“ครม.อิ๊งค์” อึมครึม “พรหมินทร์” บอกพรรคร่วมฯยังส่งชื่อ รัฐมนตรีไม่ครบ ว่าที่ รมต.ทยอยส่งเอกสารกรอกประวัติส่ง สลค. “เดชอิศม์” ไปส่งเอกสารเรียบร้อย “สุทิน-เสริมศักดิ์” ยังมีลุ้น ถูกเรียกกรอกประวัติขึ้นบัญชีสำรอง รองรับเหตุว่าที่ รมต. ไม่ผ่านคุณสมบัติ สลค.ตีกลับเอกสารว่าที่ รมต.ค่าย ภท. แนบรูปผิดระเบียบ เซ็นเอกสารไม่ครบทุกหน้า พปชร.เดือด รมต.ในโควตาได้รับการประสานให้กรอกเอกสารแล้ว ตกค้างแค่ “พัชรวาท” คนเดียว “ไพบูลย์” ลงนามร่อนหนังสือ พปชร.ทวงนายกฯสั่ง สลค.ส่งเอกสารมาอย่าล่าช้า งัดมติพรรค 39 เสียง หนุนนั่งนายกฯ มั่นใจนายกฯไม่ผิดสัญญาประชาคมจับมือตั้งรัฐบาล “หมอมิ้ง” โบ้ยเลขาฯ ครม.ดูแลเรื่องเอกสาร “อ้วน” ยักไหล่ชี้อำนาจเลือก รมต.ขึ้นอยู่ที่นายกฯ “แพทองธาร-เศรษฐา-ทักษิณ” ตบเท้า เข้าตึกชินฯ 3 นายใหญ่บอกอย่าไปสนใจ คนนิรนามร้องครอบงำ พท.

บัญชีรายชื่อคณะรัฐมนตรีรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยังคงมีความเคลื่อนไหวปรับเปลี่ยน ยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจนจากหลายพรรคร่วมรัฐบาล ล่าสุดพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้ทำหนังสือทวงให้ส่งเอกสารกรอกประวัติรัฐมนตรี มาให้ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ที่ถูกเสนอชื่อเป็นรัฐมนตรีตามมติพรรค พปชร.

“พรหมินทร์” ชี้ชื่อ ครม.ยังไม่ครบ

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 26 ส.ค. ที่อาคารชินวัตร 3 นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงความคืบหน้าการจัดตั้งรัฐบาลว่า ยังมีบางพรรคที่ส่งรายชื่อบุคคลที่คาดว่าจะเป็นรัฐมนตรีมาไม่ครบ ส่วนพรรคอื่นๆที่ส่งมาแล้วอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบคุณสมบัติ แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ได้มีการขีดเส้นตาย เพียงแต่ถ้าไม่ส่งมาถือว่าไม่ส่ง

...

“อิ๊งค์-เศรษฐา” ตบเท้าเข้าตึกชินฯ

จากนั้นเวลา 09.35 น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เข้าไปที่อาคารชินวัตร 3 โดยไม่ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน เมื่อถูกถามถึงกรณีมีคนนิรนามไปยื่นร้องต่อ กกต.ให้ยุบพรรค พท. เพียงแต่หันมาโบกมือทักทายสื่อมวลชนเท่านั้น ต่อมาเวลา 09.40 น. นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ เข้ามาที่อาคารชินวัตร 3 เช่นกัน โดยมีรายงานว่า เพื่อส่งมอบงานต่อให้กับ น.ส.แพทองธาร

ก่อนหน้านี้ เมื่อเวลา 08.37 น. น.ส.แพทองธาร ทวีตข้อความผ่าน X ระบุว่า ขอขอบคุณท่านนายกฯหลี่ เฉียง ของจีนเป็นอย่างสูง สำหรับคำอวยพรในโอกาสที่ดิฉันได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งนายกฯของประเทศไทย ไทยกับจีนมีมิตรภาพบนพื้นฐานของความไว้เนื้อเชื่อใจและความเคารพซึ่งกันและกัน เรามีวิสัยทัศน์ร่วมในการสร้างความเจริญรุ่งเรืองและความก้าวหน้าร่วมกัน ตลอดจนความใกล้ชิดดุจเครือญาติระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศ ดิฉันมุ่งมั่นจะเสริมสร้างความสัมพันธ์หุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์อย่างรอบด้านระหว่างไทย-จีนให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น และพร้อมที่จะร่วมการเฉลิมฉลองในโอกาสครบรอบ 50 ปีของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างทั้งสองประเทศในปี 2568

