลการศึกษาและข้อสังเกตว่า ในภาพรวมของการจัดสรรงบประมาณพบว่ายังไม่ครอบคลุมการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า เช่น อุทกภัย ซึ่ง กมธ.มองว่ารัฐบาลควรจัดหารายได้เพิ่มเพื่อชดเชยการขาดดุล ส่วนของงบกลางที่พบการจัดสรรไว้สำหรับโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ควรมีเป้าหมายชัดเจนและโปร่งใส ทำในช่วงเวลาเหมาะสม เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพตามที่มุ่งหวัง ส่วนการเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลของข้าราชการและลูกจ้างของรัฐ ควรควบคุมค่าใช้จ่ายและการตรวจสอบการเบิกจ่ายให้ถูกต้อง
ติงเงินดิจิทัลต้องมีเป้าหมายชัดเจน
นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สว. ฐานะรองประธาน กมธ.กล่าวว่า สำหรับงบฯที่ใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต จากการชี้แจงของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อ กมธ. ได้รับคำตอบว่าขึ้นอยู่กับนโยบายของรัฐบาลของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯจะดำเนินการอย่างไร ต้องจับตาการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภาด้วย นอกจากนี้ข้อสังเกตถึงการปราบปรามและแก้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่เกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงาน เช่น กระทรวงดีอี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ กสทช. รัฐบาลควรวางนโยบายไปในทิศทางเดียวกันและบูรณาการร่วมกันของหลายหน่วยงานเพื่อแก้ปัญหาให้ประชาชนที่เดือดร้อนได้แท้จริง
สว.ตีตกญัตติสอบจริยธรรมตุลาการฯ
เมื่อเวลา 10.00 น. ที่รัฐสภา มีการประชุมวุฒิสภา มี พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม ก่อนเข้าสู่ระเบียบวาระ น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สว. เสนอญัตติด่วนตรวจสอบจริยธรรมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ หลังจากที่พบการวิจารณ์ที่ไม่เหมาะสม ส่อขัดต่อประมวลจริยธรรมที่ใช้บังคับ แต่มี สว.สส.บางส่วนเห็นต่าง เนื่องจากมองว่าไม่ใช่เรื่องด่วน หากเทียบกับการเสนอญัตติเพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วม ไม่มีความจำเป็นเพราะการตั้งญัตติดังกล่าวกระทบบุคคลภายนอกรัฐสภา โดย พล.อ.เกรียงไกรวินิจฉัยให้ น.ส.นันทนาเสนอญัตติด่วนได้ แต่ต้องใช้มติที่ประชุมวุฒิสภาตัดสินจะพิจารณาญัตติด่วนดังกล่าวหรือไม่ ผลการลงคะแนนที่ประชุมไม่เห็นด้วยกับการพิจารณาญัตติด่วน ดังกล่าวด้วยคะแนน 118 ต่อ 37 งดออกเสียง 12
กลุ่มพันธุ์ใหม่ยุโละอำนาจศาล รธน.
