“นายกฯ แพทองธาร” ห่วงใยผู้ประสบอุทกภัย แม้ยังไม่มีอำนาจเต็มสั่งการ แต่ยังช่วยได้ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย “ภูมิธรรม” พร้อมคณะ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมเหนือ น่าน-เชียงราย ย้ำ รัฐบาลไม่นิ่งนอนใจ
เมื่อเวลา 08.40 น. วันที่ 25 สิงหาคม 2567 ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง กทม. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม จ.น่าน และ จ.เชียงราย ว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้รับเลือกจากสภาผู้แทนราษฎรเป็นนายกรัฐมนตรีเรียบร้อย แต่ยังเหลือขั้นตอนต่างๆ ที่จะต้องมีการโปรดเกล้าฯ คณะรัฐมนตรี (ครม.) และเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ รวมถึงการเข้าแถลงนโยบายต่อสภาผู้แทนราษฎร เมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการต่างๆ จึงจะมีอำนาจในการสั่งการ ยืนยันว่านายกรัฐมนตรีมีความห่วงใยและเฝ้าดูที่จะช่วยเหลือ ทั้งในนามหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) และในนามส่วนตัว
นายภูมิธรรม กล่าวต่อไปว่า ในฐานะรัฐบาล และตนที่ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี จะต้องลงพื้นที่และแก้ไขปัญหาโดยตรง จะสั่งการอย่างเต็มที่เพื่อให้ทุกอย่างเดินหน้า ทั้งนี้ ข้าราชการส่วนต่างๆ ก็มีความตั้งใจในการแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำ ซึ่งรัฐบาลพร้อมรับฟังและร่วมพลังแก้ไขอย่างเต็มที่ โดยวันนี้ ตนเองพร้อมด้วย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ซึ่งขณะนี้ประจำอยู่ที่ จ.เชียงราย แล้ว รวมถึงสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) และสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) จะลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม โดยขณะนี้จะเป็นการแก้ปัญหาน้ำเฉพาะจุดในพื้นที่ภาคเหนือก่อน และป้องกันน้ำที่กำลังจะไหลลงมา
...
จากนั้นจะมีการพิจารณาถึงปริมาณเก็บกักน้ำในเขื่อนต่างๆ ด้วย เพราะช่วงนี้จนถึงเดือนตุลาคม จะยังคงมีฝนตกลงมาต่อเนื่อง จึงต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ปริมาณน้ำในเขื่อน ทั้งเขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ และเขื่อนเจ้าพระยา มีความสัมพันธ์กัน และเพื่อช่วยลดมวลน้ำหลากที่ไหลลงมาอย่างแรงและเร็ว รวมถึงกำชับส่วนราชการทุกจังหวัดให้ติดตามปริมาณน้ำที่ผิดแปลกไปจากเดิม และรองรับทางระบายน้ำ ทั้งการเจาะรูระบายน้ำ ทั้งถนน หรือสะพานและใช้สะพานแบริเออร์ทดแทน หรือประสานท้องถิ่นจังหวัดอื่นเพื่อสนับสนุนเครื่องจักร อาทิ รถดูดโคลน เป็นต้น ทั้งนี้รัฐบาลและส่วนราชการจะไม่ประเมินสถานการณ์ที่ต่ำเกินไปจนประมาท และจะไม่รายงานใดๆ จนทำให้เกิดความตื่นตระหนกได้ รวมถึงจะมีการรายงานสถานการณ์ให้หน่วยงานและประชาชนสามารถติดตาม ป้องกัน และแก้ไขปัญหาได้
เมื่อถามถึงสถานการณ์น้ำ ณ ตอนนี้ ทั้งที่ จ.เชียงราย จ.แพร่ และ จ.น่าน นายภูมิธรรม กล่าวว่า น้ำลดลงบ้างแล้ว ยกเว้นบางพื้นที่ที่เป็นเขื่อนกั้นดินก็ยังมีทะลักเข้ามาอยู่ แม้จะมีรายงานว่าสถานการณ์จะดีขึ้น แต่ตนก็ยังคงเป็นห่วงอยู่ เพราะเมื่อคืนวันที่ 24 สิงหาคมที่ผ่านมา ก็ยังมีฝนตกลงมา จึงยังมีการเฝ้าระวังและไม่นิ่งนอนใจ ส่วนมวลน้ำจากแม่น้ำยม ขณะนี้ได้ไหลสู่ จ.อุตรดิตถ์ และ จ.สุโขทัย แล้ว ซึ่งน่าเป็นห่วงเช่นกัน จึงได้สั่งการให้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ไปติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ รวมถึงระดมหน่วยงานรัฐทั้งหมดมาร่วมดูแล
