“ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” บรรยายงานพบนักศึกษาใหม่ มธ. เผยที่มาเบื้องหลังความคิดการเมือง จากการทำกิจกรรมในรั้วมหาวิทยาลัย จนเห็นความเหลื่อมล้ำในสังคมไทย ฝากข้อคิดนักศึกษาใหม่ใช้ชีวิตเรียนรู้โลกให้กว้างที่สุด

วันที่ 23 สิงหาคม 2567 ที่หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานมูลนิธิคณะก้าวหน้า รับเชิญเป็นผู้บรรยายในงานพบเพื่อนใหม่ของนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ “TPC First Meet 2024” ร่วมเวทีพร้อมกับ นายวรรณสิงห์ ประเสริฐกุล และ นางสาวสุชาตา ช่วงศรี ในหัวข้อ “หนทางพิชิตชีวิตมหาวิทยาลัย”

โดยเนื้อหาของการบรรยายครั้งนี้เป็นการถ่ายทอดประสบการณ์และข้อคิดจากการใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย โดยนายธนาธรระบุว่ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์คือสถานที่ที่ความสนใจปัญหาสังคมและความเหลื่อมล้ำของตนถูกบ่มเพาะและเติบโต ผ่านการทำกิจกรรมทั้งค่ายอาสาต่างๆ รวมทั้งการได้ทำกิจกรรมในองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (อมธ.) และสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.) ซึ่งเป็นองค์กรทางการเมืองของนิสิตนักศึกษาที่เรียกร้องประชาธิปไตยและความเป็นธรรมให้กับประชาชนที่ได้รับปัญหาต่างๆ ทำให้เราซึมซับความถูกผิด เข้าใจในความอยุติธรรมและความเหลื่อมล้ำ

บรรยากาศการใช้ชีวิตของตนในมหาวิทยาลัยให้น้ำหนักไปกับเพื่อนและกิจกรรมทางสังคมเป็นส่วนใหญ่ แต่ให้น้ำหนักกับการศึกษาน้อยมาก ผ่านเวลามา 20 กว่าปีเมื่อมองย้อนกลับไปแล้วตนก็ได้ข้อคิดกับตัวเองว่าการแสวงหาความเป็นเลิศทางวิชาการพร้อมกับการทำกิจกรรมร่วมกันเป็นไปได้ ไม่ต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง มองย้อนไปก็เสียดายมากว่าวันนั้นถ้าตนตั้งใจเรียนกว่านี้ วันนี้จะทำงานได้ดีกว่านี้

...

นายธนาธร กล่าวต่อไปว่าทุกคนในฐานะปัจเจกมีพลังและศักยภาพที่จะสร้างสรรค์โลกที่ดีและน่าอยู่กว่านี้อยู่ในตัวเราทุกคน ไม่ว่าจะเป็นนักศึกษาหรือใครก็มีศักยภาพนั้นอยู่ ตอนที่ตนเริ่มเข้ามาทำงาน อมธ. ตนไม่มีแม้กระทั่งทักษะในการพูดที่สาธารณะ เป็นเด็กค่าเฉลี่ยที่แค่พอทำได้ตามค่าเฉลี่ยในทุกเรื่อง แต่พอได้เริ่มมาทำกิจกรรมก็ได้เปิดโลกทัศน์ตัวเองออก สร้างเสริมศักยภาพในตัวเรา จนติดตัวเรามาเอาไปใช้ในงานทั้งด้านธุรกิจและงานด้านสังคมจนถึงทุกวันนี้ ไม่ว่าบทบาทไหนเราทุกคนต่างมีพลังและศักยภาพในการส่งโลกที่ดีกว่านี้ให้กับคนรุ่นต่อไปได้

ก่อนเข้าธรรมศาสตร์โลกของตนแคบมาก แค่ 20 ตารางกิโลเมตรรอบ ถ.สุขุมวิท เพชรบุรี พระรามสี่ พญาไท จนกระทั่งได้ไปค่ายอาสาพัฒนาชนบทครั้งแรก ตนตกใจมากว่าทำไมสังคมไทยอนุญาตให้มีความเหลื่อมล้ำขนาดนี้ ไม่เคยเห็นมาก่อน ทำให้ตนได้ตระหนักว่ายังมีความอยุติธรรมอยู่มากขนาดไหน จากจุดนั้นตนถึงเริ่มตั้งคำถามกับระบบระเบียบสังคม ว่าเรายังมีทางเลือกอื่นหรือไม่ในการพัฒนาประเทศที่ดีกว่านี้

ในช่วงท้ายของการบรรยาย นายธนาธรได้ฝากข้อคิดถึงการใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย โดยระบุว่าในช่วงชีวิตของการเป็นนักศึกษานี้ ตนแนะนำให้ทุกคนออกไปทำสิ่งที่ไม่เคยทำ เดินทางไปที่ที่ไม่เคยไป อ่านหนังสือเล่มที่ไม่เคยอ่าน คบเพื่อนต่างเพศ ต่างวัย ต่างเชื้อชาติ ต่างศาสนา ต่างศรัทธา ไม่มีอะไรทำก็ไปเที่ยวบ้านเพื่อนที่ต่างจังหวัด ไปดูวิถีชีวิตของเขาว่าเติบโตมาต่างจากเราอย่างไร

“การเก็บประสบการณ์แบบนี้จะทำให้เราค้นหาตัวเองได้ ทำให้คอมฟอร์ทโซนของเรากว้างขึ้น เห็นโลกมากขึ้น เข้าใจความคิดของผู้คนที่ต่างไปมากขึ้น ทำให้เรามีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น ซึ่งเป็นพื้นฐานในการรักษาความเป็นมนุษย์ภายในตัวของเราเอาไว้ได้ ขอให้ใช้ชีวิตอย่างมีความหวัง เชื่อมั่นในศักยภาพของเราเอง อยากให้ทุกคนเชื่อในศักยภาพของตัวเองและเดินหน้าใช้ชีวิตด้วยความหวัง” นายธนาธรกล่าว