ข่าว “เขย่าขวด” สุดสัปดาห์นี้ การเมืองกลับ มาสู่วงจรเดิมที่ “ทักษิณ ชินวัตร” คุมอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ทุกพรรคการเมืองต้องเข้ามาอยู่ใต้ศูนย์อำนาจเดียว

“ประชาธิปัตย์” ที่เคยเป็นคู่ต่อสู้มายาวนานก็ต้องเปลี่ยนสภาพไปตามสภาพความเป็นจริง ภายใต้บริบทคนไทยต้องรักสามัคคี

“ประชาชน” คือพรรคการเมืองใหม่ที่เข้ามาทำหน้าที่แทน

เป็นฝ่ายค้านแต่จะเฉียบคมเหมือนพรรคเก่าแก่ได้หรือไม่

ก็ต้องคอยดูกันต่อไป...

สนามเลือกตั้งปี 2570 คืออนาคตที่ต่างก็มุ่งไปตรงนั้น เพื่อจะวัดว่าพรรค การเมืองไหนจะชนะเลือกตั้ง

“ทักษิณ” ประกาศชัดเจนแล้วว่า “เพื่อไทย” ชนะแน่ เพราะแนวทางและนโยบายที่จะมุ่งสร้างโอกาสให้คนไทยมีชีวิตที่ดีขึ้น

แต่ “ประชาชน” คือพรรคที่ต้องการให้คนไทยทุกคนมีความเท่าเทียมกัน ซึ่งเป็นเรื่องยากที่จะไปสู่จุดนั้นได้

ก็ต้องลุ้นกันต่อไป

แต่สำหรับวันนี้รัฐบาลชุดใหม่ ภายใต้ การนำของ “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี กำลังเร่งปรุงแต่ง ครม.เพื่อเข้า มาทำหน้าที่บริหารประเทศ

นอกจาก “เพื่อไทย” แล้วก็มี “ภูมิใจไทย”-“รวมไทยสร้างชาติ”-“ชาติไทยพัฒนา”-“ประชาชาติ” ที่เคยร่วมกันมาก่อน

อีกพรรคที่เกิดปัญหาขัดแย้งภายในคือ “พลังประชารัฐ” จนแยกออกเป็น 2 เสี่ยงคือฝ่าย “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” หัวหน้าพรรค กับ “ธรรมนัส พรหมเผ่า” เลขาธิการพรรค

...

ต่างฝ่ายต่างก็เสนอชื่อรัฐมนตรีในโควตาของตัวเอง

อยู่ที่ “เพื่อไทย” ในฐานะแกนนำจะเลือกเอาฝ่ายไหน เพราะได้ประกาศไปแล้วว่าถ้าจะมาก็ต้องมาทั้งพรรค

แต่ดูจากสถานการณ์แล้ว “เพื่อไทย” น่าจะเลือกฝั่ง “ธรรมนัส” มากกว่า เพราะมีออปชันที่ดีกว่าอีก เคยอยู่ในมุ้งเดียวกันมาก่อน

ประเด็นคือปัญหาไม่ลงรอยกันมาก่อนระหว่าง “ทักษิณ” กับ “บิ๊กป้อม”

ยิ่งไปกว่านั้น “ธรรมนัส” ได้มีข้อเสนอที่ปฏิเสธไม่ได้คือ จะมีพรรคประชาธิปัตย์เข้ามาร่วมด้วย ทำให้มีเสียงสนับสนุนเพิ่มขึ้น

รัฐมนตรีจำนวนเท่าเดิมหรือจะเพิ่มให้อีกคนก็ได้!

สรุปก็คือรัฐบาล “อิ๊งค์” จะมีพรรคการเมืองเข้ามาร่วมคือ “เพื่อไทย”-“ภูมิใจไทย”-“รวมไทยสร้างชาติ”-“ประชาชาติ”-“ชาติไทยพัฒนา”

และ “พลังประชารัฐ” ครึ่งพรรค

“ประชาธิปัตย์” จะมาค่อนพรรค ไม่อยากเข้าร่วมเป็น สส. 4 คน จาก 25 คน แต่ต้องปฏิบัติตามมติของกรรมการบริหารพรรค

แบบนี้ก็เรียบร้อยโรงเรียน “ทักษิณ” ทุกอย่างน่าจะจบลงได้

เพียงแต่ว่าใครจะได้เป็นรัฐมนตรีกันบ้างก็แล้วแต่ละพรรคจะตัดสิน มีข้อแม้ อย่างเดียวคือจะต้องผ่านการรับรองจาก “กฎเหล็ก” ว่าด้วยจริยธรรมเท่านั้น

นโยบายของรัฐบาลที่นำไปปฏิบัตินั้น คงเอามาจากการแสดงวิสัยทัศน์ 14 ข้อ ที่ “ทักษิณ” แสดงให้สังคมรับทราบล่วงหน้าไปแล้ว

มองจากรูปการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อทุกพรรคต่างก็ให้การสนับสนุนอย่างที่เป็นอยู่นั้น อนาคตของนายกรัฐมนตรีคนใหม่คงอยู่ได้ยาวแน่

แต่บรรดาหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคก็คงเป็นได้แค่ “พระรอง” ตลอดไป ไม่มีทางที่จะขยับขึ้นมาเล่นบท “พระเอก” ได้

ไม่ต่างกับสมัยที่ “ทักษิณ” เป็นนายกรัฐมนตรีเท่าใด

เพราะทุกอย่างถูกพันธนาการเอาไว้หมดแล้ว!

"ลิขิต จงสกุล"

คลิกอ่านคอลัมน์ “สับรางวันอาทิตย์” เพิ่มเติม