“ทักษิณ” ปัดไม่เคยยกหูเคลียร์ “ประวิตร” อดีตเคยทำอะไรไว้ต้องรู้ตัว เลือกขั้ว พปชร.ที่ทุ่มเทเต็มร้อย ไม่ปิดประตู ปชป.ร่วมวง ย้ำ “นายกฯอิ๊งค์” ต้องไร้ความเสี่ยง มั่นใจ ดีเอ็นเอสายตรงนำทีมแก้วิกฤติ ศก.อัดฉีดเงินเข้าระบบ รอเวลาไม่ได้ พท.เซอร์ไพรส์เบิร์ธเดย์ “ผู้นำใหม่” “เศรษฐา” ปลุก สส.ช่วยกันปกป้องไม่ให้ใครมาทำร้าย ย้ำเป็นคนซื่อสัตย์เป็นที่ประจักษ์ “หมอมิ้ง” แจงบัญชี พปชร.ยังไม่ถึงมือ “ภูมิธรรม” ขีดเส้นส่งชื่อ รมต. แนะ พปชร.ไปเคลียร์กันให้จบก่อน “ผู้กอง” ประกาศปลดแอกขอเป็นอิสรภาพ แซะ “ลุง” ฝันต่อสายถึง “นายใหญ่” เมื่อไม่ใช้ก็ไม่คุยแล้ว ยันเป็นคนดีลกับเพื่อไทยมาตลอด “ไผ่” ประกาศกลุ่มนี้ร่วมรัฐบาล 2 ขั้ว เช็กเสียงเรียงตัว “ธรรมนัส” อ้างระดมพลได้ 34 เสียง “ลุงป้อม” ดึงกลับมาอยู่ที่ 25 เสียง ผัว-เมีย “พร้อมพัฒน์” แยกกันเดิน “อนุทิน” ส่งชื่อ รมต.ภท.เรียบร้อย “ชาดา” ย้อนไม่เคยผิดจริยธรรม
แรงเขย่าจัดโผคณะรัฐมนตรีรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ส่งผลให้พรรคพลังประชารัฐแตกเป็นเสี่ยง มีการเช็กขุมกำลังกันระหว่างขั้วบ้านป่า รอยต่อ ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร. กับขั้ว ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรค ที่ประกาศอิสรภาพ เพื่อโควตารัฐมนตรีร่วมรัฐบาล
...
“ทักษิณ” ออกตัวผู้สังเกตการณ์
เมื่อเวลา 09.20 น. วันที่ 20 ส.ค. ที่อาคารชินวัตร 3 นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางมาร่วมสังเกตการณ์ประชุมกรรมการบริหารพรรคของพรรคเพื่อไทย (พท.) ด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส ทันทีที่เห็นผู้สื่อข่าวนายทักษิณเดินเข้ามาทักทายและสอบถามความเป็นอยู่ของสื่อมวลชนที่มารอติดตามทำข่าว เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามกำหนดการแถลงนโยบายของรัฐบาลช่วงต้นเดือนหน้าว่าเป็นประเด็นอะไร นายทักษิณตอบว่า “ไม่รู้ ต้องถามท่านนายกฯ” พร้อมกับหัวเราะก่อนกล่าวทิ้งท้ายว่า “ผมเป็นคนสังเกตการณ์” ขณะที่ความเคลื่อนไหวของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีรายงาน ว่า ช่วงเช้ามีภารกิจส่วนตัว แต่เวลา 12.00 น. จะเดินทาง เข้ามาที่อาคารชินวัตร 3 เพื่อร่วมประชุม สส.พรรคพท.ประจำสัปดาห์
“เศรษฐา” ส่งมอบภารกิจ “อิ๊งค์”
ช่วงบ่าย บรรดา สส. รักษาการรัฐมนตรี อาทิ นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน ทยอยเข้าพรรค รวมถึงนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เดินทาง เข้ามายังอาคารชินวัตร 3 เพื่อพูดคุยส่งมอบงานให้กับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ โดยนายเศรษฐามีสีหน้า ยิ้มแย้ม พร้อมยกนิ้วโป้งให้สื่อก่อนเดินขึ้นตึกไป
“นายใหญ่” ลั่นไม่คุยกับ “พี่ใหญ่”
ต่อมาเวลา 14.30 น. นายทักษิณ ชินวัตร อดีต นายกฯให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าว พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ต่อสายเคลียร์ใจว่า ยังไม่เคยได้ยินเสียง พล.อ.ประวิตร ได้ยินแต่เสียงที่ลอดมาจากโทรศัพท์หัวหน้าพรรคอื่น เมื่อถามย้ำว่าตั้งแต่จัดตั้งรัฐบาลได้พูดคุยกับ พล.อ.ประวิตรบ้างหรือไม่ นายทักษิณยืนยันว่าไม่ได้คุย เป็นเรื่องภายในของแต่ละพรรค แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต ใครทำอะไรไว้ควรต้องรู้ตัว เมื่อถามอีกว่าการที่มีกระแส ข่าวว่า พล.อ.ประวิตรโทร.ไปเคลียร์ใจเป็นการมโน ไปเองใช่หรือไม่ นายทักษิณตอบว่า ไม่ทราบ อาจ มีคนรอบข้างไปเล่าให้ฟัง แต่ตนไม่ได้คุย เมื่อถามว่า ปัญหาภายในพรรค พปชร. จะทำให้การตั้งรัฐบาลล่าช้า หรือไม่ นายทักษิณตอบว่า ไม่เป็นไร หัวหน้าพรรคเพื่อไทยตั้งคณะกรรมการขึ้นมาช่วยกันสกรีนให้เรียบร้อยที่สุด เมื่อถามถึงกระแสข่าวจะไม่ให้มี “วงษ์สุวรรณ” ร่วมรัฐบาลจริงหรือไม่ นายทักษิณตอบว่า ต้องแล้วแต่คณะกรรมการ ตนไม่เกี่ยวข้อง เหมือนคนเดินผ่านไปผ่านมาได้ยินเฉยๆ เมื่อถามว่า ยังผูกใจเจ็บ พล.อ.ประวิตรหรือไม่ นายทักษิณตอบว่า “อู้ ผมนี้โดนเยอะที่สุด ไม่ได้ใส่ใจกับอดีตอยู่แล้ว ผมอยู่กับวันนี้และพรุ่งนี้”
เลือกขั้ว พปชร.ที่ทุ่มเทเต็มร้อย
ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรค พปชร.แตกเป็น 2 ฝ่าย ระหว่าง พล.อ.ประวิตรกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรค พปชร. มองว่าฝ่ายไหนเหมาะจะมา ทำงานร่วมกับ น.ส.แพทองธาร นายทักษิณตอบว่า ฝ่ายที่ทุ่มเทให้กับรัฐบาลมาตลอดน่าจะเป็นฝ่ายที่ถูกต้อง เมื่อถามว่าหากจะมาร่วมรัฐบาลต้องมาทั้งพรรค หรือไม่ นายทักษิณหัวเราะพร้อมกล่าวว่า จะร้องเพลงของอัสนี-วสันต์ “ถ้าจะมาต้องมาทั้งตัว” เมื่อถามว่า การที่ พล.อ.ประวิตรไม่โหวต น.ส.แพทองธารเป็นนายกฯ ควรให้มาร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายทักษิณตอบว่า “ลองถามท่านดูว่าทำไมไม่มาโหวต”
ไม่ปิดประตูดึง ปชป.ร่วมวง ครม.