ส่วนสาเหตุของสถานการณ์อุทกภัยในครั้งนี้ นายภูมิธรรม ระบุว่า เกิดขึ้นจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปจากสภาวะโลกร้อน แม้แต่น้ำในแม่น้ำโขงก็ยังปรับระดับสูงขึ้น และปริมาณน้ำฝนมีเป็นจุด ไม่แพร่กระจาย จึงทำให้ฝนตกบางพื้นที่อย่างรุนแรงและเร็ว ซึ่งบางพื้นที่จะมีการวางแนวป้องกันไว้ แต่ก็ยังต้องเผชิญสถานการณ์ ทั้งนี้ เชื่อว่าสถานการณ์จะคลี่คลายโดยเร็วเพราะเป็นน้ำหลาก
ผู้สื่อข่าวถามต่อถึงแผนการแจ้งเตือนประชาชน นายภูมิธรรม กล่าวว่า มีแผนตั้งแต่สมัยรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรีแล้ว ซึ่งขณะนี้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้ติดตามพื้นที่เฝ้าระวังแล้ว และให้กรมทรัพยากรธรรมชาติ ติดตามคันดินกั้นน้ำในพื้นที่ต่างๆ ให้แข็งแรง รวมถึงกำชับให้กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์ระบุบ่งชี้ถึงพื้นที่ที่มีปัญหาให้ชัดเจน เพื่อให้สามารถเตรียมการในพื้นที่ได้ แต่ปัญหาจากสภาวะโลกร้อนก็ทำให้สภาพปัญหาเปลี่ยนแปลงไปด้วย รวมถึงรัฐบาลยังมีการตั้งศูนย์บัญชาการส่วนหน้าไว้ที่ จ.สุโขทัย และสั่งการให้สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (GISTDA) และกรมชลประทาน จัดเก็บข้อมูลหลังจากนี้ว่าจะต้องดูแลปัญหา และเตรียมการอย่างไรล่วงหน้าได้บ้าง
ในตอนท้าย นายภูมิธรรม ยังได้กล่าวถึงสถานการณ์ดินโคลนถล่มที่ จ.ภูเก็ต และอุทกภัยที่ จ.แพร่ จ.น่าน และ จ.พะเยา ว่า รัฐบาลได้สั่งการดูแลเรื่องการเยียวยาประชาชนแล้ว รวมถึงการฟื้นฟูสภาพหลังน้ำลด เพื่อไม่ให้กระทบการมาหากินของประชาชน และแหล่งท่องเที่ยว รวมทั้งกระทรวงพาณิชย์ได้สั่งการให้ติดตามราคาสินค้าและสินค้าจำเป็นต่างๆ ไม่ให้ขาดตลาด หรือเกิดการขึ้นราคา ซึ่งหลายจุดที่ประสบภัย อย่างเช่นใน จ.น่าน ประชาชนต้องการบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปและข้าวสารจำนวนมาก รวมถึงสั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปดูแลโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งน้ำประปาและไฟฟ้าโดยเร็วที่สุด เพื่อให้ประชาชนดำเนินชีวิตต่อได้
สำหรับกำหนดการวันนี้ นายภูมิธรรม ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี และคณะ จะเดินทางถึงท่าอากาศยานน่านนคร ต.ในเวียง อ.เมือง จ.น่าน เพื่อติดตามสถานการณ์และการให้ความช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนประชาชนจากปัญหาอุทกภัย ประชาชนที่วัดอัมพวัน (ม่วงใต้) ต.ศรีภูมิ อ.ท่าวังผา จ.น่าน พร้อมตรวจสถานการณ์น้ำผ่านรถ Mobile War Room และพบปะและให้กำลังใจ พร้อมมอบถุงยังชีพแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ
จากนั้น นายภูมิธรรม และคณะ ออกเดินทางต่อไปยังท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง ต.บ้านดู่ อ.เมือง จ.เชียงราย รับฟังบรรยายสถานการณ์และการให้ความช่วยเหลือ ณ ห้องรับรองพิเศษ ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง แล้วจึงไปติดตามสถานการณ์อุทกภัย ณ ศาลาอเนกประสงค์บ้านหนองบัว ต.สันทรายงาม อ.เทิง จ.เชียงราย พบปะและให้กำลังใจ พร้อมมอบถุงยังชีพแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ รวมถึงติดตามสถานการณ์อุทกภัย ณ อาคารอเนกประสงค์ (โรงยิม) โรงเรียนเวียงแก่นพิทยาคม บ้านหล่ายงาว อ.เวียงแก่น พบปะและให้กำลังใจ พร้อมมอบถุงยังชีพแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจจึงเดินทางกลับ กทม.
