เปิดหน้าชกโดยไม่ต้องเกรงใจกันแล้ว ระหว่าง สส.ทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล กับตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ หลังจากสั่งยุบพรรคก้าวไกล และถอดถอนนายก รัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน ไปสดๆ ร้อนๆ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญท่านหนึ่ง คือ นายอุดม สิทธิวิรัชธรรม ไปกล่าวเสียดสีเยาะเย้ยพรรคก้าวไกลในการบรรยายที่เสวนาแห่งหนึ่ง
นายอุดมพูดเยาะเย้ยพรรคก้าวไกลว่า ต้องขอบคุณตนที่สั่งยุบพรรค ทำให้ได้รับเงินบริจาคถึง 20 ล้านบาท ทั้งที่ยังไม่ได้จดทะเบียนเปลี่ยนชื่อ ทำได้หรือเปล่า ต้องตรวจสอบว่าใช้บัญชีเดิมหรือเปล่า หรือเปิดบัญชีใหม่จริงๆ ต้องขอบคุณตนมีการยุบพรรคเห็นไหม ได้เงินตั้งหลายล้านก็ไม่เห็นจะเดือดร้อนตรงไหนเลย
หลังจากฟังคำเยาะเย้ยเสียดสีจากตุลาการผู้ทรงเกียรติ มี สส.หลายคนทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลทนไม่ไหว ดาหน้าออกมาตอบโต้อย่างไม่เกรงใจ เช่น นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร นายรังสิมันต์ โรม นายพริษฐ์ วัชรสินธุ นายจุลพงศ์ อยู่เกษ จากพรรคประชาชน และนายอดิศร เพียงเกษ จากพรรคเพื่อไทย
นายจุลพงศ์แถลงว่า ฟังคลิปคำบรรยายแล้ว กังวลถึงวุฒิภาวะและสติ ปัญญาของคนที่มีอำนาจตัดสินว่าใครมีหรือไม่มีจริยธรรม เลยสั่งสอนตุลาการรุ่นต่อๆมาให้เยาะเย้ยเสียดสีหรือทวงบุญคุณกับตัวความที่ตัวเองตัดสิน ถูกตั้งคำถามจากประชาชน เหมาะสมที่จะเป็นตุลาการหรือไม่ นับวันจะเห็นคนบางกลุ่มชี้คนนี้คนนั้นไม่มีจริยธรรม
ส่วนนายอดิศรจากพรรคเพื่อไทย พรรคแกนนำรัฐบาล เปิดเผยว่า ได้ยื่นญัตติด้วยวาจาต่อสภาผู้แทนราษฎร ให้ฝ่ายนิติบัญญัติตรวจสอบและอาจยื่นเรื่องให้ ป.ป.ช. ไต่สวนจริยธรรมของตุลาการด้วย โดยเปรียบเทียบว่าใครเป็นปาราชิกแล้วก็อย่าเป็นพระต่อไป ขณะที่ สส.พรรคประชาชนเสนอให้แก้ไขรัฐธรรมนูญลดอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ
แต่การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตามกติการัฐธรรมนูญปัจจุบันไม่ใช่เรื่องง่ายๆถ้าหาก สว.อยู่ใต้การครอบงำของบางพรรคเป็นความจริงตามข่าว เพราะการแก้ไขรัฐธรรม นูญจะต้องได้รับความเห็นชอบ จาก สว.อย่างน้อย 1 ใน 3 หรือ 67 เสียงขึ้นไปมี สว.พันธุ์ใหม่หรือกลุ่มอิสระพอที่จะช่วยได้หรือไม่
...
มีมาตรการตรวจสอบฝ่ายตุลาการอีกอย่างหนึ่งคือยื่นให้ ป.ป.ช.ไต่สวนในข้อหาไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง จากนั้นยื่นต่อศาลฎีกาให้วินิจฉัย ถ้าศาลเห็นว่าผู้ถูกร้องผิดจริงจะสั่งให้พ้นจากตำแหน่งตามด้วยการเพิกถอนสิทธิการสมัครรับเลือกตั้ง ห้ามสมัครทุกตำแหน่ง และห้ามดำรงตำแหน่งการเมืองตลอดชีวิต.
คลิกอ่านคอลัมน์ “บทบรรณาธิการ” เพิ่มเติม