เมื่อถามว่าหากพรรค พปชร.มาไม่ครบ อาจมี พรรคประชาธิปัตย์เข้ามาเติมเสียง นายทักษิณตอบว่า เป็นธรรมชาติที่ต้องมีเสียงที่มีเสถียรภาพ ปัญหาประเทศ เยอะมาก ต้องเปลี่ยนในเรื่องโครงสร้างหลายอย่าง โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจ ต้องอาศัยการแก้กฎหมาย การสนับสนุนจากสภาฯ เราต้องมั่นใจว่ารัฐบาลมีเสียงพอ ทำให้เกิดความเชื่อมั่นต่อประเทศ วันที่ 22 ส.ค.จะไป พูดเรื่องแนวทางเศรษฐกิจสร้างความเชื่อมั่นให้ประเทศ เมื่อถามย้ำว่าไม่ปิดทางดึงพรรคประชาธิปัตย์มาร่วม รัฐบาล นายทักษิณตอบว่า เป็นไปได้อยู่แล้ว
“นายกฯอิ๊งค์” ต้องไร้ความเสี่ยง
เมื่อถามถึงคุณสมบัติ ร.อ.ธรรมนัสที่อาจทำให้ ไม่ได้เป็นรัฐมนตรี นายทักษิณตอบว่า ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกติกา ถ้าคณะกรรมการกฤษฎีการะบุเป็น ลายลักษณ์อักษรออกมา ผ่านก็คือผ่าน ไม่ผ่านคือไม่ผ่าน ไม่เช่นนั้นนายกฯจะอยู่ในฐานะแบบคราวที่แล้ว ไม่ดีเลย เมื่อถามว่าคนที่สุ่มเสี่ยง จะไม่ให้เข้ามาร่วมเลยใช่หรือไม่ นายทักษิณตอบว่า สุ่มเสี่ยง ก็ไม่ควร ทุกคนควรต้องเสียสละให้การเมืองต่อเนื่อง เมื่อถามว่าหน้าตารัฐมนตรีของ น.ส.แพทองธาร ต้องสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนหรือไม่ นายทักษิณ ตอบว่า การเมืองมีข้อจำกัดอยู่ ก็ทำได้ในระดับหนึ่ง แต่ภาวะผู้นำสำคัญที่จะนำองคาพยพทั้งหมด ไม่ว่า ระบบราชการ เอกชน มาร่วมมือกันให้ได้ ตรงนั้น สำคัญกว่า
“ยิ่งลักษณ์” กลับไทยมีกลไกอยู่
เมื่อถามว่ามีระเบิดเวลาคือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ จะได้กลับไทยในยุครัฐบาล น.ส.แพทองธารหรือไม่ นายทักษิณตอบว่า นั่นไม่ใช่ ระเบิดเวลา อยู่ที่ถ้าจะกลับก็กลับ มีกลไกของมันอยู่ เมื่อถามย้ำว่ากลไกที่ว่าต้องมีการดีลข้ามขั้วเหมือนดีลลังกาวี นายทักษิณตอบว่า ไม่มีเลย เข้าใจผิดอย่างแรง ไม่มีดีลกับใครเลย ถ้าดีลป่านนี้ต้องมีอะไร ประหลาดๆออกมา เมื่อถามว่าจนถึงขณะนี้ น.ส.แพทองธารต้องระวังอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ นายทักษิณ ตอบว่า สิ่งที่ต้องระวังคือปัญหาที่หมักหมมของประเทศ เป็นปัญหาใหญ่ปัญหาหนัก เรื่องเศรษฐกิจไม่ใช่เรื่องเล่น เพราะเศรษฐกิจใต้ดินเป็นครึ่งหนึ่งของเศรษฐกิจบนดิน แสดงให้เห็นว่าโอกาสทำมาหากินถูกกฎหมายถูกปิดมานาน คนเลยลงใต้ดินหมด พนันออนไลน์ปีนึง 5 แสนล้านบาท
อัดฉีดเงินเข้าระบบรอไม่ได้
เมื่อถามอีกว่าควรต้องปรับเปลี่ยนนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตหรือไม่ นายทักษิณตอบว่า ความจำเป็น ในการกระตุ้นเศรษฐกิจต้องมีแน่นอน และต้องทำให้เร็ว ช้าไม่ได้ เพราะเศรษฐกิจกำลังไหลลง ยิ่งลึกเท่าไหร่ ดึงขึ้นมายากเท่านั้น นายกฯกำลังวางแผนกันอยู่ หลังจากทำงานได้แล้วคงสั่งการเลย คำว่าดิจิทัลวอลเล็ต มี 3 เรื่อง ในนั้น 1.คือการกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นหัวใจ สำคัญที่ต้องทำ 2.การให้ประชาชนเรียนรู้เทคโนโลยีเพื่อใช้ประโยชน์ในโอกาสต่อไปข้างหน้า และ 3.อนาคต ของดิจิทัลวอลเล็ตเมื่อวางไว้แล้วจะสามารถเชื่อมต่อ เศรษฐกิจระหว่างรัฐบาลกับประชาชนได้ เป็นช่องทาง ให้ประชาชนทำธุรกิจผ่านดิจิทัลวอลเล็ต เป็นเรื่องเทคนิคที่ต้องมีต่อไป ซึ่งอันที่สองกับสามรอได้ แต่ อันที่หนึ่งรอไม่ได้ ต้องถูกกฎหมายและไม่ให้ขัดแย้งกับคนที่เห็นต่างเยอะเกินไป
มั่นใจดีเอ็นเอแก้ปัญหา ศก.ได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า โครงการอาจเปลี่ยนแปลงแต่การอัดฉีดมีเหมือนเดิมใช่หรือไม่ นายทักษิณตอบว่า เดินผ่านมาได้ยินนายกฯคุยกับฝ่ายงบประมาณควรต้องทำ เมื่อถามอีกว่า การแจกเป็นเงินสดจะตอบโจทย์กว่าหรือไม่ นายทักษิณตอบว่า ข้อดีของการแจกเงินสดคือเร็ว แต่ข้อเสียคือกลัวจะใช้ในสิ่งที่กระตุ้นเศรษฐกิจไม่เต็มที่ เมื่อถามว่าเศรษฐกิจเป็นเรื่องสำคัญจะมาช่วยหรือไม่ นายทักษิณตอบว่า ช่วยให้คำแนะนำ แต่การตัดสินใจเป็นเรื่องของนายกฯกับรัฐมนตรี ให้คำแนะนำได้ เมื่อถามว่า มีหลายคนมองว่า น.ส.แพทองธาร มือยังไม่ถึงจะเป็นผู้นำด้านเศรษฐกิจ นายทักษิณตอบว่า “ดีเอ็นเอเดียวกัน คิดว่าคงจะได้” เมื่อถามย้ำว่าต้องติวเข้มอะไรหรือไม่ นายทักษิณตอบว่า ต้องช่วยกันคิด ไม่ใช่เรื่องของคนคนเดียวคิด ทำงานต้องเป็นทีม เป็นห่วงอยู่ เมื่อถามว่าปกตินายกฯต้องเป็นผู้นำด้านเศรษฐกิจ นายทักษิณตอบว่า แน่นอน น.ส.แพทองธารรับบทบาทนั้น แต่ต้องมีคนช่วย น.ส.แพทองธารเน้นการทำงานเป็นทีมตลอด ในพรรคก็ทำงานเป็นทีม จะเอาคนในพรรคมาช่วยทำงานหลายคน
ปัดครอบงำผู้นำแค่ครอบครอง
เมื่อถามว่า น.ส.แพทองธารเป็นนายกฯมา 3 วันแล้ว หายตื่นเต้นหรือยัง นายทักษิณตอบว่า ต้องไปถามเจ้าตัว แต่ตนตื่นเต้นตลอด เมื่อถามอีกว่าด้วยบทบาทนายทักษิณ ปฏิเสธไม่ได้ที่จะถูกมองว่าครอบงำ นายทักษิณตอบว่า “ไม่มีครอบงำ มีแต่ครอบครอง เพราะเป็นลูกสาวของผม” เมื่อถามย้ำว่ากังวลว่าใครจะไปร้องหรือไม่ นายทักษิณตอบว่า “สบายๆ อยากร้องก็ร้องให้ดัง”
