“ชวน-บัญญัติ-จุรินทร์-สรรเพชญ” ถกเครียด ปมพรรคประชาธิปัตย์ถูกเทียบเชิญร่วมรัฐบาล หลังออกตัวค้านและเป็นเสียงข้างน้อยในพรรคไม่เห็นด้วย เหตุต้องการยึดอุดมการณ์ ขณะที่พรรคเตรียมประชุมหารือพรุ่งนี้

วันที่ 28 ส.ค. 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรวันนี้ ภายหลังนายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ได้มอบหนังสือเทียบเชิญพรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมรัฐบาล ต่อ นายเดชอิศม์ ขาวทอง ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ที่อาคารรัฐสภา ทางด้าน 4 สส.ปชป. เสียงข้างน้อยที่ไม่ต้องการร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย ประกอบด้วย นายชวน หลีกภัย, นายบัญญัติ บรรทัดฐาน นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ และนายสรรเพชญ บุญญามณี สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ได้นั่งจับกลุ่มหารือในที่ประชุม โดยทั้งหมดมีท่าทีเคร่งเครียด และมีช่วงหนึ่งที่นายชวน ได้หยิบโทรศัพท์ขึ้นมารับสาย

ขณะที่ก่อนหน้านั้น นายสรรเพชญ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กไปเมื่อวันที่ 24 ส.ค 2567 เพื่อแสดงจุดยืนต้องการเป็นฝ่ายค้าน ว่า ผมในฐานะ สส.ของพรรคประชาธิปัตย์โดยส่วนตัวผมแล้วผมไม่เห็นถึงความจำเป็นใด ๆ ที่พรรคจะต้องไปเข้าร่วมรัฐบาล เนื่องจากจำนวน สส.พรรคร่วมรัฐบาลปัจจุบันมีมากกว่า 314 เสียงแล้ว ถือเป็นรัฐบาลที่มีเสถียรภาพมากๆ และถือว่ามีจำนวน สส.มากกว่าชุดรัฐบาลที่ผ่านมาเสียด้วยซ้ำ ดังนั้น จำนวนเสียง สส.ฝ่ายค้าน แทบจะไม่สามารถทำให้รัฐบาลสะดุดล้มได้เลย เว้นแต่รัฐบาลจะสะดุดขาตัวเอง ด้วยเหตุผลที่กล่าวมานั้น ผมจึงอยากให้พรรคเดินหน้าทำหน้าที่เป็น “ฝ่ายค้านอย่างเข้มแข็ง” เหมือนกับที่ประชาธิปัตย์เคยพิสูจน์ผลงานมาแล้วในอดีต เพื่อรักษาผลประโยชน์สูงสุดของประเทศชาติและประชาชน สำคัญที่สุดคือการกอบกู้ศรัทธาของพรรคให้กลับคืนมา แต่ถ้าหาก สส.ส่วนใหญ่ของพรรค คิดว่าอุดมการณ์ของผมนั้น ขัดแย้งกับเสียงส่วนใหญ่ที่ได้อ้างกันอยู่ในขณะนี้ และไม่สามารถร่วมอุดมการณ์เดียวกันได้แล้ว ผมยินดีที่จะให้พรรคประชาธิปัตย์ขับออกจากพรรค โดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ เพราะผมไม่สามารถหักหลังพี่น้องชาวสงขลาที่ได้ให้โอกาสผม และผมยินดีที่จะตั้งใจทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้านอย่างมีคุณภาพ ตรวจสอบรัฐบาลอย่างเข้มข้น ในฐานะผู้แทนของราษฎร ตามอุดมการณ์ที่ผมยึดถือมาตลอดครับ สุดท้ายนี้ สิ่งที่ผมยึดถือและยึดมั่นเป็นสำคัญ ก็คือ คำขวัญของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ชาวประชาธิปัตย์ ยึดมั่นมาตลอด 77 ปี คือ สจฺจํ เว อมตา วาจา “คำสัตย์แล เป็นวาจาไม่ตาย”

...

อย่างไรก็ตาม ในวันพรุ่งนี้ (29 ส.ค.) ทางพรรคประชาธิปัตย์จะมีการนัดประชุมกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ในเวลา 17.00 น. จากนั้นจะมีการประชุมร่วม กก.บห. กับ สส. ในเวลา 17.30 น. โดยวาระการประชุมจะเป็นการพิจารณาการร่วมรัฐบาล และการเสนอชื่อบุคคลเพื่อดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งองค์ประชุมร่วม แบ่งเป็นกรรมการบริหารพรรค(กก.บห.) 38 คน  และสส. 25 คน โดยมีส่วนคนที่ซ้ำซ้อน ที่เป็นทั้งกก.บห. และสส.จำนวน 10 คน ดังนั้น องค์ประชุมทั้งหมด จึงมีจำนวน 53 คน ซึ่งสส. 25 เสียง พบว่ามีเสียงข้างมาก 21 เสียง พร้อมร่วมรัฐบาล  มีเพียง 4 เสียงที่ไม่เห็นด้วยในการร่วมรัฐบาล