"ภูมิธรรม" รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ เผย ยังไม่ได้คุย ปชป.ร่วมรัฐบาล ชี้ เป็นสิทธินายกฯ เลือกทีม ครม.โยน พปชร.ไปคุยกันเองให้จบก่อน หลังทวงหนังสือกรอกประวัติให้ "บิ๊กป๊อด"

วันที่ 27 ส.ค. เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุม 501 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยมี 3 รัฐมนตรี ลาประชุม ครม. 1. น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รมว.อุตสาหกรรม 2. พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ 3. นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.สาธารณสุข

ขณะที่ นายภูมิธรรม ให้สัมภาษณ์ก่อนประชุม ถึงความชัดเจนมีการทาบทามพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เข้าร่วมรัฐบาลว่า ตนยังไม่ได้พูดคุยกับพรรค ปชป.เลย เมื่อถามถึงกรณีที่ นายเดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรค ปชป.ระบุว่า ได้รับการทาบทามแล้ว ซึ่งสวนทางกับนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรค ปชป.ที่ปฏิเสธเรื่องนี้ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ก็ต้องไปทำให้ชัดเจนก่อนว่าจะคุยหรือไม่คุย

เมื่อถามว่า ความชัดเจนต้องมาจากพรรคแกนนำรัฐบาลโดยตรง หรือให้พรรค ปชป.ดีลเอง นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่ทราบ ตอนนี้เราดำเนินการไปตามที่ตกลงกันทั้งกระบวนการ ซึ่งตนได้พูดผ่านสื่อไปแล้วว่า พรรคที่สนับสนุนเราให้ตัวแทนไปยื่นรายชื่อผู้ที่จะเสนอเป็นรมต.ต่อสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกระบวนการ ก็ไม่ได้มายื่นรายชื่อที่ตน ขณะนี้ก็เป็นไปตามสภาพของแต่ละคน เนื่องจากการจัดตั้งรัฐบาลมีปัญหาที่ต้องใส่ใจรายละเอียด เนื่องจากกรณีของนายพิชิต ชื่นบาน อดีต รมต.ประจำสำนักนายกฯ ก็เป็นประเด็น ตนก็บอกไปว่า อยากให้เผื่อรายชื่อไว้ เผื่อไม่รู้ใครเป็นอะไรก็เติมเข้าไป

...

นายภูมิธรรม กล่าวว่า สมมติขณะนี้หากเราเสนอรายชื่อพอดี แล้วพอตรวจไปตรวจมาหายไป 5 คน เราก็ต้องมาเริ่มกระบวนการใหม่ ซึ่งกระบวนการตอนนี้ใช้เวลามาก เมื่อก่อนใช้เวลาแค่ 3 วัน ก็จบแล้ว ตอนนี้ขอตรวจให้ละเอียดมากขึ้น ฉะนั้นเพื่อให้เกิดความรอบคอบใช้เวลาเร็วสุดประมาณ 1 สัปดาห์ หรืออาจจะสัปดาห์กว่า ก็จะพยายามทำให้จบ เพราะฉะนั้นเพื่อให้การจัดตั้งรัฐบาลได้รวดเร็ว ทางพรรคเพื่อไทย ส่งรายชื่อไปมากกว่าเดิม และเมื่อส่งรายชื่อไปแล้วเป็นคนไหนก็เป็นดุลพินิจของนายกรัฐมนตรี

เมื่อถามอีกว่า สัปดาห์หน้าจะแล้วเสร็จหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า อันนี้พูดไม่ได้ ต้องถาม สลค.และกฤษฎีกา เพราะถ้ายังไม่ส่งชื่อมา เราก็ดำเนินการตามขั้นตอนต่อไม่ได้

เมื่อถามย้ำว่า การเสนอรายชื่อมีพรรคใดเสร็จแล้วบ้าง นายภูมิธรรม กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยทยอยส่งชื่อ ซึ่งกระบวนการยังไม่ได้ตัดสินใจว่า จะเพิ่มหรือลดรายชื่อ มันเกิดขึ้นได้ทั้งนั้น

เมื่อถามว่า ทางพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ส่งหนังสือถึงนายกฯ เพื่อทวงตำแหน่งให้ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายภูมิธรรม กล่าวว่า ก็เห็นในข่าว ตนยังไม่ได้รับหนังสือฉบับนั้น แต่อาจจะมีการส่งไปทางไหนก็ได้ถือเป็นเรื่องของพรรค พปชร. ซึ่งมติกรรมการบริหารพรรคก็เป็นเรื่องของแต่ละพรรค ที่จะมีมติอย่างไร และส่งอย่างไรก็ได้ ถ้าชัดเจนเมื่อไหร่ก็ส่งมาให้เกิดความชัดเจน แต่ถ้ายังไม่ชัดเจนก็เป็นประเด็นที่ค้างคา

นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า การจัดตั้ง ครม. เป็นอำนาจของนายกฯ เพียงผู้เดียว ฉะนั้นนายกฯ จะต้องเลือกทีม ครม.เข้ามาร่วมงาน เพื่อให้เกิดความเหมาะสม และนายกฯ ต้องรับผิดชอบในฐานะเป็นนายกฯ จึงมีสิทธิที่จะเสนอหรือเลือกใครก็ได้ ที่คิดว่าเหมาะสม การเจรจาพูดคุยกันหากหลายเรื่องยังไม่ตกลงก็เปลี่ยนแปลงได้ การที่พรรคใดยกมือสนับสนุน ก็ไม่ได้หมายความว่า จะต้องมีตัวแทนเป็น ครม. เช่น พรรคไทยสร้างไทย ที่โหวตสนับสนุน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกฯ 6 เสียง หรือครั้งที่แล้ว พรรค ปชป.ยกมือสนับสนุน นายเศรษฐา ทวีสิน 19 เสียง ก็ไม่เห็นมีตัวแทนจากพรรค ปชป.เข้ามาเป็น ซึ่งไม่ใช่ประเด็น นายกฯ มีสิทธิ์เลือก หากรัฐมนตรีพอแล้วในระดับพรรคการเมืองที่มาร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล ก็เลือกบุคคลที่สำคัญๆ ซึ่งในอดีต มีทั้งนักกฎหมายและผู้ที่เชี่ยวชาญในแต่ละด้าน นายกฯ ก็สามารถเลือกคนเหล่านี้เข้ามาได้

เมื่อถามย้ำว่า พรรค พปชร.เสนอมา 4 รายชื่อ นายกฯ อาจจะเลือกมาแค่ 2 คน ได้หรือไม่ที่เหลือเป็นโควตาของพรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่ใช่ มันไม่มีโควตา เราไปเรียกกันเองตามความเคยชิน ซึ่งในทางปฏิบัติไม่ได้เป็นอย่างนั้น มันแล้วแต่ความเหมาะสม

เมื่อถามอีกว่า นายกฯ จำเป็นต้องทำหนังสือชี้แจงพรรค พปชร.หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เป็นเรื่องของพรรค พปชร. จะพิจารณาและนำเสนอใคร ไม่มีอะไรที่บอกว่า นายกฯ ต้องตอบ เพราะมันไม่ใช่ประเด็น ซึ่ง น.ส.แพทองธาร ยังไม่ได้เข้ามาทำงานตรงนี้ก็ต้องให้กระบวนการดำเนินไป ตนอยู่ตรงนี้ก็พยายามทำให้กระบวนการมันจบครบถ้วน มีบุคคลก็เสนอนายกฯ พิจารณา จะเป็นใครก็อยู่ในดุลพินิจของนายกฯ

เมื่อถามว่า หากนายกฯ ไม่ส่งเป็นหนังสือตอบกลับ จะยกหูโทรศัพท์พูดคุยได้หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ก็ทำได้ทุกอย่าง อยู่ในความเหมาะสมที่ควรจะทำอย่างไรและอยู่ที่ในกระบวนการตอนนั้นว่า จะทำอย่างไรจะแจ้งหรือไม่แจ้ง ทั้งนี้ ในส่วนของตนไม่ได้มีอำนาจในการที่จะมาจัด ครม. แค่ได้รับมอบหมายให้ประสานงาน เมื่อดำเนินการเสร็จแล้วก็ยกให้ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกฯ เป็นผู้ที่รู้เรื่องการจัดตั้ง ครม. ให้ช่วยไปประสานต่อ ซึ่งตอนนี้ท่านก็ไม่ได้มีตำแหน่งอะไร

นายภูมิธรรม กล่าวว่า ส่วนของตนก็ยังไม่ทราบเลย เพิ่งจะให้เขียนประวัติก็เขียนไป เมื่อเขียนแล้วจะเอาเข้าไปหรือไม่ก็แล้วแต่ ตนอยู่ที่พรรคเพื่อไทย

เมื่อถามย้ำว่า ผู้ที่ถูกเสนอรายชื่อเป็น ครม.เมื่อกรอกประวัติ แต่ก็ยังไม่ทราบใช่หรือไม่ว่าจะได้ตำแหน่งอะไร นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่ใช่ว่าได้ตำแหน่งอะไร ได้เป็นรัฐมนตรีหรือไม่ยังไม่ทราบ เพราะเป็นดุลยพินิจของนายกฯ