พท.เซอร์ไพรส์เบิร์ธเดย์ “อิ๊งค์”
จากนั้นเวลา 15.00 น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็นประธานการประชุม สส.พรรคเพื่อไทย ก่อนประชุมรัฐมนตรี แกนนำพรรค และ สส.พรรค ยืนต่อแถวรอเซอร์ไพรส์อวยพรวันคล้ายวันเกิดล่วงหน้าให้กับ น.ส.แพทองธาร ซึ่งตรงกับวันที่ 21 ส.ค. ทันทีที่ น.ส.แพทองธาร และนายเศรษฐา เดินมาถึงหน้าห้องประชุม สส. ทพญ.ศรีญาดา ปาลิมาพันธ์ สส.บัญชีรายชื่อ ได้มอบภาพวาด น.ส.แพทองธารคู่กับนายทักษิณ ก่อนที่ สส.จะร่วมร้องเพลงสุขสันต์วันเกิด นายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในนามพรรคเพื่อไทยกราบขอบคุณนายเศรษฐา ที่อุทิศตนเสียสละทุกอย่างให้พวกเรา ขอเป็นกำลังใจสำคัญที่สุดในการใช้ชีวิตต่อไป รู้ว่านายเศรษฐาเก่งอยู่แล้วไม่ว่าจะทำอะไรพวกเราเป็นกำลังใจให้เสมอ กราบขอบคุณนายเศรษฐาที่ทำทุกอย่างให้พวกเรา วางรากฐานให้พวกเราในเวลา 1 ปี ต่อไปนี้ถึงเวลาของ น.ส.แพทองธารที่จะพิสูจน์ตัวเอง
ย้ำเป็นคนซื่อสัตย์เป็นที่ประจักษ์
ด้าน นายเศรษฐากล่าวว่า ตั้งแต่เข้ามาวันแรกจนถึงตอนนี้ ได้รับการตอบรับที่อบอุ่น มีความจริงใจ ยอมรับว่าอาจทำให้หลายคนไม่สบายใจบ้าง แต่เป็นเรื่องของความด้อยประสบการณ์ ไม่ได้ตั้งใจทำให้หลายคนไม่พอใจ แต่ยืนยันในเจตนารมณ์ว่าพยายามเต็มที่เพื่อให้ทุกคนยอมรับ การทำให้ทุกคนรักและพอใจเป็นเรื่องลำบาก แต่ยืนยันเรื่องว่าตั้งใจและยืนหยัดเอาประชาชนเป็นที่ตั้ง และมั่นใจว่าทุกคนรู้ว่าตนเป็นคนที่มีจริยธรรม มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ไม่ได้เรียกร้องอะไร แต่โชคดีที่พอมีสตางค์ ไม่ต้องไปประกอบอาชีพอื่น เพราะถ้าไปประกอบอาชีพอื่นคงลำบาก หากวันไหนมีเวลาว่างจะมาประชุมพรรคด้วย หรือหาก สส.คนไหนเดือดร้อน ตนมีมูลนิธิที่อาจช่วยเหลืออะไรได้บ้าง หรือเพื่อนที่เป็นนักธุรกิจยินดีช่วยหากเอ่ยปาก
ช่วยกันปกป้องไม่ให้ใครทำร้าย
นายเศรษฐากล่าวต่อว่า วันนี้เรามีนายกฯซึ่งเป็นที่รักของเราทุกคน เป็นสายเลือดของผู้นำจิตวิญญาณ ผู้ก่อตั้งพรรคมา เห็นสีหน้าและแววตาทุกคนแล้วเห็นว่าทุกคนให้การสนับสนุนเต็มที่ น.ส.แพทองธารได้รับการโปรดเกล้าฯเป็นนายกฯ ถือเป็นตำแหน่งที่มีเกียรติ กระแสแอนตี้ที่เกิดขึ้นไม่เป็นธรรม เพราะ น.ส.แพทองธารยังไม่ได้ทำอะไรเลย ขอให้ทุกคนช่วยกันปกป้อง อย่าให้ใครมากล่าวร้ายได้ มั่นใจในความมุ่งมั่นตั้งใจจริงเข้ามาทำเพื่อประชาชน และมั่นใจว่า 141 เสียงในการเลือกตั้งคราวหน้าต้องเพิ่มขึ้นอีก ย้ำว่าอยู่ข้างหลังจะช่วยเต็มที่ ไม่ต้องห่วงไม่ได้ไปไหน ช่วงนี้เป็นช่วงที่ น.ส.แพทองธารในฐานะนายกฯคนใหม่ต้องเรียนรู้ และพวกเราต้องช่วยกัน เพื่อให้คนที่เป็นทีมเราผ่านไปได้แม้จะมีปัญหาอะไรก็ตาม แต่เชื่อว่าพวกเราจะช่วยกันอย่างเต็มที่
“ปู” เป็นปลื้ม “นายกฯหลานอา”
ขณะที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายก รัฐมนตรี โพสต์รูปภาพคู่กับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ พร้อมระบุข้อความว่า “ขอแสดงความยินดีกับนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ของประเทศไทย ในฐานะอาภูมิใจมากที่หลานอาสาเข้ามารับหน้าที่และภารกิจอันยิ่งใหญ่เพื่อประเทศครั้งนี้ การเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ไทยนั้น ย่อมต้องมีความกดดันและการคาดหวังมาก โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจในช่วงนี้ แต่อาเชื่อว่านายกฯหญิงของอาเป็นคนเข้มแข็ง มีความสามารถ และเปิดกว้างพร้อมรับฟังความคิดเห็น ใส่ใจในความรู้สึกของคนรอบข้าง เราผ่านสถานการณ์ที่หนักและยากลำบากมาหลายครั้ง แต่สามารถผ่านมาได้อย่างเข้มแข็ง อาจึงเชื่อเสมอว่าปัญหาหรือสถานการณ์ในวันข้างหน้า หลานจะสามารถก้าวผ่านและประสบความสำเร็จได้อย่างแน่นอน อาขอให้นายกรัฐมนตรีหญิงของอาโชคดี ประสบความสำเร็จ นำพาบ้านเมืองของเราไปสู่ความเจริญก้าวหน้า ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น รักและห่วงใยหลานเสมอ”
บัญชี พปชร.ยังไม่ถึงมือ “หมอมิ้ง”
ช่วงเช้าที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่ได้รับมอบหมายรวบรวมรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีจากพรรคร่วมรัฐบาล กล่าวว่า มีส่งรายชื่อมาแล้ว 2 พรรค แต่ขอยังไม่เปิดเผยรายละเอียด เพราะยังไม่มีอะไรแน่นอน ส่วนพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ยังไม่ส่งมา เบื้องต้นต้องเตรียมการทั้งคนเก่าและใหม่เพื่อให้เกิดความรวดเร็ว ทางสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีประสานและตรวจเช็กในเบื้องต้น ปกติชื่อของคณะรัฐมนตรี(ครม.)ตัวจริงจะรอจนกว่ามีการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งเท่านั้น และการตรวจสอบคุณสมบัติหน้าที่หลักเป็นของเลขาธิการ ครม.ต้องไปตรวจสอบจากหลายๆหน่วยงาน รวมทั้งกฤษฎีกา หากมีข้อสงสัย เมื่อถามย้ำว่าต้องส่งประวัติตรวจสอบทุกคนเลยหรือไม่ หรือเฉพาะคนที่สงสัย นพ.พรหมินทร์ตอบว่า ปกติจะส่งตรวจสอบทุกคนอยู่แล้ว
