“อดิศร” ฟาดแรง “อุดม สิทธิวิรัชธรรม” ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ บรรยายขัดจริยธรรม เปรียบเป็นพระก็ปาราชิกแล้ว อัด อวดเบ่ง มีอคติ ไม่คู่ควรเป็นตุลาการ จ่อยื่นญัตติด้วยวาจาต่อที่ประชุมสภา
วันที่ 22 สิงหาคม 2567 นายอดิศร เพียงเกษ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย แถลงต่อสื่อมวลชนที่อาคารรัฐสภา ถึงกรณี นายอุดม สิทธิวิรัชธรรม ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ กล่าวพาดพิงการยุบพรรคก้าวไกล ว่า เตรียมยื่นญัตติด้วยวาจาเข้าสู่ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพราะถือว่าตุลาการศาลรัฐธรรมนูญไม่ประพฤติในจริยธรรมของการดำรงตนเป็นตุลาการ ถือเป็นเรื่องใหญ่ ไม่ใช่เพราะการยุบพรรคก้าวไกล แต่เป็นเรื่องของการปฏิบัติและการดำรงตนเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีจริยธรรมวางไว้อย่างชัดเจน การกระทำเช่นนี้ถือเป็นการอวดเบ่งคู่กรณี มีอคติและมายาคติ ไม่คู่ควรกับการเป็นตุลาการศาล
...
นายอดิศร กล่าวต่อไปว่า ในฐานะที่เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เป็นอันตรายต่อการปกครองในระบบประชาธิปไตยอย่างยิ่ง ในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติจึงต้องมีการตรวจสอบ เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ เป็นเรื่องของอำนาจ ไม่ควรไปยกเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เปรียบเทียบให้เป็นสมณะ เป็นพระแต่หากทำตนแบบนี้แสดงว่าปาราชิกแล้ว
สำหรับการยื่นญัตติด้วยวาจาในที่ประชุม จะขอให้ต่างคนต่างออกความคิดเห็น ยังไม่มีการพูดคุยกับพรรคประชาชน พร้อมมองว่า ตุลาการทำเกินหน้าที่ เพราะมี 9 คนเท่านั้น ให้อยู่สูงแล้วแต่อยากอยู่ต่ำก็เชิญมาคลุกกับเรา ในฐานะที่เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาล เป็นเรื่องศักดิ์ศรีของฝ่ายตุลาการ ฝ่ายนิติบัญญัติ และฝ่ายบริหาร ที่ถ่วงดุลกันอยู่
อย่างไรก็ตาม นายอดิศร ยังกล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า อยากให้ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญสำเหนียกไว้ว่าไม่ได้เป็นพระเจ้าอยู่เหนือคนอื่น เรื่องจริยธรรมไม่สามารถเป็นผู้บรรยายในงานสัมมนาได้ อีกทั้งดูจากภาพมีพฤติกรรมแล้วเหมือนหัวเราะเยาะเย้ย ลักษณะนี้ไม่ควรดำรงตำแหน่งตุลาการต่อไป การออกมาพูดเรื่องนี้ถือเป็นการถ่วงดุลในอำนาจหน้าที่ระหว่างฝ่ายนิติบัญญัติ บริหาร และตุลาการ แต่ต้องเรียกร้องให้ทุกฝ่ายมีสติในการทำหน้าที่.