"ชัยชนะ" ป้อง "3 อดีตหัวหน้าพรรคปชป." สอนมารยาทการเมือง "ก่อแก้ว" ย้อนแสบ "เพื่อไทย" หักหลังพรรคอื่น ไม่พูด ปัดตอบ "ชวน" กรีดคนหาประโยชน์จากพรรค

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 29 ส.ค. 2567 ที่รัฐสภา นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวตอบโต้ นายก่อแก้ว พิกุลทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ที่ระบุว่า พาดพิงอดีตหัวหน้าพรรค ปชป. 3 คนเป็นไม้แก่ดัดยาก ว่า นายก่อแก้วให้สัมภาษณ์สื่อตอนแรกก็พูดดี ที่ระบุว่าพรรคประชาธิปัตย์เป็นยุคผลัดใบ มีการทำงานบูรณาการรูปแบบใหม่ แต่พอมาพาดพิงบุคคลในพรรค ปชป. เป็นสิ่งไม่ถูกต้อง การจะบอกว่ามีมารยาทในการร่วมรัฐบาลกัน คือ เราต้องไม่วิจารณ์กัน เพราะทั้ง 3 คน เป็นคนที่พรรค ปชป. ให้ความเคารพ และทั้ง 3 คน ไม่ใช่ไม้แก่ แต่เป็นไม้บรรทัดเหล็ก ที่มีความเที่ยงตรงในการทำงาน จึงฝากบอกนายก่อแก้วว่าการจะมาวิพากษ์วิจารณ์ถึงบุคคลภายในพรรคการเมืองอื่น ต้องรู้จักมารยาทก่อน รวมถึงต้องศึกษาบุคคลเหล่านั้นให้ดีก่อน ก่อนที่จะมาวิพากษ์วิจารณ์

เมื่อถามว่าจะเป็นผลกระทบต่อการทำงานพรรคเพื่อไทยกับพรรคประชาธิปัตย์ในอนาคตหรือไม่ นายชัยชนะ กล่าวว่า ตนมองว่าไม่เป็นปัญหา แต่เมื่อเขาเทียบเชิญมา เราก็จะมีการประชุมวันนี้ ฉะนั้น การที่จะอยู่ด้วยกัน ต้องทำความเข้าใจกัน และต้องยอมรับพรรค ปชป. เรามีหลากหลายความเห็น เมื่อมีมติออกมาเช่นไร เราก็ยึดมติของพรรคเป็นหลัก และตนคิดว่าการทำงานร่วมกันในวันข้างหน้าไม่ยาก แต่วันนี้ต้องทำความเข้าใจกันในบางส่วนที่ยังไม่เข้าใจกัน ส่วนจะทำความเข้าใจกับคนที่เห็นต่างอย่างไรบ้าง นายชัยชนะ กล่าวว่า สิ่งที่พิสูจน์ได้ในอนาคต ที่สำคัญเหนือคำพูดคือ การกระทำ และบุคคลที่จะเห็นด้วยในการร่วมรัฐบาลก็จะไม่ค่อยออกมาพูดอะไรมาก เพราะประเทศต้องเดินหน้าไปด้วยปราศจากความขัดแย้ง ทุกฝ่ายเรียกร้องว่า ประเทศต้องหมดความขัดแย้ง ซึ่งหากเรายังยึดติด ยืนอยู่กับความขัดแย้งในอดีต ประเทศก็จะเดินหน้าไม่ได้

...

“ผมคิดว่าวันนี้อย่าพูดเรื่องสีเสื้อเลยว่าสีนั้นผสมกับสีนี้ สีนี้ผสมกับสีนั้น วันที่คุณผสมกันเองเรายังไม่พูด แต่วันนี้เมื่อประชาธิปัตย์ได้รับการเทียบเชิญ และจะมีการถามมติ กลับมาบอกว่าประชาธิปัตย์มีปัญหาและลืมอุดมการณ์หรือไม่ ก่อนที่พรรคเพื่อไทยจะร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์นั้น ก็ร่วมกับพรรคการเมืองหนึ่งเหมือนกัน จัดตั้งกับพรรคการเมืองหนึ่งเหมือนกันทำไมถึงไม่พูด วันที่เลือกตั้งเสร็จวันแรก แล้วร่วมกับพรรคการเมืองไหน แต่จัดตั้งรัฐบาลไม่สำเร็จหลังจากนั้นพรรคเพื่อไทยก็ร่วมกับพรรคการเมืองอื่น การจัดตั้งรัฐบาลไม่มีสูตรสำเร็จ เพราะต้องยอมรับว่าเมื่อผลการเลือกตั้งออกมาเช่นนั้น สูตรสำเร็จในการจัดตั้งรัฐบาลก็ไม่มี วันนี้ในฐานะที่ผมเป็นนักการเมืองรุ่นใหม่ ผมคิดว่าวันนี้เราต้องหันหน้าเข้าหากันและสร้างการเมืองแบบสร้างสรรค์ และเดินหน้าประเทศไทยที่มีความยั่งยืน” นายชัยชนะ กล่าว