“ทักษิณ” บอกอย่าไปสนใจถูกร้องครอบงำ

ขณะที่เวลา 11.30 น. นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางเข้าตึกชินวัตร 3 ด้วยเช่นกัน โดยอดีตนายกฯมีสีหน้ายิ้มแย้ม โบกมือทักทายผู้สื่อข่าว แต่ไม่ให้สัมภาษณ์ ระบุเพียงว่า “พูดไปเยอะแล้ว” ส่วนวันที่ 27 ส.ค. มีกำหนดการจะไปเชียงรายไปเยี่ยมชาวบ้าน

ต่อมาเวลา 14.00 น. นายทักษิณให้สัมภาษณ์สั้นๆก่อนเดินทางกลับ ถึงกรณีมีบุคคลไม่ประสงค์ออกนามยื่นร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้ยุบพรรคเพื่อไทย และตัดสิทธิทางการเมืองของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ โดยให้เหตุผลว่านายทักษิณเข้ามาครอบงำพรรคว่า “ไม่รู้เรื่อง อย่าไปสนใจ” จากนั้นได้ขึ้นรถเพื่อเดินทางกลับทันที

“วิสุทธิ์” ไม่กังวลปรึกษาหารือเป็นปกติ

นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท. กล่าวว่า ไม่มีความกังวลเรื่องถูกร้องเรียนนายทักษิณครอบงำพรรค เพราะอยู่ในพรรค เวลาประชุมเป็นประธานการประชุมทุกครั้ง ไม่เห็นว่าตอนประชุมพรรคจะมีใครมาสั่ง กระแสข่าวที่ระบุว่านายทักษิณสั่งได้ ถ้าสั่งได้นายชัยเกษม นิติศิริ เป็นนายกฯไปแล้ว ทำไมถึงเป็น น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ที่เป็นนายกฯ ไม่มีใครมาสั่ง เรื่องในพรรคมีความเป็นเหตุเป็นผล ชี้แจงได้ว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร ไม่ใช่ในพรรค พท.จะมีใครมาสั่งได้ ข้อเท็จจริงทุกอย่างต้องเป็นมติพรรคเท่านั้น ไปอ่านรัฐธรรมนูญให้ชัดเจนว่าแทรกแซงควบคุมเป็นอย่างไร เรื่องที่ไปพูดออกสื่อต่างๆเป็นข้อแนะนำที่ดี ท่านเป็นมืออาชีพ เคยทำให้บ้านเมืองพ้นจากเหตุการณ์ต่างๆมาแล้ว เรื่องดีๆมีเยอะแยะ จะแนะนำอะไรเป็นการส่วนตัวตนไม่ทราบ การปรึกษาหารือเป็นเรื่องปกติ ไม่มีอะไรน่ากังวล

โว พท.ผ่านร้อนหนาวมาเยอะล้มยาก

เมื่อถามย้ำว่า การที่นายทักษิณระบุว่าไม่ได้ครอบงำ น.ส.แพทองธาร แต่ครอบครอง นายวิสุทธิ์กล่าวว่า ท่านอาจพูดเล่น อาจพูดถึงลูก พ่อแม่คุยกันในครอบครัวเป็นเรื่องปกติธรรมดา ไม่ได้มาครอบงำอะไร ในพรรคไม่เคยได้รับคำสั่งอะไร เมื่อถามย้ำว่า เชื่อมั่นใช่หรือไม่ว่า น.ส.แพทองธาร จะแสดงศักยภาพในฐานะนายกฯได้เต็มที่ใช่หรือไม่ นายวิสุทธิ์กล่าวว่า แน่นอน ส่วนจะต้องมีการตั้งทีมกฎหมายเพื่อชี้แจงเรื่องนี้หรือไม่ นายวิสุทธิ์กล่าวว่า ในวันนี้ยังไม่ได้เรียกใคร การร้องเรียนมีการแสดงตัวตนหรือไม่ ถ้าไม่มีแสดงว่าเป็นบัตรสนเท่ห์ ส่วนจะเป็นเกมการเมืองล้มพรรคเพื่อไทยหรือไม่ คงล้มยาก เราผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะแล้ว อะไรที่ผิดกติกาเราไม่ทำ

พปชร.ทวงใบกรอกประวัติ “บิ๊กป๊อด”