ต้องตรวจสอบคุณสมบัติเข้มขึ้น
ผู้สื่อข่าวถามว่าจำเป็นต้องตรวจลึกลงในรายละเอียดกว่าเดิม หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้นายเศรษฐา ทวีสิน ต้องหลุดจากเก้าอี้นายกรัฐมนตรี กรณีแต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็น รมต.ประจำสำนักนายกฯใช่หรือไม่ นพ.พรหมินทร์กล่าวยอมรับว่า “ครับ” ปกติก็ต้องตรวจกันลึกอยู่แล้ว ยิ่งมีคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญออกมาแบบนี้ ต้องย้อนกลับไปตรวจสอบ ต้องเข้มงวดขึ้นเป็นพิเศษ เมื่อถามว่ามีกำหนดวันสุดท้ายที่ต้องส่งรายชื่อรัฐมนตรีหรือไม่ นพ.พรหมินทร์ตอบว่า ไม่มีเส้นตาย ถ้าไม่ส่งก็คงไม่ได้ตรวจ
“อ้วน” ขีดเส้นส่งชื่อ รมต.วันสุดท้าย
นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการรองนายก รัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ ปฏิบัติหน้าที่แทนนายก รัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่าได้ประสานให้พรรคร่วมรัฐบาลส่งรายชื่อทั้งหมดเข้ามาภายในวันนี้ และมอบหมายให้ นพ.พรหมินทร์เป็นผู้ดำเนินการ เพราะเคยทำงานร่วมกับเลขาธิการ ครม. และเลขาธิการสำนักงานกฤษฎีกา วันนี้น่าจะต้องส่งให้ครบ ต้องเสร็จภายในวันนี้ เพราะรัฐบาลต้องรีบตั้ง เนื่องจากที่ผ่านมามีข้อวินิจฉัย ดังนั้นต้องดูคุณสมบัติของรัฐมนตรีให้ละเอียด ต้องใช้เวลาตรวจสอบ 2-3 สัปดาห์ เมื่อถามว่ารายชื่อ ครม.ใหม่จะเสร็จภายในสัปดาห์นี้หรือไม่ นายภูมิธรรมปฏิเสธว่า เรื่องนี้ไม่ได้อยู่ที่ตน อยู่ที่เลขาธิการ ครม. และเลขาธิการฯกฤษฎีกาจะดำเนินการเสร็จเมื่อใด เดิมใช้เวลาเพียง 3 วัน แต่ครั้งนี้เข้มงวดขึ้นจึงต้องใช้เวลา
พปชร.ไปเคลียร์กันให้จบก่อน
เมื่อถามว่ารัฐมนตรีของพรรค พปชร.มีความชัดเจนแล้วหรือไม่ หลังมีกระแสข่าว ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ เลขาธิการพรรคพปชร. อาจไม่ได้เป็นรัฐมนตรีต่อ นายภูมิธรรมตอบว่า ยังไม่เห็นแต่ขอให้พรรค พปชร.ไปคุยกันให้จบ ตอนนี้มีคนโทร.มาหาตน 3 คน เป็นระดับแกนนำพรรค พปชร. เราไม่ก้าวล่วงเป็นเรื่องภายในพรรคพปชร. แต่ที่สำคัญต้องชัดเจน เพราะรัฐบาลต้องเป็นเอกภาพ มีกระบวนการที่ต้องร่วมมือกันทำงาน เพราะการทำงานนโยบายต้องไปด้วยกันจะไม่ปล่อยให้เป็นรูปแบบเดิม เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เป็นห่วงคุณสมบัติของ ร.อ.ธรรมนัส นายภูมิธรรมตอบว่า วันนี้ทำให้ดีที่สุด และที่ทำอยู่เวลานี้คือขอให้ไปตรวจสอบคุณสมบัติให้เข้มข้นและชัดเจน ขึ้นอยู่กับเลขาธิการ ครม. และเลขาธิการฯกฤษฎีกา
3 บิ๊กยกหูมาหาไม่รู้ต้องฟังใคร
เมื่อถามว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร. ให้สัมภาษณ์ว่าพรรคเพื่อไทยไม่เอาร.อ.ธรรมนัส นายภูมิธรรมตอบว่า เรายังไม่ได้บอกว่าจะเอาใคร ไม่เอาใคร ยังไม่มีการพูดคุยถึงตัวบุคคล เป็นเรื่องที่พรรคต้องเสนอมา ส่วนคุณสมบัติจะผ่านหรือไม่ต้องอีกเรื่องหนึ่ง เท่าที่ฟังดูทุกพรรคส่งคนที่มีคุณภาพมา ก็ชัดเจนอยู่แล้ว แต่ของพรรค พปชร.ยังมีหลายความเห็น ต้องทำให้ชัดเจนก่อน อย่างที่บอกติดต่อมาถึง 3 คน ไม่รู้ว่าต้องฟังตรงไหน เมื่อถามย้ำว่าหากมีชนักติดหลังไม่เอาเลยใช่หรือไม่ นายภูมิธรรมรีบปฏิเสธว่า “เปล่า ไม่ได้พูด ขอให้ไปตรวจสอบมา ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎหมาย” เมื่อถามถึงกระแสข่าว พล.อ.ประวิตรโทร.เคลียร์ใจกับนายทักษิณ นายภูมิธรรมปฏิเสธว่า ไม่ทราบ ต้องไปถามนายทักษิณ พล.อ.ประวิตรไม่ได้โทร.คุยกับตน เมื่อถามย้ำว่าระดับ พล.อ.ประวิตรต้องโทร.คุยกับใครในพรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรมตอบว่า แล้วแต่ท่าน อยู่ที่ว่าคุยถูกช่องหรือเปล่า หากไปคุยกับคนที่ไม่มีอำนาจ หรือไม่ได้ทำก็ไม่แน่ อยู่ที่รัฐบาลหรือนายกฯตั้งใครเป็นผู้ประสานงาน
ทาบ “เศรษฐา” ที่ปรึกษานายกฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดพรรคร่วมรัฐบาลส่งรายชื่อผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีตามโควตาเรียบร้อยแล้ว มีปัญหาแค่พรรค พปชร.เพียงพรรคเดียว ต้องรอการตัดสินใจจากผู้ใหญ่ในพรรคเพื่อไทยว่าจะดำเนินการอย่างไร มีโอกาสสูงที่จะเลือก สส.ในสายของร.อ.ธรรมนัสที่มีประมาณ 25-27 คน สำหรับรัฐมนตรีโควตาของพรรคเพื่อไทยจะมีการเปลี่ยนแปลงบางตำแหน่ง โดยนายพิชัย ชุณหวชิร ที่มีชื่อหลุด รมว. คลังไปก่อนหน้านี้ ล่าสุดยังคงดำรงตำแหน่ง รมว.คลัง แต่อาจไม่ได้ควบรองนายกฯ ขณะที่นายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย มีแนวโน้มมาดำรงตำแหน่ง รมว.ต่างประเทศ นอกจากนี้ น.ส.แพทองธารมีแนวคิดจะทาบทามนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯมาเป็นประธานที่ปรึกษาของนายกฯแต่ต้องรอดูว่านายเศรษฐาจะตอบรับหรือไม่
“ผู้กอง” ลั่นประกาศอิสรภาพ
