“เท่าพิภพ” ชี้ สุราก้าวหน้า ลดปัญหาซุ้มยาดองเถื่อนได้ ย้ำ เป็นการลดเพดานกฎหมายให้ผู้ผลิตรายย่อยเข้าสู่ระบบง่ายขึ้น ควบคุมคุณภาพ ทำให้ประชาชนได้บริโภคของที่ปลอดภัย

วันที่ 27 สิงหาคม 2567 นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) กรุงเทพมหานคร พรรคประชาชน ให้ความเห็นต่อการตั้งประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไข พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต หรือกฎหมายสุราก้าวหน้า ที่หากผ่านกฎหมายแล้วอาจจะทำให้เกิดปัญหาซุ้มยาดองผิดกฎหมายเกิดขึ้นมากกว่าเดิมและรุนแรงกว่าเดิมหรือไม่ ว่า ตนขอยืนยันว่ากฎหมายสุราก้าวหน้าจะไม่ทำให้กรณีดังกล่าวมีความรุนแรงขึ้น แต่กลับจะให้ผลในทางตรงกันข้ามด้วยซ้ำ นั่นเพราะ พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต ที่จะถูกแก้ไขคือมาตรา 153 ว่าด้วยเรื่องของการผลิตสุรา ให้เงื่อนไขของการออกใบอนุญาต ไม่สามารถถูกจำกัดได้ด้วยกำลังการผลิต กำลังแรงม้า หรือเงื่อนไขใดๆ อันเป็นการตั้งกำแพง เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ผลิตรายย่อยสามารถเข้าสู่ตลาดได้ง่ายขึ้น

นายเท่าพิภพ เผยต่อไปว่า ที่สำคัญการแก้ไข พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิตนี้ ไม่ได้มีการแก้ไขการควบคุมคุณภาพของสุราเพื่อการค้า โดยยังให้คงแนวปฏิบัติเดิมตามมาตรา 158 ประกอบกับประกาศกรมสรรพสามิต เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขในการผลิตสุราและการนำสุราออกจากโรงงานอุตสาหกรรมเพื่อตรวจวิเคราะห์ในขั้นตอนการผลิตเช่นเดิม กล่าวคือ ก่อนนำออกจำหน่ายจะต้องมีการนำตัวอย่างของสุราที่ผลิตเสร็จแล้วส่งตรวจกับแล็บของกรมสรรพสามิตก่อน

“โดยสรุปแล้ว กฎหมายสุราก้าวหน้าคือการลดเพดานกฎหมายให้ผู้ผลิตที่เดิมลักลอบทำ ต้องเข้ามาอยู่ในการกำกับควบคุมของสรรพสามิต ซึ่งจะทำให้ประชาชนได้บริโภคของที่ปลอดภัยมากขึ้นด้วยซ้ำ”

...

สำหรับกรณีซุ้มยาดองมรณะตามที่ปรากฏเป็นข่าว นายเท่าพิภพ ระบุว่า จากข้อเท็จจริงตรวจพบว่ายาดองเถื่อนมีปริมาณเมทิลแอลกอฮอล์เกินค่ามาตรฐาน ซึ่งเมทิลแอลกอฮอล์นั้นกินไม่ได้เพราะเป็นพิษ และในการผลิตสุราเมทิลแอลกอฮอล์จะเกิดขึ้นในปริมาณน้อยมากและสลายไปโดยธรรมชาติในกระบวนการหมักบ่มอยู่แล้ว อีกทั้งกรณีนี้ยังพบว่าไม่ใช่โรงผลิตสุรา แต่เป็นการซื้อแอลกอฮอล์มาเจือจางจาก 95% เป็น 35% ซึ่งไม่ว่าจะเป็นเอทิลแอลกอฮอล์หรือเมทิลแอลกอฮอล์ ก็ผิดกฎหมายเรื่องการปรับแต่งสุราอยู่แล้ว

ในกรณีนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรต้องสืบไปต่อว่าสุราดังกล่าวถูกซื้อมาจากโรงผลิตที่ไหนหรือนำเข้าจากใคร เพราะปกติแล้วคนที่จะขายเอทิลแอลกอฮอล์ฟู้ดเกรด (Food grade) ได้มีแต่องค์การสุรา สังกัดกรมสรรพสามิตเองเท่านั้น หรือไม่เช่นนั้นก็มาจากแหล่งอื่น ซึ่งการป้องกันไม่ให้กรณีดังกล่าวเกิดขึ้นอีก เป็นเรื่องของการบังคับใช้กฎหมายของหน่วยงานที่จะต้องมีความรัดกุมขึ้นต่อไป

“ผมและพรรคประชาชนยืนยันว่า กฎหมายสุราก้าวหน้าจะไม่เป็นการเติมเชื้อเพลิงไปในกองไฟอย่างแน่นอน แต่กลับจะช่วยในการผลิตสุราในอนาคตให้ทุกคนสามารถมีใบอนุญาตได้ ทุกการผลิตสุราจะเข้าสู่ระบบ ได้รับการตรวจสอบตรวจคุณภาพให้ปลอดภัยกับพี่น้องประชาชนแน่นอน”