ส่วนความคืบหน้าการตรวจสอบคุณสมบัติและประวัติว่าที่รัฐมนตรี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ปฏิบัติหน้าที่แทนหัวหน้าพรรค พปชร. ได้ลงนามในหนังสือพรรค พปชร.เลขที่ พปชร.138/ 2567 ลงวันที่ 26 ส.ค. ถึง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ เรื่อง ขอให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ดำเนินการส่งแบบข้อมูลประกอบการเสนอเรื่องการแต่งตั้งรัฐมนตรีให้กับ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ โดยเนื้อหาระบุว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 20 ส.ค. หัวหน้าพรรค พปชร.ได้เสนอรายชื่อบุคคลซึ่งพรรคเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีให้นายกฯ ผ่าน นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกฯ จำนวน 4 คน 1.พล.ต.อ.พัชรวาท ดำรงตำแหน่ง รองนายกฯ และ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 2.ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ดำรงตำแหน่ง รมว.เกษตรฯ 3.นายสันติ พร้อมพัฒน์ ดำรงตำแหน่ง รมช.สาธารณสุข 4.นายอรรถกร ศิริลัทธยากร ดำรงตำแหน่ง รมช.เกษตรฯ ตามสัดส่วนพรรค และที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค พปชร.เมื่อวันที่ 23 ส.ค.มีมติเห็นชอบตามนั้น โดยเป็นตามกฎหมายพรรคการเมืองและข้อบังคับพรรค และให้อำนาจหัวหน้าพรรค พปชร.เปลี่ยนแปลงหากรายชื่อบุคคลที่เสนอไปข้างต้นมีบุคคลใดไม่ผ่านคุณสมบัติ

งัดมติพรรค 39 เสียงชูมือหนุนนายกฯ

หนังสือของพรรค พปชร.ระบุอีกว่า ถือเป็นไปตามข้อตกลงร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลที่ก่อนหน้านี้ นายกฯในฐานะหัวหน้าพรรค พท.ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนร่วมกับพรรค พปชร. และพรรคอื่นได้ประกาศเป็นสัญญาประชาคมว่าทุกพรรคจะร่วมกันเพื่อจัดตั้งรัฐบาล โดยสนับสนุนให้ท่านเป็นนายกฯมีข้อตกลงให้มีสัดส่วนรัฐมนตรีแต่ละพรรคตามจำนวนเดิม พรรค พปชร.จึงให้ สส.สังกัดพรรคทุกคนออกเสียงเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งนายกฯ 39 เสียง เว้นแต่หัวหน้าพรรคที่ติดภารกิจสำคัญ และปรากฏข่าวว่านายกฯให้ สลค.เป็นผู้ติดต่อไปตามรายชื่อบุคคลที่พรรคร่วมรัฐบาลต่างๆเสนอ เพื่อให้กรอกแบบข้อมูลประกอบการเสนอเรื่องการแต่งตั้งรัฐมนตรี ตรวจสอบประวัติ และลักษณะต้องห้ามการเป็นรัฐมนตรีกันครบถ้วนทุกพรรคแล้ว

จี้นายกฯสั่ง สลค.ส่งเอกสารไม่ให้ล่าช้า

“แต่ปรากฏว่าเมื่อพรรค พปชร.สอบถามไปยัง พล.ต.อ.พัชรวาท จึงทราบว่า สลค.ไม่ได้ติดต่อเพื่อส่งแบบข้อมูลประกอบการเสนอเรื่องการแต่งตั้งรัฐมนตรีให้ ดังนั้น เพื่อมิให้เกิดความล่าช้า พรรค พปชร.จึงมีหนังสือฉบับนี้เพื่อกราบเรียนนายกฯ ในฐานะที่ท่านมีอำนาจในการสั่งการ สลค.ได้โปรดมีบัญชาให้ สลค.ดำเนินการส่งแบบข้อมูลประกอบการเสนอเรื่องการแต่งตั้งรัฐมนตรีให้กับ พล.ต.อ.พัชรวาท เพื่อพรรค พปชร.จะได้ให้มีการกรอกข้อมูลและนำส่ง สลค.โดยเร็วต่อไป”