ด้าน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์กรณีมีชื่อหลุดจากรัฐมนตรี โดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค ระบุพรรคแกนนำรัฐบาลไม่เอาว่า สื่อไปปลุก พล.อ.ประวิตรขึ้นมาสัมภาษณ์หรือไม่ หลับอยู่หรือเปล่า เมื่อถามว่าได้พูดคุยกันหรือยัง ร.อ.ธรรมนัสตอบว่า เพิ่งกลับมาจาก จ.พะเยา จัดงานวันคล้ายวันเกิด ยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในพรรค พปชร. “แต่อยากบอกว่าผมไม่ทะเลาะกับใคร ประสบการณ์ 6 ปีที่ผ่านมา ผมรับใช้บุคคลคนหนึ่ง พรรค พรรคหนึ่งมามากพอสมควรแล้ว ถึงเวลาที่ผมต้องเดินออกมาแบบไม่ทะเลาะกับใคร” เมื่อถามว่าจะไปอยู่พรรคใหม่ใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสตอบว่า “ชีวิตผมไม่จำเป็นต้องไปอยู่ที่ไหน และชีวิตผมไม่จำเป็นต้องฝากไว้กับการเป็นนักการเมือง ปี 2561 ผมเข้าเวทีการเมืองด้วยความบังเอิญ แล้วมาสร้างพรรค พปชร.กับพี่น้องนายร้อย จปร.หลายคน ซึ่งเกษียณไปหมดแล้วเหลือผมคนเดียว ดังนั้น วันนี้คงถึงเวลาที่ผมต้องประกาศความเป็นอิสรภาพของผมเอง”
เมื่อไม่ใช้ก็ไม่คุยกับ “ลุงป้อม”
ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า เราต้องเคารพในการตัดสินใจของผู้นำรัฐบาล ไม่ใช่คิดจะเสนอชื่อใครแล้วผู้นำรัฐบาลต้องเอาตามนั้น กรณีที่เกิดขึ้นกับนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ การเมืองเป็นเรื่องละเอียดอ่อน จะทำอะไรเราต้องคิดถึงบ้านเมืองเป็นหลัก อย่าหลงอำนาจจนไม่ลืมหูลืมตา ไม่รู้จักความชั่วดี บ้านเมืองบอบช้ำมามากพอแล้ว อย่าให้เกิดความแตกแยกอีกเลย ตลอดระยะเวลาที่ทำหน้าที่ รมว.เกษตรฯ เดือนที่ 12 สื่อก็เห็นว่าใครทำงานให้บ้านเมืองและประชาชน หลังจากนี้ตนกับกลุ่มพี่น้องพร้อมจะไปไหนก็ได้ที่มีความสุข ไม่แสวงหาความทุกข์เข้าตัวตัวเอง เมื่อถามว่าคุยกับ พล.อ.ประวิตรแล้วใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสตอบหนักแน่นว่า “ไม่คุยครับ คุยทำไม เมื่อท่านไม่ใช้ผมแล้ว ผมก็ไม่จำเป็นต้องคุย หากพรรคไม่ขับออกก็อยู่กันอย่างนี้”
เคยรักมากแต่วันนี้ขอพอแค่นี้
เมื่อถามว่าแตกหักกับ พปชร.ใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสตอบว่า ไม่ใช่แตกหัก ไม่ทะเลาะกับใคร “สื่อคงเห็นสมัยรัฐบาลที่แล้ว ผมก็รักคนคนหนึ่งมาก ใช้ให้ผมไปตายผมก็ไปตาย ท้ายสุดผมก็ประสบอุบัติเหตุ ทางการเมือง คือผมว่าผมพอแล้ว ที่ พล.อ.ประวิตรให้สัมภาษณ์ไปไม่ได้ถามผม ไม่ได้คุยอะไรกัน ผมไม่ได้แตกหักนะ ต้องยืนยันผมไม่ได้แตกหักจากหัวหน้า แต่ผมอยากใช้ชีวิตให้มันสงบสุข ผมคุยกับคนในครอบครัวแล้ว ผมพอแล้ว” เมื่อถามว่าทำใจแล้วใช่หรือไม่ถ้าต้องหลุด รมว.เกษตรฯ ร.อ.ธรรมนัสย้อนถามว่า “อย่างนั้นเหรอ”
เป็นคนดีลกับเพื่อไทยมาตลอด
ร.อ.ธรรมนัสกล่าวอีกว่า เรื่องคุณสมบัติตัวเราเองต้องรู้ตัว เราเป็นนักการเมืองต้องพร้อมถูกตรวจสอบ อย่าไปคิดทางลบจนทำให้ตัวเองเป็นทุกข์ ทำให้คนในครอบครัวเป็นทุกข์ เมื่อถามว่ามีการระบุ ร.อ.ธรรมนัสคุยตรงกับนายทักษิณ ร.อ.ธรรมนัสตอบว่า อยู่ในสังคมชีวิตการเมือง เกิดมาจากพรรคไทยรักไทย (ทรท.) พี่น้องตนก็อยู่กันเยอะมาจนถึงทุกวันนี้ เมื่อถามว่าที่ผ่านมาเป็นคนประสานกับพรรค พท.มาตลอด แต่การที่ พล.อ.ประวิตรระบุเช่นนี้ พรรค พท.จะฟังหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสตอบว่า ถามเขาหรือยังล่ะ หมายถึงว่าได้คุยกันหรือยังกับทางรัฐบาล ได้คุยกับแกนนำพรรคจัดตั้งรัฐบาลหรือยัง ส่วนตนได้คุยกับทุกคน
แซะ “ลุง” ฝันต่อสายถึง “ทักษิณ”
ผู้สื่อข่าวถามว่า พล.อ.ประวิตรโทร.เคลียร์ใจนายทักษิณจริงหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสตอบว่า ถึงถามสื่อว่าฝันไปหรือเปล่า เมื่อถามว่ารายชื่อที่พรรค พปชร.ส่งไปไม่ใช่แค่ชุดเดียวใช่หรือไม่ เลขาธิการพรรค พปชร. ตอบว่า ขอเลือกไม่ทะเลาะกับใคร ไม่ทราบ เมื่อถามว่ามีจำนวน สส.มากกว่าของ พล.อ.ประวิตรใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสตอบว่า เดี๋ยวบ่ายนี้ก็รู้มีกี่คน นัดทานข้าวกันที่กระทรวงเกษตรฯ “เอาเป็นว่าเราแยกออกมาให้มันชัดเจนไปเลยว่าจะอยู่อย่างไรกัน แต่ผมจะไม่ทำลายบ้านเมือง และทำลายรัฐบาล”
รับใช้พอแล้วต่างคนต่างอยู่
ต่อมาเวลา 11.45 น. หลังประชุม ครม. ร.อ.ธรรมนัสเดินออกจากลิฟต์มาพร้อมนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.สาธารณสุข นายอรรถกร ศิริลัทยากร รมช.เกษตรและสหกรณ์ ก่อนแยกย้าย ร.อ.ธรรมนัสกล่าวย้ำกับนายสันติว่า “เดี๋ยวเจอกันนะ” ผู้สื่อข่าวถามว่ามีการเคลียร์ใจกับนายสันติหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสตอบว่า เราไม่ได้มีแผลถึงขนาดต้องเคลียร์กัน เมื่อถามว่ายังอยู่กับพรรค พปชร.ใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสตอบว่า ตนพอแล้ว เมื่อถามย้ำว่า พอแล้วทางการเมือง หรือพอแล้วกับ พล.อ.ประวิตร ร.อ.ธรรมนัสตอบว่า “ผมรับใช้ท่านมานาน จะอยู่กันไปแบบนี้จนกว่าจะหมดวาระ ต่างคนต่างอยู่ ยืนยันไม่ได้ทะเลาะกับใคร เพราะบทเรียนในรัฐบาลชุดที่แล้วสอน เราไม่ทะเลาะ กับพี่กับน้อง ไม่ฆ่าน้องฟ้องนายขายเพื่อนเด็ดขาด ผมรักใครก็รักเกินไปจนลืมดูตัวเองและครอบครัว บทเรียนทำให้ครอบครัวเราต้องลำบาก ครั้งนี้จึงเลือกไม่ทะเลาะกับใครยอมถอยออกมาอยู่ในที่ของตัวเอง ครั้งนี้ได้บอกกับนายสันติว่า ท่านก็เดินของท่านไป ผมก็อยู่ของผมเราไม่ได้ทะเลาะกัน”
