“เสรีพิศุทธ์” โชว์หลักฐานแชตข้อความ ยัน เข้าพบ “ทักษิณ” จริงที่ชั้น 14 รพ.ตำรวจ ปูด ไม่เอาตระกูลวงษ์สุวรรณ ร่วมรัฐบาล ลั่น ตัดขาดสัมพันธ์แล้ว มอง รัฐบาลแพทองธาร อายุสั้นกว่ายุคเศรษฐา

วันที่ 29 สิงหาคม 2567 พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวภายหลังแถลงข่าวว่าพรรคเสรีรวมไทย ขอถอนตัวออกจากพรรคร่วมรัฐบาลตามมติของกรรมการบริหารพรรค 7 ต่อ 4 เมื่อวันที่ 27 สิงหาคมที่ผ่านมา ส่วนสาเหตุที่ตัดสินใจขอถอนตัว ยอมรับว่าน้อยใจที่ไม่ได้รับความสนใจ อาจเพราะพรรคเสรีรวมไทยมีแค่ 1 เสียง พรรคเพื่อไทยจึงไม่สนใจ แต่ก็เป็นเรื่องดีที่ไม่ได้ร่วมรัฐบาลกันเพราะจะได้ไม่ต้องอึดอัดใจในการวิพากษ์วิจารณ์นโยบายหลายอย่าง โดยเฉพาะดิจิทัลวอลเล็ตที่ถลุงเงินไปเป็นจำนวนมาก พร้อมกล่าวต่อไปว่า คนที่เป็นนายกรัฐมนตรีตัวจริงก็ไม่ใช่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แต่เป็นนายทักษิณ ชินวัตร ที่คอยควบคุมบัญชาการทุกอย่าง

...

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เผยด้วยว่า ตนเองไม่เคยมีหนี้บุญคุณกับนายทักษิณ ขณะที่นายทักษิณเคยพูดว่าติดหนี้ตน แต่ก็ไม่บอกว่าจะชดใช้หนี้อย่างไร สุดท้ายก็เฉย และเมื่อหลายปีก่อน นายทักษิณเคยให้คำมั่นสัญญากับตนว่าจะให้ดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) แต่ก็เงียบ ส่วนการจะแต่งตั้งใครเป็นรัฐมนตรี จะเอาใครก็ได้ที่ไม่ใช่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ซึ่งเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี แต่ก็ลืมตนเองทุกที อาจเป็นเพราะตนเป็นพรรคการเมืองที่มีเสียงเดียว พรรคอื่นอาจจะมาเพื่อหวังผล แต่ตนมาเพื่อทำงาน

พร้อมกันนี้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ยังได้นำข้อความในแอปพลิเคชันไลน์ที่มีการพูดคุยกับบุคคลหนึ่งที่คอยจัดคิวเข้าพบนายทักษิณที่โรงพยาบาลตำรวจ ชั้น 14 ขณะพักรักษาตัว เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันว่ามีการเข้าพบนายทักษิณจริง ภายหลังจากที่นายทักษิณ เคยปฏิเสธว่าไม่เป็นเรื่องจริง ซึ่งได้เข้าพบนายทักษิณถึง 2 ครั้ง

โดยครั้งแรกคือ 14 พฤศจิกายน 2566 และอีกครั้งในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2567 โดยทั้ง 2 ครั้งมีการพูดคุยเรื่องที่ นายทักษิณ จะไม่เอาตระกูลวงษ์สุวรรณ เข้าร่วมรัฐบาล ส่วนเรื่องอื่นเปิดเผยไม่ได้ ขอให้รอเป็นไฮไลต์ในครั้งต่อไป พร้อมย้ำว่าการเปิดหลักฐานและการแฉในครั้งนี้ถือเป็นการตัดความสัมพันธ์ หลังจากนี้หากมีการติดต่อมาเทียบเชิญให้เป็นรองนายกรัฐมนตรีก็จะไม่รับ

สำหรับหลักฐานในแชตไลน์ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ อธิบายรายละเอียด อาทิ วันที่ 7 มกราคม อีกฝ่ายระบุว่ามี SMS จาก “นายกฯ ปู” มา วันที่ 9 มกราคม มีการส่งไฟล์มาหัวข้อเขียนว่าหนังสือถอนร้องเรียน โดยเป็นการขอให้ถอนเรื่องร้องเรียน นายเศรษฐา ทวีสิน ก่อนที่ต่อมาวันที่ 22 มกราคม จะทวงถามว่า “ท่านเซ็นหนังสือส่ง ป.ป.ช. หรือยังครับ”

ในช่วงท้าย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวอีกว่า หลังจากนี้จะเดินหน้าทำงานในฐานะฝ่ายค้านอย่างเต็มที่ ซึ่งไม่จำเป็นจะเข้าร่วมกับพรรคใด ต่างคนต่างทำหน้าที่ของตัวเองไป ส่วนการคาดการณ์อนาคตของรัฐบาล น.ส.แพทองธาร หลังจากนี้ มองว่าอายุจะสั้นยิ่งกว่ารัฐบาลของนายเศรษฐา เพราะมีคนรอที่จะร้องเรียนอยู่เป็นจำนวนมาก ขณะที่เกมการเมืองหลังจากนี้ระหว่างนายทักษิณกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จะซัดกันนัวแน่นอน แต่ท้ายที่สุด พล.อ.ประวิตรจะสู้นายทักษิณไม่ได้ และยืนยันว่าไม่เคยพูดคุยกับนายชวน หลีกภัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ตามที่เป็นกระแสข่าวก่อนหน้านี้ว่าร่วมกันแฉคนที่พักรักษาตัวอยู่ที่ชั้น 14