เหลือแค่ “พัชรวาท” ยังไม่กรอกประวัติ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัญหาในพรรค พปชร.ที่มีการส่งโผ ครม. 2 ชุด ทั้งของฝั่ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร. ที่ยืนยันมติคณะ กรรมการบริหารพรรคส่ง 4 รายชื่อเดิม 1.พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ดำรงตำแหน่ง รองนายกฯ และ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ 2.ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ดำรงตำแหน่ง รมว.เกษตรฯ 3.นายสันติ พร้อมพัฒน์ ดำรงตำแหน่ง รมช.สาธารณสุข 4.นายอรรถกร ศิริลัทธยากร ดำรงตำแหน่ง รมช.เกษตรฯ และฝั่ง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรฯ ในฐานะเลขาธิการพรรค พปชร. ได้ส่งรายชื่อ 3 คน มีรายงานว่าชื่อนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ มานั่งเป็น รมว.เกษตรฯ แทน ร.อ.ธรรมนัส ที่เลือกไม่ส่งชื่อตัวเองแต่แรก โดยมาจากโควตาพรรคกล้าธรรมที่นางนฤมลเป็นหัวหน้าพรรค ส่วนนายอรรถกร ที่มีชื่อเป็น รมช.เกษตรฯ มาในโควตาพรรค พปชร. และนายอัครา พรหมเผ่า ที่จะมานั่งเป็น รมช.เกษตรฯ มาในโควตาพรรค พท.ทั้ง 3 คน ส่งประวัติเรียบร้อยแล้ว ขณะที่รายชื่อฝั่ง พล.อ.ประวิตร 4 รายชื่อ มีเพียง พล.ต.อ.พัชรวาทคนเดียวที่ยังไม่ได้กรอกประวัติ ส่วนนายสันติมีรายงานว่าได้กรอกประวัติเรียบร้อยแล้ว

“ไพบูลย์” มั่นใจนายกฯไม่ผิดสัญญา

ต่อมานายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรค พปชร. ให้สัมภาษณ์ภายหลังพรรค พปชร.มีหนังสือถึงนายกฯขอให้ สลค.ส่งแบบข้อมูลประกอบการเสนอการแต่งตั้งรัฐมนตรีให้ พล.ต.อ.พัชรวาท ว่า ขอให้เป็นไปตามขั้นตอนต้องให้มีความชัดเจนก่อน เพราะขณะนี้ยังไม่ชัด เนื่องจากเพิ่งส่งหนังสือไปเมื่อช่วงเที่ยง นายกฯต้องใช้ดุลพินิจเพราะเป็นเรื่องระหว่างพรรค พปชร. และนายกฯ เราดำเนินการตามขั้นตอนของข้อบังคับพรรค เพราะฉะนั้นต้องให้เวลา เมื่อถามว่าหากมีการผิดสัญญาประชาคมจะดำเนินการอย่างไรได้บ้าง นายไพบูลย์กล่าวว่า ยังไม่อยากพูด แต่มั่นใจนายกฯยึดตามข้อตกลงสัญญาประชาคม เพราะเป็นแนวทางและหลักการที่ต้องทำตามกติกาที่ได้ทำกันไปแล้ว มีการตกลงต่อสาธารณะ สังคมรับรู้ ไม่เชื่อว่าจะมีปัญหาถึงขนาดนั้น เมื่อถามว่าสุดท้ายหากไม่มีชื่อ พล.ต.อ.พัชรวาทจะดำเนินการอย่างไร นายไพบูลย์กล่าวว่า รอไปก่อน เพราะนายกฯอาจไม่ทราบเรื่องอะไรเลย ฉะนั้นต้องให้เวลาท่านพิจารณา เพราะทุกอย่างเราทำตามข้อบังคับพรรค ไม่ได้ทำอะไรที่ผิดจากกฎหมายพรรคการเมือง

“หมอมิ้ง” โยนเลขาฯ ครม.ดูแลเอกสาร

ที่อาคารชินวัตร 3 นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกฯ ให้สัมภาษณ์ถึงการที่พรรค พปชร.มีหนังสือถึงนายกฯกรณี พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ มีชื่ออยู่ในโผ ครม.ใหม่ โควตาพรรค พปชร. แต่ยังไม่ได้รับการติดต่อจากสำนักงานเลขาธิการ ครม. เพื่อให้ส่งข้อมูลกรอกประวัติ ครม.ว่า “มีจดหมายของเขาแล้วไงครับ” เมื่อถามว่าได้ส่งเอกสารให้ พล.ต.อ.พัชรวาทไปแล้วหรือไม่ นพ.พรหมินทร์กล่าวว่า ให้เลขาธิการ ครม.ดูแล ไม่มีอะไร เมื่อถามย้ำว่าทำไมตอนแรกถึงยังไม่ส่งเอกสารให้ พล.ต.อ.พัชรวาท นพ.พรหมินทร์ระบุว่า เดี๋ยวขอพิจารณาดู เดี๋ยวก็เห็นเอกสารออกมา เมื่อถามว่าวันนี้เริ่มมีการไปส่งเอกสารตรวจประวัติที่สำนักเลขาฯ ครม.แล้วใช่หรือไม่ นพ.พรหมินทร์ระบุว่า ไม่ทราบเลย เดี๋ยวเป็นนางณัฐฎ์จารี อนันตศิลป์ เลขาธิการ ครม. ดูแล