“ไผ่” ประกาศกลุ่มนี้ร่วมรัฐบาล
กระทั่งเวลา 15.00 น. ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร พรรค พปชร. นำ สส.พปชร.จำนวนหนึ่งแถลงข่าวให้กำลังใจ ร.อ.ธรรมนัส นายไผ่กล่าวว่า มาให้กำลังใจ ร.อ.ธรรมนัส แต่เพิ่งนัดกันเมื่อ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา เพิ่งแจ้งกัน เช่น นายเพชรภูมิ อาภรณ์รัตน์ สส.กำแพงเพชร และมีหลายคนกำลังเดินทาง สรุปตรงกันว่าพวกเราจะเข้าร่วมรัฐบาลแน่นอนกับพรรคเพื่อไทย ในพื้นที่ต้องการงบประมาณและนโยบายดีๆ เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยบอกไหมว่าจะให้ตำแหน่งกลุ่ม พล.อ.ประวิตรหรือกลุ่มนี้ นายไผ่ตอบหนักแน่นว่า “ให้กลุ่มนี้ครับ ผมให้ข่าวมาไม่เคยผิดนะ วันนี้ชัดเจนแล้ว ณ เวลา 15.15 น. กลุ่มนี้เราเป็นรัฐบาล ในการนำของนายกฯแพทองธาร ชินวัตร ไม่มีอะไรชัดกว่านี้แล้ว” จากนั้น ร.อ.ธรรมนัสเดินทางมาพร้อมกับนายอรรถกร ศิริลัทธยากร รมช.เกษตรฯ โดยนายไผ่เป็นตัวแทน สส.มอบช่อดอกไม้เป็นกำลังใจ ร.อ.ธรรมนัส ขณะที่นายสัมพันธ์ มะยูโช๊ะ สส.นราธิวาส มอบช่อดอกไม้ให้นายอรรถกร นายอรรถกรกล่าวยืนยันว่า ตนและ ร.อ.ธรรมนัสทำงานในทิศทางเดียวกัน
“ธรรมนัส” ระดมพลได้ 34 เสียง
ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า พี่น้องที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาที่เป็น สส.ทั้งจากกำแพงเพชร เพชรบูรณ์ ราชบุรี นราธิวาส สงขลา ชัยภูมิ ร้อยเอ็ด พะเยา กาฬสิน ชลบุรี แม่ฮ่องสอน ตากและเชียงใหม่ ชัดเจนว่าเรารักกันและไปด้วยกัน มีที่กำลังเดินทางอีก 6-7 คนรวมแล้ว สส.พปชร.อยู่ตรงนี้ 22 คน อยู่ระหว่างเดินทาง 7 คน รวมทั้งนางวันเพ็ญ พร้อมพัฒน์ ภรรยานายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.สาธารณสุข รองหัวหน้าพรรค พปชร. ยังมี สส.พรรคเล็กอีก 5 คน รวมเป็น 34 คน งวดนี้ออก 34 ผู้สื่อข่าวถามว่าเห็นนายไพบูลย์ นิติตะวัน คนใกล้ชิด พล.อ.ประวิตรมาที่นี่ มาเป็นตัวแทนเพื่อเจรจาหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสตอบว่า มาให้กำลังใจมาคุย บอกไปว่าไม่ได้ตั้งป้อมทะเลาะกับใคร ขอทำตามจุดยืน อยู่มาตั้งแต่พรรคยังเป็นวุ้น ร่วมสร้างพรรคมา เป็นประธานดูแลเลือกตั้งภาคเหนือทำดีที่สุดแล้ว ส่วนชื่อคนจะมาเป็นรัฐมนตรี พรุ่งนี้ 08.30 น. รู้เอง ส่งชื่อไปแล้ว ที่ผ่านมาเป็นผู้ประสานงานกับพรรคร่วมรัฐบาลแต่เพียงผู้เดียว และเชื่อว่า สส.พปชร.ที่กำลังดูอยู่ไม่มีใครอยากเป็นฝ่ายค้าน ลงพื้นที่เหนื่อย
“ลุงป้อม-ผู้กอง” ไล่เช็กเรียงตัว
ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรค พปชร.ว่า หลังจากร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรฯ เลขาธิการพรรค พปชร. ประกาศอิสรภาพปลดแอกจาก พล.อ.ประวิตร มีการเปิดเผยรายชื่อในกลุ่มรวม 18 สส. ประกอบด้วย 1.นายอัครแสนคีรี โล่ห์วีระ สส.ชัยภูมิ 2.นายคอซีย์ มามุ สส.ปัตตานี 3.นางบุญยิ่ง นิติกาญจนา สส.ราชบุรี 4.นายจตุพร กมลพันธ์ทิพย์ สส.ราชบุรี 5.นายชัยทิพย์ กมลพันธ์ทิพย์ สส.ราชบุรี 6.นายอนุรัตน์ ตันบรรจง สส.พะเยา 7.นายจีรเดช ศรีวิราช สส.พะเยา 8.นายฉกาจ พัฒนกิจวิบูลย์ สส.พังงา 9.นายชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว สส.สงขลา 10.นายทวี สุระบาล สส.ตรัง 11.นายนเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ สส.เชียงใหม่ 12.นายปกรณ์ จีนาคำ สส.แม่ฮ่องสอน 13.นายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร 14.นายเพชรภูมิ อาภรณ์รัตน์ สส.กำแพงเพชร 15.นายภาคภูมิ บูลย์ประมุข สส.ตาก 16.นายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ สส.นราธิวาส 17.นายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ สส.นราธิวาส และ 18.นายอรรถกร ศิริลัทธยากร สส.ฉะเชิงเทรา
25 สส.ตบเท้าพรึบเข้าป่ารอยต่อ