น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สว.กลุ่มพันธุ์ใหม่ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีอดีต สว.ตั้งข้อสังเกตว่าที่รัฐมนตรี 11 คน อาจมีปัญหาเรื่องคุณสมบัติว่า การตรวจสอบคุณสมบัติรัฐมนตรีต้องตรวจสอบเข้มข้น ตั้งพลาดคนเดียว ผู้แต่งตั้งอาจต้องพ้นตำแหน่ง ถือเป็นปัญหาเชิงโครงสร้าง องค์กรอิสระมีอำนาจกว้างขวางล้นเกินฝ่ายบริหาร ปลดผู้นำสูงสุดรัฐบาลได้ และล้นเกินมาถึงฝ่ายนิติบัญญัติ ยุบพรรคการเมืองได้ ทางแก้คือยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ จำกัดขอบเขตองค์กรอิสระ ไม่ให้มีอำนาจล้นเกิน ยึดหลักคานอำนาจและถ่วงดุลอำนาจกันและกัน โทษผิดจริยธรรมร้ายแรงที่ตัดสิทธิตลอดชีวิตตามรัฐธรรมนูญ
ค้านขุดอดีตมาตัดสินผิดจริยธรรม
“สงสัยว่าได้สัดส่วนกับความผิดที่ถูกตีความว่าเป็นจริยธรรมร้ายแรงหรือไม่ แม้อยากได้คนมีประวัติขาวสะอาดเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ควบคู่ไปกับความรู้ ความสามารถ แต่ไม่ควรตรวจสอบภูมิหลัง แล้วนำมาเป็นดัชนีชี้วัดตัวเดียว ถ้าเป็นเช่นนี้คงต้องฟูมฟักกันตั้งแต่เกิด คุณสมบัติไม่ด่างพร้อยเสียหาย ไม่ควรย้อนพฤติกรรมในอดีตมาชี้ มีพฤติกรรมผิดจริยธรรมร้ายแรงควรปรับปรุงให้เหมาะสม นักการเมืองหลายคนถูกตัดสิทธิทางการเมืองตลอดชีวิตด้วยเหตุการณ์ที่ทำในอดีต ไม่สัมพันธ์สิ่งที่เป็นการกระทำในปัจจุบัน ไม่เป็นธรรมกับผู้ได้รับโทษ” น.ส.นันทนากล่าว
“ทวี” ยันกรมคุกแจงปม “ทักษิณ” แล้ว
ที่กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงกรณีที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย (สร.) ระบุได้เข้าเยี่ยมนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ขณะนอน รักษาตัวบนชั้น 14 รพ.ตำรวจถึง 2 ครั้ง และเตรียมออกมาเปิดเผยข้อมูลอาการป่วยของนายทักษิณว่า กรมราชทัณฑ์เปิดกว้างพร้อมรับฟังข้อมูลอยู่แล้ว กรมราชทัณฑ์ได้ไปชี้แจงกับ ป.ป.ช.แล้ว ยธ.มีหน่วยงานที่รับผิดชอบอยู่ถ้ามีข้อมูลอะไรขอให้ส่งมา หรืออาจส่งไปที่สำนักงาน ป.ป.ช.ได้ หรือ ป.ป.ช.อาจซักถามจาก พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์เองได้ ส่วนที่บอกว่า ป.ป.ช.ยังไม่ได้รับไฟล์ภาพวงจรปิดบนชั้น 14 นั้นต้องไปถาม ป.ป.ช.กับ รพ.ตำรวจ เพราะไม่ใช่หน่วยงานของ ยธ. แม้ผู้ต้องขังอยู่ในความดูแลของกรมราชทัณฑ์ ไม่สามารถไปติดวงจรปิดในหน่วยงานราชการอื่นได้ ผู้สื่อข่าวถามว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์บอกว่า เรื่องดังกล่าวต้องมีคนติดคุก พ.ต.อ.ทวีไม่ตอบคำถาม เดินออกจากวงให้สัมภาษณ์ไปทันที
“พีมูฟ” สบช่องจี้ ปชป.สางป่าที่ทำกิน
เมื่อเวลา 11.00 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ตัวแทนกลุ่มขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม หรือพีมูฟ เข้ายื่นข้อเสนอให้พรรค ปชป.บริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติ “ดิน น้ำ ป่า” ผ่านนายนริศ ขำนุรักษ์ รองหัวหน้าพรรค ปชป.เพราะเห็นว่าเป็นภารกิจของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ที่พรรค ปชป.ได้โควตาในตำแหน่ง รมว.ทส. ประกอบด้วยการยกเลิกนโยบายทวงคืนผืนป่า การบุกรุกที่ดินของรัฐ และการจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน รวมถึงขอให้ยกเลิกมติ ครม.วันที่ 30 มิ.ย.2541 และทบทวนมติ ครม. วันที่ 26 พ.ย.2561 เรื่องมาตรการและแนวทางการแก้ไขปัญหาชุมชนในพื้นที่ป่าไม้ทุกประเภท ทบทวนแผนการเพิ่มพื้นที่ป่า 40% ที่บังคับให้ราษฎรต้องสูญเสียที่ดินตามนโยบาย และทบทวนกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่