“เดชอิศม์” ส่งประวัติเรียบร้อย

ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า สำหรับความเคลื่อนไหวที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ตั้งแต่ช่วงเช้าทีมงานของนายเดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ได้นำเอกสารประวัติมาส่งให้ สลค.เรียบร้อย ต่อมาช่วงบ่ายเวลา 14.00 น. นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม ได้มอบให้ทีมงานมาส่งเอกสารประวัติเช่นกัน ทั้งนี้ก่อนหน้านี้ชื่อนายสุทินติดบัญชีหลุดโผรัฐมนตรีใน ครม.มาตลอด แต่ตราบใดที่การจัดโผยังไม่นิ่ง ยังคงมีการปรับเปลี่ยนได้ตลอดเวลา

“สุทิน-เสริมศักดิ์” ได้ลุ้นขึ้นบัญชีสำรอง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากกรณีของนายสุทินที่มีชื่อหลุดโผ ครม.ไปแล้ว แต่กลับได้รับการประสานงานให้ส่งประวัติมาที่ สลค. เมื่อวันที่ 26 ส.ค. ยังมีนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา อีกรายที่มีชื่อหลุดโผไปก่อนหน้านี้แล้วเช่นกัน แต่ได้กรอกประวัติไปแล้วเช่นเดียวกัน เนื่องจากพรรค พท.ต้องการให้การจัดตั้ง ครม.มีความรอบคอบและรวดเร็วมากที่สุด หากในขั้นตอนตรวจคุณสมบัติเกิดปัญหาใครไม่ผ่าน รายชื่อเหล่านี้มีโอกาสที่จะได้เข้าไปดำรงตำแหน่งแทนได้ทันที โดยไม่ต้องเริ่มกระบวนการใหม่

ตีกลับเอกสาร ภท.รูปไม่ตรงเซ็นไม่ครบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในส่วนของพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ได้รวบรวมเอกสารประวัติของรัฐมนตรีในสัดส่วนของพรรคทั้งหมด ส่งเลขาธิการนายกฯแล้วตั้งแต่วันที่ 20 ส.ค. แต่มีเอกสารประวัติยังไม่เรียบร้อย เพราะเซ็นชื่อไม่ครบทุกหน้า และรูปถ่ายไม่ตรงตาม ระเบียบ เมื่อวันที่ 23 ส.ค. สลค.ขอให้นำกลับไปแก้ไข และให้แต่ละคนทยอยมาส่งเอกสารด้วยตัวเองที่ตึกสลค. ทั้งนี้ การตรวจประวัติของ สลค.จากเดิมใช้เวลาเพียง 3-4 วัน แต่ครั้งนี้อาจต้องใช้เวลานานถึง 7 วัน

“อ้วน” อ้างรอโปรดเกล้าฯถึงรู้ใคร รมต.

เมื่อเวลา 19.00 น. ที่อาคารชินวัตร 3 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ ในฐานะแกนนำพรรค พท. ให้สัมภาษณ์กรณีพรรค พปชร. ทวงถาม พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ ยังไม่ได้รับเอกสารกรอกประวัติว่า ไม่ทราบกระบวนการดังกล่าว เพราะให้แต่ละพรรคที่จะร่วมรัฐบาลประสานผ่าน นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกฯ ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนตรวจสอบ ไม่ได้ก้าวล่วง ถ้าส่งมาแล้วคงอยู่ในกระบวนการเราไม่อาจทราบได้ ขณะนี้เราต้องดำเนินการอย่างละเอียดรอบคอบ ความจริงการตรวจประวัติ 3 วันก็เสร็จแล้ว แต่ครั้งนี้ต้องยืดเป็นสัปดาห์ กระบวนการขณะนี้เราไม่อาจบอกได้ว่าใครเป็นใคร แม้จะมาอยู่ในมือเราแล้วก็ตาม เพราะเป็นเรื่องที่ต้องโปรดเกล้าฯลงมา จะไม่สมควรถ้าจะมานั่งพูดว่าใครเป็นใคร เพราะยังไม่สามารถดำเนินการได้จนกว่าจะมีการโปรดเกล้าฯลงมา แล้วถึงจะบอกได้ว่าใครจะได้เข้าไปเป็น ครม.ได้ แม้แต่ตัวเรายังไม่รู้เลย

ลั่นสิทธิขาดอยู่ที่นายกฯเลือก รมต.