ขณะที่ฝั่ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร. ได้ให้ พล.อ.กฤษณ์โยธิน ศศิพัฒนวงษ์ นายทะเบียนพรรค โทรศัพท์เช็กรายชื่อ สส.หลังมี สส. 5 คน ไปมีชื่ออยู่ในบัญชีของกลุ่ม ร.อ.ธรรมนัส เดินทางมาพบ พล.อ.ประวิตรที่มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ประกอบด้วย นายคอซีย์ มามุ นายเพชรภูมิ อาภรณ์รัตน์ นายทวี สุระบาล นายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ และนายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ ทำให้กลุ่ม ร.อ.ธรรมนัสเหลือ สส. 13 คน ส่วนกลุ่ม พล.อ.ประวิตร มี 25 คน ประกอบด้วย 1.พล.อ.ประวิตร 2.นายสถิระ เผือกประพันธ์ สส.ชลบุรี 3.นางขวัญเรือน เทียนทอง สส.สระแก้ว 4.นางตรีนุช เทียนทอง สส.สระแก้ว 5.น.ส.กาญจนา จังหวะ สส.ชัยภูมิ 6.นายจำลอง ภูนวนทา สส.กาฬสินธุ์ 7.นายกระแสร์ ตระกูลพรพงศ์ สส.หนองคาย 8.นายไชยมงคล ชัยรบ สส.สกลนคร 9.นายวิริยะ ทองผา สส.มุกดาหาร 10.น.ส.พิมพ์พร พรพฤฒิพันธุ์ สส.เพชรบูรณ์ 11.นายจักรรัตน์ พั้วช่วย สส.เพชรบูรณ์ 12.นายบุญชัย กิตติธาราทรัพย์ สส.เพชรบูรณ์ 13.นายวรโชติ สุคนธ์ขจร สส.เพชรบูรณ์ 14.นายอัคร ทองใจสด สส.เพชรบูรณ์ 15.นายเพชรภูมิ อาภรณ์นวรัตน์ สส.กำแพงเพชร 16.นายอนันต์ ผลอำนวย สส.กำแพงเพชร 17.นายปริญญา ฤกษ์หร่าย สส.กำแพงเพชร 18.นายสุธรรม จริตงาม สส.นครศรีธรรมราช 19.นายฉกาจ พัฒนกิจวิบูลย์ สส.พังงา 20.นายทวี สุระบาล สส.ตรัง 21.นายคอซีย์ มามุ สส.ปัตตานี 22.นายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ สส.นราธิวาส 23.นายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ สส.นราธิวาส 24.นายโชติวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ สส.สิงห์บุรี และ 25.นายองอาจ วงษ์ประยูร สส.สระบุรี
ผัว-เมีย “พร้อมพัฒน์” แยกกันเดิน
ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่านายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรค พปชร. เข้าพบ พล.อ.ประวิตร ที่มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ขณะที่นางวันเพ็ญ พร้อมพัฒน์ สส.เพชรบูรณ์ ภรรยานายสันติ นำทีม สส.เพชรบูรณ์ ได้แก่ นายบุญชัย กิตติธาราทรัพย์ นายวรโชติ สุคนธ์ขจร และนายอัคร ทองใจสด มาให้กำลังใจและทานมื้อเที่ยงกับ ร.อ.ธรรมนัส ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
“หนู” ส่งชื่อ รมต.ภท.เรียบร้อย
ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รักษาการรองนายกฯและ รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวว่า เพิ่งให้ น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทย และนายทะเบียนสมาชิกพรรค ภท. นำรายชื่อรัฐมนตรีส่งให้ผู้บริหารพรรคเพื่อไทย เมื่อถามว่าเป็นชื่อและตำแหน่งรัฐมนตรีเดิมใช่หรือไม่ นายอนุทินตอบว่า เราต้องส่งรายชื่อให้นายกฯพิจารณา ไม่สมควรหากเปิดเผยอะไรก่อน แต่ไม่กังวลเรื่องการตรวจสอบคุณสมบัติที่เข้มข้นกว่าเดิม ถือเป็นเรื่องดีตรวจเช็กสุขภาพไปในตัว เมื่อถามว่ากรณีนายชาดา ไทยเศรษฐ์ รักษาการ รมช.มหาดไทย ต้องตรวจคุณสมบัติอะไรพิเศษหรือไม่ นายอนุทินตอบว่า นายชาดาเป็นรัฐมนตรีมา 1 ปีแล้ว เป็น สส.มากี่สมัยแล้ว เราต้องใช้เอกสารหลักฐานข้อเท็จจริงที่พิสูจน์ได้ หากไปใช้ความรู้สึกก็ไม่ควร การชี้แจงใดไม่มีอะไรดีเท่าเอกสารถือว่าจบ
“ชาดา” ย้อนไม่เคยผิดจริยธรรม
นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รักษาการ รมช.มหาด ไทย กล่าวว่า เรื่องตำแหน่งแล้วแต่พรรค ส่วนกระแสข่าวเรื่องคุณสมบัติ อยากถามข่าวมาจากไหน มาจากสื่อทั้งสิ้น และที่ไม่ได้ไปร่วมพิธีรับสนองพระบรม ราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้ง น.ส.แพทองธาร เพราะว่าป่วย กลายเป็นการไปตีความกัน เรื่องนี้หัวหน้าพรรคได้บอกแล้ว ทุกอย่างของพรรคภูมิใจไทยเหมือนเดิม แค่นั้น เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำถึงเรื่องคุณสมบัติ นายชาดาย้อนถามว่า “คุณสมบัติของผมไม่พร้อมตรงไหน ผมไม่ได้มีคดีหรือมีอะไร มีคดีก็ชนะหมด ตรวจสอบไปแล้วครั้งหนึ่ง หน้าตาผมคุณสมบัติไม่ดีหรือ ทุกอย่างเป็นไปตามการเมือง มาแล้วก็ต้องไปไม่ได้กังวลอะไรเลย ที่พรรคใช้งาน หัวหน้าจะใช้งานหรือไม่ และอยู่ที่นายกฯจะเป็นผู้พิจารณาทั้งหมด และผมไม่เคยไปผิดจริยธรรมที่ไหน จริยธรรมมันเป็นนามธรรม ยืนยันว่าไม่เคยผิดจริยธรรมที่ไหน”
“สุทิน” ไม่รู้ชะตาเก้าอี้กลาโหม
นายสุทิน คลังแสง รักษาการ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกระแสข่าวอาจหลุดจากเก้าอี้ รมว.กลาโหมว่า ไม่เป็นไร เมื่อถามว่าได้พูดคุยกับนายทักษิณหรือไม่ นายสุทินตอบว่า ยังไม่คุยและก็ยังไม่ควร รวมไปถึงยังไม่ได้พูดคุยกับ น.ส.แพทองธาร ยังมั่นใจการทำงาน เมื่อถามย้ำว่ายังมั่นใจหรือไม่ว่าไม่หลุดตำแหน่ง รมว.กลาโหม นายสุทินตอบว่า ไม่รู้ ก่อนขอตัวขึ้นลิฟต์
“ปกรณ์” รับร่วม สลค.ตรวจสอบ
นายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ให้สัมภาษณ์ถึงการตรวจสอบรายชื่อผู้ที่จะมาเป็นรัฐมนตรี โดยเฉพาะรายชื่อที่กังวลเรื่องคุณสมบัติว่า ยังไม่มีส่งมา เมื่อถามว่าเท่าที่ดูตามข่าวมีบุคคลที่สุ่มเสี่ยงหรือไม่ นายปกรณ์ไม่ตอบคำถาม เมื่อถามว่ามีการห้ามพูดหรือไม่ นายปกรณ์ตอบว่า ไม่มีการห้ามพูด เมื่อถามว่ากระบวนการตรวจสอบจะใช้เวลานานหรือไม่ นายปกรณ์ตอบว่า ถือเป็นครั้งแรกที่คณะกรรมการกฤษฎีกาต้องตรวจสอบ ปกติสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) จะเป็นผู้ตรวจสอบ
ประชุม สส.ปชป.เหงาไร้เงา หน.
