การฟอร์ม ครม. หรือ การจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ในอดีต เรื่องที่คนให้ความสำคัญมากที่สุดก็คือ “ทีม ครม.เศรษฐกิจ” ดูว่าคนที่จะมาเป็นรัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจ มีความรู้ความสามารถจริงหรือไม่ มีผลงานในอดีตเป็นที่ประจักษ์หรือไม่ สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนในประเทศและต่างประเทศหรือไม่ เพราะหน้าที่ของรัฐบาลคือ การทำให้เศรษฐกิจประเทศเข้มแข็งเติบโตแข่งกับประเทศเพื่อนบ้านได้ ไม่ใช่เข้ามากอบโกยผลประโยชน์จากชาติ อย่างที่เป็นข่าวมาตลอด ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยถดถอยลงอย่างมาก จากที่เคยเกือบเป็น “เสือตัวที่ห้าแห่งเอเชีย” กลายมาเป็น “ผู้ป่วยแห่งอาเซียน” ในวันนี้
การจัดตั้งรัฐบาลชุดที่แล้วของ อดีตนายกฯเศรษฐา ทวีสิน พรรคเพื่อไทยก็ไม่ได้ให้ความสำคัญกับ “ทีม ครม.เศรษฐกิจ” ไม่มี รองนายกฯฝ่ายเศรษฐกิจ ด้วยซํ้า ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยเดินหน้าไปไม่ได้ รัฐมนตรีไม่มีความรู้ความสามารถ จะแจกเงินก็ยังแจกไม่เป็น
ผมไม่ได้คาดหวังว่ารัฐบาลใหม่ของ นายกฯแพทองธาร ชินวัตร จะสามารถจัดตั้ง “ทีม ครม.เศรษฐกิจ” ที่เข้มแข็งได้เลยอยากเรียกร้องไปยัง “ผู้มีบารมีเหนือพรรคเพื่อไทย” ที่เข้าใจเรื่องเศรษฐกิจดี ขอให้ใช้บารมีที่มีอยู่สรรหา “รัฐมนตรีเศรษฐกิจคนนอก” ที่มีความรู้ความสามารถอย่างแท้จริง เข้ามาเป็นรัฐมนตรีในกระทรวง เศรษฐกิจที่สำคัญ แทนรัฐมนตรีที่มาจาก สส.เขี้ยวงา เป็นรัฐมนตรีมาไม่รู้กี่สมัย ประเทศชาติไม่เคยดีขึ้นเลย มีแต่แย่ลง ถือเสียว่าทำเพื่ออนาคตที่ดีของ คุณแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่เป็นทายาท การเมืองก็แล้วกัน เธอจะได้โลดแล่นในเวทีการเมืองต่อไปในอนาคต
วันนี้ผมจะพาไปดูตัวอย่างการเฟ้นหา “ทีมเศรษฐกิจ” ของคู่ชิงประธานาธิบดีสหรัฐฯ ระหว่าง นางคามาลา แฮร์ริส พรรคเดโมแครต กับ นายโดนัลด์ ทรัมป์ พรรครีพับลิกัน ซึ่งทั้งคู่ต่างก็ให้ความสำคัญกับทีมเศรษฐกิจ แม้สหรัฐฯจะเป็นมหาอำนาจเศรษฐกิจโลกก็ตาม
...
นางคามาลา แฮร์ริส เธอตัดสินใจเลือก ไมค์ ดีส นักเศรษฐศาสตร์จากสถาบัน MIT อดีตผู้อำนวยการสภาเศรษฐกิจแห่งชาติของ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เคยเป็น หัวหน้าฝ่ายการลงทุนอย่างยั่งยืนของ BlackRock บริษัทจัดการลงทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลก บริหารทรัพย์สินมูลค่าเกือบ 10 ล้านล้านดอลลาร์ 360 ล้านล้านบาท มาเป็น หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ นอกจากนี้ยังมี ไมค์ ไพล์ อดีตที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติด้านเศรษฐศาสตร์ระหว่างประเทศ อดีตหัวหน้านักยุทธศาสตร์ การลงทุนของ BlackRock นางดีแอนน์ มิลลิสัน ที่ปรึกษาด้านล็อบบี้ยิสต์ของฟอร์ด มอเตอร์ เป็นต้น แต่ละคนดีกรียอดเยี่ยมทั้งนั้น
ไมค์ ดีส มีอิทธิพลต่อนโยบายเศรษฐกิจของพรรคเดโมแครตมานานในฐานะ นักวิเคราะห์นโยบายเศรษฐกิจประจำศูนย์วิจัยความก้าวหน้าแห่งอเมริกา (Center of America Progress) ผลงานสำคัญของ ไมค์ ดีส คือ การออกมาตรการกระตุ้นและสนับสนุนทางภาษีให้กับรัฐบาลไบเดนในช่วงโควิดระบาด ส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐฯฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว ล่าสุด คือ การออกกฎหมายชิป หรือ Chip Act เพื่อทำสงครามชิปกับจีน
โดนัลด์ ทรัมป์ ก็ใช่ย่อย เขาเพิ่งให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า หากเขาได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีอีกสมัย เขาจะเสนอชื่อ นายอีลอน มัสก์ ซีอีโอ Tesla และ SpaceX มาเป็นหนึ่งในคณะรัฐมนตรีหรือไม่ก็ตำแหน่งที่ปรึกษา
ประเทศที่เจริญทั่วโลก เวลาจัดตั้งรัฐบาล เขาให้ความสำคัญมากที่สุดกับ 2 ตำแหน่ง คือ รัฐมนตรีต่างประเทศ ถือเป็นเบอร์ 2 รองจากผู้นำ และ รัฐมนตรีคลัง เป็นเบอร์ 3
มีแต่ประเทศล้าหลังอย่างไทย ที่จัดตั้งรัฐบาลโดยไม่สนใจ “ทีมเศรษฐกิจ” สนใจแต่ “กระทรวงเกรดเอเกรดบี” ที่ทำมาหากินได้ แล้วก็แบ่งเก้าอี้รัฐมนตรีตามโควตา สส. แล้วประเทศไทยจะเจริญรุ่งเรืองได้อย่างไร ก็ฝากไปถึง “ผู้มีบารมีเหนือพรรคเพื่อไทย” เป็นคนเดียวที่สามารถทำได้ ถือเสียว่า ทำเพื่อชาติ และ เพื่อทายาท ก็แล้วกันนะครับ.
“ลม เปลี่ยนทิศ”
คลิกอ่านคอลัมน์ “หมายเหตุประเทศไทย” เพิ่มเติม