เมื่อถามว่าในฐานะผู้จัดการรัฐบาล การที่พรรค พปชร.มีโผ 2 ชุด จะคัดเลือกอย่างไร นายภูมิธรรมตอบว่า การคัดเลือกจัด ครม. เป็นอำนาจของนายกฯโดยแท้ นายกฯต้องรับผิดชอบเวลาเกิดปัญหา เรื่องนี้เป็นเรื่องของนายกฯ จึงไม่รู้ว่านายกฯจะหยิบตรงไหน พรรคที่ส่งชื่อมาแล้วไม่หยิบก็ได้หรือจะหยิบคนนอกมาก็ได้ ใครจะรับได้ไม่ได้ ผิดกฎหมายหรือไม่ ไม่เกี่ยว อันนี้เป็นเรื่องกระบวนการเวลาเสนอชื่อนายกฯจะเป็นผู้ตัดสินใจ เมื่อถามว่าหากบางพรรคไม่พอใจ ยืนยันพรรคจะเสนอใครไม่เสนอใครเป็นเรื่องของพรรค นายกฯจะเลือกใครเป็นเรื่องของนายกฯ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ไม่พอใจไม่ทราบเป็นเรื่องของนายกฯว่าจะตั้งคณะรัฐมนตรีแบบไหน เมื่อถามว่าขณะนี้บอกได้หรือยังว่าพรรคร่วมรัฐบาลมีกี่พรรค นายภูมิธรรมกล่าวว่าต้องรอให้นายกฯได้รายชื่อที่มาจากหน่อยงานตรวจสอบแล้วตัดสินใจตรงนั้นถึงบอกได้ว่าใครบ้างที่ได้รับเลือก

ปธ.วิป รบ.ยันแก้ รธน.ไม่ล่าช้า

ที่รัฐสภา นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล หรือวิปฝ่ายค้าน กล่าวถึงกรณีฝ่ายค้านทวงถามเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หลังกฎหมายประชามติผ่านที่ประชุมสภาไปแล้วว่า ต้องมาคุยกัน ตนได้นัดคุยกับหัวหน้าพรรคประชาชน วันที่ 28 ส.ค. นี้เวลาประมาณ 10.00 น. เพื่อปรึกษา หารือกับเรื่องที่หัวหน้าพรรคประชาชน เรื่องประมวลจริยธรรม และเรื่องยุบพรรค ต้องรับฟังกันก่อนทั้งสองฝ่าย เรื่องไหนเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติบ้านเมืองและประชาชน เราพร้อมให้ความร่วมมือ เมื่อเขาเสนอมาเราก็ต้องฟัง ถือว่านักการเมืองทุกคน มีความหนักใจ เช่น เรื่องคำว่ามีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ตั้ง เป็นคำที่กว้าง ดังนั้น ตอนนี้ใครมีลูกมีหลาน และเป็นนักการเมือง ก็ต้องดูให้อยู่ในบ้านตลอด อย่าไปเที่ยวทำอะไรที่ผิดพลาดแล้วเกิดเป็นประเด็นทางการเมืองเยอะแยะ ซึ่งเราหาข้อยุติตรงนี้ไม่ได้

ยินดีรับข้อเสนอ หน.พรรค ปชช.

เมื่อถามว่า นายวิสุทธิ์เห็นด้วยหรือไม่กับการ แก้ไขประเด็นนี้ เพราะมีการตีความได้กว้าง อาจทำให้ ส่งผลต่อการไม่กล้าเสนอชื่อคนมาเป็นรัฐมนตรี นายวิสุทธิ์กล่าวยอมรับว่า เห็นด้วย จึงต้องนำเข้าที่ประชุมพรรคในวันที่ 27 ส.ค. นี้ก่อนจะนำมาหารือ กับหัวหน้าพรรคประชาชนในวันที่ 28 ส.ค.นี้ แต่ส่วนตัว ก็เห็นด้วยที่จะต้องมีการแก้ไขบางเรื่อง ที่ทำให้เป็นอุปสรรคต่อการทำหน้าที่ของนายกฯ ส่วนข้อครหาว่า รัฐบาลไม่จริงใจในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ยืนยันว่าไม่ล่าช้า เพราะเดิมนัดหัวหน้าพรรคไว้ตั้งแต่วันพฤหัสบดี ที่ผ่านมา แต่เมื่อท่านไม่ว่างจึงเลื่อนมาเป็นวันพุธ เราทำงานรวดเร็วทันใจ เพราะกฎหมายรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องใหญ่และสำคัญของประเทศชาติเรา จึงต้องมีการปรึกษาหารือทุกฝ่ายเพื่อไม่ให้มีอุปสรรค แสวงหา ความร่วมมือกันได้ ไม่ให้มีปัญหาในการทำงาน