ช่วงบ่ายที่พรรคประชาธิปัตย์มีการประชุมสส.พรรคประจำสัปดาห์ เป็นที่สังเกตว่ามี สส. เข้าประชุมบางตา รวมถึงนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้า พรรค ปชป. นายเดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรค ไม่ได้เข้าประชุม แม้จะเดินทางเข้ามาที่ทำการพรรคตั้งแต่ช่วงสาย และได้เดินทางออกจากพรรคก่อนเที่ยง โดยไม่ได้แจ้งเจ้าหน้าที่พรรคว่าจะกลับมาร่วมประชุมกับ สส.หรือไม่ ขณะที่นายบัญญัติ บรรทัดฐาน สส.บัญชีรายชื่อ เดินทางเข้ามาประชุม แต่ปฏิเสธให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวพรรค ปชป.เตรียมเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย
“ชวน” ย้ำจุดยืนไม่ร่วมรัฐบาล
นายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสข่าวพรรค ปชป.จะร่วมรัฐบาลพรรคเพื่อไทยว่า ยังไม่มีมติพรรค แต่กลับมีการนำเสนอข่าวว่าเป็นเหมือนพรรคสำรอง พรรคอะไหล่รอเสียบ ทำให้ผู้ที่สนับสนุนพรรคเสียใจ อยากให้แยกแยะระหว่างพฤติกรรมของพรรค กับพฤติกรรมของคนบางคน จุดยืนส่วนตัวคือไม่ร่วมรัฐบาลตั้งแต่ต้น เพราะไม่อยากถูกประณามว่าทรยศชาวบ้าน
“พรหมินทร์-วิสุทธิ์” นั่งเก้าอี้เดิม
เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุม 501 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีรัฐมนตรีเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง เสร็จสิ้นในเวลา 10.55 น. โดยที่ประชุม ครม.มีมติ อาทิ รับทราบแต่งตั้งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วิปรัฐบาล) ชุดใหม่ให้นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ เป็นประธานวิปรัฐบาล มีมติเห็นชอบแต่งตั้ง นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เป็นเลขาธิการนายกฯ นายธิติวัฐ อดิศรพันธ์กุล เป็นรองเลขาธิการนายกฯ (ทำหน้าที่เลขานุการรองนายกฯ นายภูมิธรรม) นายศึกษิษฏ์ ศรีจอมขวัญ รองเลขาธิการนายกฯ (เลขานุการรองนายกฯ นายสุริยะ จึงรุ่ง เรืองกิจ) นายพงศ์ศรัณย์ อัศวชัยโสภณ รองเลขาธิการนายกฯ (เลขานุการรองนายกฯนายพิชัย ชุณหวชิร) นายรังสรรค์ วันไชยธนวงศ์ รองเลขาธิการนายกฯ (เลขานุการรองนายกฯ นายอนุทิน ชาญวีรกูล) พล.ต.ท.อภิรัต นิยมการ รองเลขาธิการนายกฯ (เลขานุการรองนายกฯ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ) และนายชื่นชอบ คงอุดม รองเลขาธิการนายกฯ (เลขานุการ รองนายกฯ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค)
ปชช.บี้ “อิ๊งค์” เข้าสภาตอบกระทู้
นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชช.) กล่าวว่า การประชุมสภาฯวันที่ 22 ส.ค. ยังไม่มีวาระกระทู้ถามสดต่างๆ ต้องรอ ครม.ชุดใหม่แถลงนโยบายต่อรัฐสภาก่อน แต่หวังว่านายกฯใหม่จะมาตอบกระทู้ด้วยตัวเองเพื่อยึดโยงสภาฯให้ สส.ตรวจสอบการทำงาน ส่วนตำแหน่งรองประธานสภาฯคนที่ 1 ที่ยังว่างอยู่ควรมีโดยเร็ว มี 2 คนทำงานหนัก พรรค ปชช.ยังไม่ได้ตัดสินใจ 100% ส่งคนชิงตำแหน่ง จะส่งใครยังไม่ได้สรุป ตอนนี้เหลือ 3-4 ชื่อ ที่หยิบมาคุยกันในวงของ สส.การส่งชื่อแข่งกับพรรคร่วมรัฐบาลเป็นจุดยืนปกติ
แซวอาจได้เป็นฝ่ายค้านกับ พปชร.
นายปกรณ์วุฒิยังกล่าวถึงกระแสที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) จะไปร่วมรัฐบาลว่า พรรค ปชป.ยืนยันยังเป็นฝ่ายค้าน กระแสที่ออกมาไม่ทราบข้อเท็จจริง เมื่อถามว่านายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรค ปชป. ระบุยังไม่ปิดทางร่วมรัฐบาล พรรค ปชช.จะถูกโดดเดี่ยวหรือไม่ นายปกรณ์วุฒิตอบว่า ฝ่ายค้าน คือ พรรคที่ไม่ถูกเชิญร่วมรัฐบาล เราอาจร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ก็ได้ ไม่ได้หนักใจแค่เลือกตั้งแล้วไม่ถูกโดดเดี่ยวจากประชาชนก็พอ ส่วนกรณีพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) โหวตเลือกน.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกฯ ได้คุยแล้วกับคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรค ทสท.ขอให้ สส.พรรค ทสท.ลดบทบาทฝ่ายค้าน และนายฐากร ตัณฑสิทธิ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรค ทสท.จะลาออกจากประธานกรรมาธิการ (กมธ.) อุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม แต่นายฐากรยืนยัน ไม่มีเจตนาจะไปร่วมรัฐบาล ตนในฐานะวิปไม่อยากผลักใครไปจากฝ่ายค้านถ้าพฤติกรรมไม่บ่งชัด
สภาฯห้อยระฆังรับร้องทุกข์
ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาว่า สภาผู้แทนราษฎร ได้ตั้งศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์อย่างไม่เป็นทางการ ที่หน้าอาคารรัฐสภา ฝั่งวัดแก้วฟ้า นำระฆังขนาดใหญ่มาแขวนไว้หน้าศูนย์ฯให้เป็นที่สะดุดตา โดยเป็นดำริของนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯคนที่ 2 มีเจ้าหน้าที่คอยรับเรื่องอำนวยความสะดวกให้ประชาชนไม่จำเป็นต้องมายื่นเรื่องที่จุดยื่นหนังสือ บริเวณศาลาแก้ว ภายในอาคารรัฐสภา โดยเฉพาะในวันประชุมทุกวันพุธ-พฤหัสบดี แต่ยังเปิดให้ยื่นหนังสือที่ศาลาแก้วเพื่อแถลงข่าวได้ตามปกติ แต่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า การนำระฆังดังกล่าวมาติดตั้งเหมือนย้อนยุคไปในสมัยพ่อขุนรามคำแหงสวนทางและย้อนแย้งกับนโยบาย smart parliament ในยุคของนายชวน หลีกภัย เป็นประธานสภาฯ
กมธ.ชงแก้กฎทำประชามติ
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในที่ประชุมสภาผู้แทน ราษฎร วันที่ 21 ส.ค. มีวาระพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ที่ กมธ.วิสามัญฯแก้ไขเนื้อหา 7 มาตราจากเดิม 9 มาตรา สาระสำคัญที่แก้ไขคือ 1.กำหนดเงื่อนไขเวลาทำประชามติที่เป็นวันเดียวกับการเลือกตั้ง สส.หรือการเลือกตั้งท้องถิ่นแต่ต้องไม่เร็วกว่า 60 วัน และไม่ช้ากว่า 150 วันนับจากวันที่รับแจ้งจากประธานรัฐสภา 2.เพิ่มเติมกรณีประชาชน 5 หมื่นชื่อยื่นเรื่องต่อ ครม. ให้พิจารณา ทำประชามติ ให้ทำผ่านระบบสื่ออิเล็กทรอนิกส์ได้ และ 3.เกณฑ์การผ่านประชามตินอกจากเป็นเสียงข้างมากของผู้มาออกเสียงแล้วต้องมีคะแนนสูงกว่าคะแนนงดออกเสียง ขณะเดียวกัน กมธ.ได้เพิ่มเนื้อหาใหม่ โดยกำหนดรายละเอียดให้เผยแพร่ และจัดทำข้อมูลนำเสนอต่อประชาชนก่อนการออกเสียงให้เข้าใจรายละเอียดที่ถูกต้อง ไม่ชี้นำให้ออกเสียงเห็นชอบ หรือไม่เห็นชอบ
อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่