เมื่อถามว่า การประชุมพรรคเพื่อหามติจะลุล่วงไปได้ดีหรือไม่ นายชัยชนะ กล่าวว่า ตนไม่สามารถตอบได้ ต้องดูว่ามีการซักถามประเด็นอะไรหรือไม่ เพราะพรรค ปชป. ทุกคนทราบดีว่า เราเป็นสถาบันไม่มีใครเป็นเจ้าของ มีหลากหลายความเห็น และความเห็นสุดท้ายก็ต้องจบด้วยการโหวตเป็นมติพรรค ย้อนกลับไปตอนร่วมรัฐบาลในปี 2562 ก็มี 2 ความเห็น สุดท้ายก็โหวตและเห็นว่าร่วมรัฐบาล

เมื่อถามย้ำว่า ตอนนี้มีการแบ่งเป็น 2 ขั้ว คือ 21 เสียงกับ 4 เสียง นายชัยชนะ กล่าวว่า อย่าไปมองว่าปชป. มี 21 เสียง เรามี 25 เสียง การโหวตในพรรคอาจจะเห็นไม่ตามกัน แต่เมื่อมติพรรคออกมาก็เห็นตรงกัน เช่น การโหวต น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ไปในทางเดียวกัน เราก็งดออกเสียงทั้งหมด ตนคิดว่าพรรค ปชป. จะกลับมาเป็นพรรคที่คนเชื่อมั่นได้ คือ เราต้องมีความสามัคคี ความเป็นเอกภาพในพรรคก่อน

เมื่อถามว่า นายชวน หลีกภัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ และอดีตหัวหน้าพรรค ปชป. ระบุว่ามีการแสวงหาผลประโยชน์ภายในพรรคหมายถึงใคร นายชัยชนะ กล่าวว่า ขอไม่ให้ความเห็นในประเด็นนี้ ต้องไปถามจากนายชวนเอง เพราะท่านเองก็เป็นผู้ใหญ่ในพรรค ส่วนวันนี้จะมีการถกเถียงจนนำไปสู่แรงกระเพื่อมรอบใหม่ในพรรคหรือไม่ นายชัยชนะ กล่าวว่า หากจบเร็วไม่ใช่ประชาธิปัตย์ วันนี้จะมองว่าเรามีความขัดแย้งกับพรรคเพื่อไทย นั่นเป็นการต่อสู้กันในอดีต แต่วันนี้สถานการณ์การต่อสู้เปลี่ยนไปแล้ว ตนคิดว่านับหนึ่งประเทศไทย เดินหน้าต่อไป แล้วประเทศก็จะแข็งแรงเข้มแข็ง แต่สมมติวันนี้รัฐบาลนี้ บริหารแล้วใน 6 เดือน แก้ปัญหาเศรษฐกิจไม่ได้ ปัญหาปากท้องของประชาชนยังไม่ดี สุดท้ายแล้วประชาชนก็ให้คำตอบอยู่แล้ว นักการเมืองทุกคนไม่มีใครนอนหลับวันนี้แล้วฝันว่า จะเป็นนั่นเป็นนี่ได้ สุดท้ายอยู่ในฉันทามติของประชาชน ว่าจะเลือกใครเข้ามาทำงาน ฉะนั้น คิดว่าผลงานในการทำงานรัฐบาลก็ต้องพิสูจน์ให้เห็นว่าเศรษฐกิจที่กำลังขาลงอยู่สามารถแก้ไขได้จริงหรือไม่ สิ่งที่เคยให้คำมั่นสัญญากับประชาชนไว้ สามารถแก้ไขได้หรือไม่ หากประชาธิปัตย์ร่วมรัฐบาลเราก็ต้องมีเงื่อนไขว่า ต้องทำอะไรในนโยบายของเราได้บ้าง และอย่างหนึ่งที่ต้องเสนออยู่แล้วคือ การแก้ปัญหาสินค้าการเกษตร การพัฒนาภาคใต้

เมื่อถามว่า จะมีการประชุมถึงวาระเก้าอี้ของรัฐมนตรีเลยหรือไม่ นายชัยชนะ กล่าวว่า ในระเบียบวาระการประชุมมีครบ หากมติการร่วมรัฐบาลผ่าน ก็จะเสนอพิจารณาบุคคลที่จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ส่วนกรณีที่ในโซเชียลมีการแซวว่า ปีที่แล้วนายชัยชนะยังไปที่โรงพยาบาลตำรวจ ชั้น 14 แต่รอบนี้มาร่วมรัฐบาลแล้ว นายชัยชนะ กล่าวว่า ตนคิดว่า คนละบทบาทหน้าที่กัน ตอนนั้นตนเป็นประธานคณะกรรมาธิการการตำรวจสภาฯ เมื่อสังคมสงสัยเคลือบแคลง ตนก็ต้องไปหาข้อเท็จจริง วันนี้หากตนอยู่ร่วมรัฐบาลแล้ว หากรัฐบาลทำอะไรไม่ถูกต้อง ตนก็ต้องชี้แนะหรือแนะนำ ไม่ใช่การอยู่ร่วมรัฐบาลแล้วจะตาบอด หูหนวก สิ่งไหนผิดก็ต้องผิด สิ่งไหนถูกก็ต้องถูก หากพรรคประชาธิปัตย์ผิด พรรคเพื่อไทยก็สามารถแนะนำได้ อย่ามองว่าปีที่แล้ว ตนไปทำงานอีกแบบแล้ววันนี้มาร่วมรัฐบาล หากเป็นเช่นนั้นพรรคการเมืองบางพรรคเคยทำรัฐประหาร ปฏิวัติ แล้ววันนี้มาร่วมรัฐบาล ในครั้งก่อนทำไมจึงไม่ถาม