หลังแถลงนโยบายเลือกรอง ปธ.สภาฯ

นายวิสุทธิ์กล่าวต่อว่า ส่วนการนัดวันเลือกรองประธานสภาฯ คนที่ 1 ต้องรอให้การแต่งตั้ง ครม.เสร็จก่อน ใจเย็นๆ ตอนนี้เราเร่งรัดแค่เรื่อง ครม. เพื่อให้นายกฯมาแถลงนโยบายต่อรัฐสภา จะได้มี งบประมาณช่วยประชาชนได้เต็มที่ แก้ไขปัญหาให้ ประชาชนที่เดือดร้อน เรากังวลเรื่องนี้เป็นส่วนใหญ่ อย่างอื่นเป็นเรื่องเล็กหมด ได้พูดคุยกับนายภราดร ปริศนานันทกุล สส.อุทัยธานี พรรค ภท. ที่เป็นผู้ได้รับ การเสนอชื่อเป็นรองประธานสภาฯ รวมถึงนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค ภท. กันด้วยดี ไม่ได้มีความ ขัดแย้งกัน ทิศทางที่ผ่านมารัฐบาลจับมือกันทำงานอย่าง แน่นแฟ้น ไม่มีเรื่องอื่นและขอให้สบายใจได้ หวังให้การ เลือกรองประธานสภาฯสำเร็จให้เร็วที่สุด คาดว่าจะเป็น ภายหลังวันแถลงนโยบายต่อรัฐสภาราววันที่ 15 ก.ย.

30 ส.ค.นายกฯลุยน้ำท่วมสุโขทัย

ที่อาคารชินวัตร 3 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย มีแกนนำพรรคเพื่อไทย เข้าร่วม อาทิ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รมว.พาณิชย์ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และ รมว.คมนาคม จากนั้นเวลา 18.50 น. นายสุริยะ เปิดเผยผลการประชุมว่า ที่ประชุมไม่ได้มีการพูดคุย ถึงการเตรียมนโยบายรัฐบาล ที่จะแถลงต่อรัฐสภา แต่เป็นการพูดคุยเรื่องของปัญหาน้ำท่วม เบื้องต้นได้มีการวางกำหนดการของ น.ส.แพทองธารที่จะลงพื้นที่จังหวัดสุโขทัย ไปในวันศุกร์ที่ 30 ส.ค. โดยนายภูมิธรรมในฐานะปฏิบัติหน้าที่นายกฯ จะสั่งการ ในที่ประชุม ครม.

“สุทิน” ระทึกเครื่องบินขัดข้อง

เมื่อเวลา 13.00 น. ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม ออกเดินทางด้วยเครื่องบิน ATR 72-600 (บล.16) ของกองทัพอากาศ (ทอ.) เพื่อไปตรวจเยี่ยมการปฏิบัติของกำลังพล และมอบถุงยังชีพให้ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ จ.แพร่ แต่หลังจากเครื่องบินบินขึ้นไม่ถึงครึ่งชั่วโมง เกิดการขัดข้องระบบความดันอากาศมีปัญหา แม้เจ้าหน้าที่จะแจ้งว่าแก้ไขได้แต่นายสุทินตัดสินใจสั่งให้บินกลับเพื่อความปลอดภัยเนื่องจากความกดอากาศทำให้ผู้โดยสารปวดหูอื้อ นายสุทินกล่าวว่า ขอยกเลิกภารกิจ วันพุธที่ 28 ส.ค.จะเดินทางไปใหม่ โดยวันนี้ให้ทาง ผวจ.แพร่ และแม่ทัพภาคที่ 3 ทำหน้าที่แทน ฝากความห่วงใยไปถึงชาวแพร่ ทั้งนี้ ตั้งแต่เกิดน้ำท่วมได้สั่งการให้ทุกเหล่าทัพลงไปช่วยเหลือในทุกด้าน ส่วนที่ชาว กทม.และปริมณฑล เริ่มกังวลกับมวลน้ำ เป็นเรื่องที่ไม่ควรประมาทเพราะเป็นสิ่งที่เคยเกิดขึ้น ก่อนที่น้ำจะระบายออกอ่าวไทย ต้องไหลผ่านกรุงเทพฯ และปริมณฑลอยู่แล้ว ดังนั้นการติดตามข้อมูลและไม่ประมาทจึงเป็นเรื่องที่ดี

