วันนี้ขอเขียนถึง Vision for Thailand 2024 ของ คุณทักษิณ ชินวัตร ต่ออีกวันนะครับ คุณทักษิณ ได้พูดต่อถึง “สิ่งที่ประเทศไทยจะต้องทำต่อไป” หลังจากที่พูดถึงปัญหาของประเทศไทย ผมดูจาก เว็บไซต์การเงินธนาคาร เขารวบรวมเรื่องที่ คุณทักษิณ ระบุไว้ถึง 27 เรื่อง ที่รัฐบาลเพื่อไทยซึ่งมี คุณอิ๊งค์ แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกฯจะต้องรับผิดชอบทำต่อไป ถือเป็น “ข้อสอบ” ที่ อดีต นายกฯทักษิณ มอบให้กับ นายกฯแพทองธาร ในเวทีสาธารณะ ต้องทำต่อให้สำเร็จ ไม่ยังงั้นการเลือกตั้งอีก 3 ปีข้างหน้า พรรคเพื่อไทยอาจไม่สามารถเอาชนะพรรคประชาชน เป็นพรรคใหญ่อันดับหนึ่งอย่างที่คาดหวังก็ได้

ไปดูข้อสอบบางส่วนกันครับ นายกฯอิ๊งค์ แพทองธาร ชินวัตร จะสามารถ “สอบผ่าน” ข้อสอบของคุณพ่อได้สักกี่ข้อ แม้คนออกข้อสอบจะเป็นที่ปรึกษาส่วนตัวก็ตาม

ข้อ 1 การปรับโครงสร้างหนี้ครัวเรือนและธุรกิจให้เดินต่อให้ได้ ข้อสอบข้อนี้ยากที่สุด หลายรัฐบาลที่ผ่านมาก็ยังแก้ไม่ได้ คุณทักษิณ แนะนำว่า รัฐมนตรีคลังต้องไปคุยกับสมาคมธนาคารและบรรดานักซื้อหนี้ว่า จะแก้ปัญหายังไงเพื่อให้เดินต่อไปได้ เชื่อว่าแนวทางมี นอกจากนี้ รัฐมนตรีคลังต้องไปประสานนโยบายเศรษฐกิจกับแบงก์ชาติ นโยบายการเงินนโยบายการคลังต้องไปในทางเดียวกัน แต่ต้องเคารพความเป็นอิสระของแบงก์ชาติ (หลังจากที่ คุณเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และ รมว.คลัง ทะเลาะกับแบงก์ชาติเป็นปี บีบให้แบงก์ชาติ ลดดอกเบี้ย ทำให้นักลงทุนต่างชาติเทขายหุ้นไทยกันกระหน่ำและเบือนหน้าหนีจากประเทศไทย เพราะถือว่านายกฯแทรกแซงแบงก์ชาติ)

ข้อสอบข้อแรกนี้ผมคิดว่า นายกฯแพทองธาร คงจะ “สอบไม่ผ่าน” ในเวลา 3 ปีที่ได้เป็นนายกฯและรัฐบาลแน่นอน ข้อมูลล่าสุดของสภาพัฒน์ หนี้ครัวเรือนไทยไตรมาส 1 ปี 2567 อยู่ที่ 90.8% ของจีดีพี คิดเป็นมูลหนี้สูงถึง 16.85 ล้านล้านบาท สูงสุดในรอบ 10 ปี คาดว่าสิ้นปี 2567 หนี้ครัวเรือนไทยจะพุ่งขึ้นไปเป็น 91.4% ของจีดีพี ราว 16.99 ล้านล้านบาท ยังไม่นับหนี้ของเอสเอ็มอีธุรกิจขนาดกลางขนาดย่อมนะครับ

...

ปัญหาของหนี้ครัวเรือนไทยก็คือ เกือบ 70% เป็นหนี้ประเภทที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ในอนาคต เช่น สินเชื่อบุคคล บัตรเครดิต เป็นสินเชื่อเพื่อการอุปโภคบริโภค ใช้แล้วก็หมดไป ไม่ได้ช่วยให้มีรายได้เพิ่มขึ้น เงินดิจิทัล 450,000 ล้านบาท ที่รัฐบาลจะแจกตั้งแต่เดือนกันยายนเป็นต้นไป ก็เป็นเงินในลักษณะนี้ ใช้จ่ายเพื่ออุปโภคบริโภค ไม่ก่อให้เกิดรายได้ในอนาคต ธนาคารเพื่อการชำระหนี้ระหว่างประเทศ (BIS) ระบุว่า หนี้ครัวเรือนที่สูงเกิน 80% ต่อจีดีพี มีแนวโน้มที่ทำให้การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะยาวลดลง โดยหนี้ครัวเรือนที่เพิ่มขึ้น 1% อาจทำให้การเติบโตทางเศรษฐกิจลดลงได้มากถึง 0.1%
วันนี้ไทยมีหนี้ครัวเรือนสูงถึง 90.8% ต่อจีดีพี เป็นประเทศที่มีหนี้ครัวเรือนสูงเป็นอันดับ 8 ของโลก และเป็นประเทศด้อยพัฒนาเพียงประเทศเดียวที่มีหนี้ครัวเรือนติดอันดับโลกสูงขนาดนี้

ข้อ 2 โครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ข้อนี้ผมคิดว่า นายกฯแพทองธารคงจะสอบผ่าน แต่คะแนนไม่ดีมากนัก คุณทักษิณ บอกว่า มีคนค้านเพราะยังไม่เข้าใจว่าคืออะไร ดิจิทัลวอลเล็ต เป็นการยิงนก 3 ตัวด้วยกระสุนนัดเดียว อันแรกเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังบ้านคือสมาร์ทคอนแทรกต์ ระบบบล็อกเชน มีการควบคุมการใช้เงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจได้แม่นยำ รวมทั้งให้คนรากหญ้าเรียนรู้เทคโนโลยี ครั้งหน้าเราจะได้ทั้ง ดิจิทัลไอดี ซุปเปอร์แอป การแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตลอตแรก 145,000 ล้านบาท จะแจกให้กลุ่มเปราะบาง 14.5 ล้านคน เริ่มแจกทันทีในเดือนกันยายน และตุลาคมจะแจกคนที่ลงทะเบียน 30 ล้านคน

ข้อสอบที่เหลืออีก 20 กว่าข้อ เนื้อที่จำกัดลงไม่ได้ ผมเอาบางข้อมาลงให้ดูเป็นตัวอย่างก็แล้วกัน ข้อ 3 การปรับโครงสร้างอุตสาหกรรม ข้อ 4 ดาต้าเซ็นเตอร์ ข้อ 5 ประเด็นรถยนต์ไฟฟ้า ข้อ 6 ดาวเทียมจีน ข้อ 7 ซอฟต์พาวเวอร์ ข้อ 8 ปฏิรูปการเกษตรใหม่ ข้อ 9 เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ข้อ 10 ปัญหานํ้าท่วมนํ้าแล้ง ฯลฯ ยังไงก็ขอเอาใจช่วย นายกฯแพทองธาร นะครับ ถ้าสอบผ่านทำได้ ประเทศไทยจะดีกว่านี้แน่นอน.

“ลม เปลี่ยนทิศ”

คลิกอ่านคอลัมน์ “หมายเหตุประเทศไทย” เพิ่มเติม