สว.ชงตั้ง กมธ.แก้ภัยพิบัติซ้ำซาก

นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สว.เปิดเผยว่า เพื่อน สว.รวม 14 คน เสนอญัตติตั้งคณะกรรมาธิการ วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหาภัยพิบัติ อย่างเร่งด่วนและเป็นระบบ เพื่อแก้ปัญหาระยะยาว สืบเนื่องจากสถานการณ์น้ำท่วมอย่างรุนแรงในหลายจังหวัด เช่น เชียงราย แพร่ น่าน พะเยา และคาดว่ามวลนํ้าจะไหลลงมารวมในพื้นที่ภาคกลาง เช่น จ.นครสวรรค์และพิษณุโลก ประกอบกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประเมินว่า มีพื้นที่เสี่ยงต้องเฝ้าระวังในหลายภูมิภาค ทําให้ประชาชนกังวลใจว่า สถานการณ์ นํ้าจะรุนแรงเท่ากับปี 2554 หรือไม่ปัญหาอุทกภัยที่เกิดขึ้นซํ้าซาก ส่วนหนึ่งมาจากการบริหารจัดการนํ้าที่ไม่มีประสิทธิภาพ ขาดการบูรณาการในการป้องกันและแก้ไขอย่างเป็นระบบ ทุกภาคส่วนทำงานไม่ต่อเนื่อง ให้ความสําคัญเพียงเฉพาะหน้าเวลาเกิดอุทกภัยเท่านั้น

แจงอิฐสภาฯแค่หล่นออกจากกอง

ที่รัฐสภา ว่าที่ ร.ต.ต.อาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร แถลงว่า กรณีกำแพงอิฐอาคารรอบสระมรกต ฝั่งอาคารพระสุริยันต์ รัฐสภา ร่วงขณะช่างกำลังซ่อมแซมกำแพงที่บวมน้ำ จนทำให้อิฐหล่นใส่คนงานบาดเจ็บเมื่อวันที่ 23 ส.ค. ว่า เมื่อวันที่ 20 ส.ค.บริษัทผู้รับจ้างมีหนังสือ ขอแก้ไขงานอิฐมอญที่เป็นผนังมีเหล็กแฟลตบาร์หย่อนลงมาไม่ตึง ช่างเรียกว่า “ตกท้องช้าง” เพราะอิฐมอญอาจรับน้ำหนักมากเกินไปในช่วงฝนตกเกรงจะมีอันตราย และในวันเกิดเหตุ 23 ส.ค. คนงานได้เอาอิฐออกมากองบนนั่งร้านในจำนวนที่สูงพอสมควร และพลาดทำอิฐที่กองไว้หล่นลงมาใส่คนงานชาวเมียนมา อายุ 42 ปี ที่อยู่ข้างล่างได้รับบาดเจ็บคิ้วแตก ฟันหัก 1 ซี่ ดังนั้น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดจากอิฐที่ผนังถล่ม ทางสำนักอาคารสถานที่ได้ประสานผู้รับจ้างให้ตรวจเช็กเหล็กแฟลตบาร์ทุกจุดแล้ว ปัญหาที่เกิดขึ้นผู้รับเหมาเป็นผู้รับผิดชอบยังอยู่ในประกัน 2 ปี หลังจากรับมอบงาน

“จเด็ศ” มั่นใจปักธงพิษณุโลกเขต 1

วันเดียวกัน นายจเด็ศ จันทรา ผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อม สส.หมายเลข 2 เขต 1 จ.พิษณุโลก พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า หลังการรับสมัครมีประชาชนให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก แต่สถานการณ์ขณะนี้ประชาชนกังวลในสถานการณ์น้ำที่กำลังท่วมภาคเหนือ ที่อาจไหลมาที่พิษณุโลกและอาจสร้างผลกระทบ ได้ติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด และสั่งการให้ทีมงานในพื้นที่ต่างๆ ติดตามระดับน้ำและคอยช่วยเหลือประชาชนตามกรอบที่กฎหมายกำหนด และจากการลงพื้นที่เพื่อพบปะประชาชน พร้อมนำเสนอนโยบายของรัฐบาลและพรรค พท. เพื่อผลักดันการแก้ปัญหาปากท้องให้ประชาชน ถึงเวลานี้มั่นใจว่าจะชิงพื้นที่ สส.พิษณุโลก เขต 1 มาได้ ใช้ความจริงใจสื่อสารกับประชาชนให้ทราบในสิ่งที่พรรคเพื่อไทยต้องการจะทำ การลงเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ มั่นใจว่าจะปักธงพรรค พท.ในพื้นที่พิษณุโลก เขต 1 ได้แน่นอน

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่