สองวันก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีมติเรื่องความผิดในการแต่งตั้งพิชิต ชื่นบาน เป็น รมต.สำนักนายกฯ
เหล่า บก.อาวุโสจากหลายสำนักพิมพ์มีโอกาสไปทานข้าวเย็นกับอดีตนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน โดยไม่รู้เลยว่า กาลต่อมาเขาจะถูกตัดสินอย่างไม่เป็นธรรม และค่อนข้างมีอคติให้พ้นจากตำแหน่งหน้าที่ที่แบกรับภาระหนักอึ้งอยู่มากมายบนบ่า เหมือนการเปลี่ยนแม่ทัพกลางสมรภูมิรบ ยังไงยังงั้น
เหตุที่พวกเราเชื่อตลอดว่าเขาจะรอดพ้นจากความผิดในเรื่องนี้ ก็เพราะมีอดีตปรมาจารย์ตุลาการท่านหนึ่ง ให้ความเห็นว่าแม้รัฐธรรมนูญจะมีหลายมาตราให้ต้องตีความเรื่องคุณสมบัติของบุคคลที่จะแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรี
แต่ก็ยังมีเหตุผลสำคัญที่ต้องพิจารณาร่วมกันไป นั่นก็คือควรให้เขาทำงานต่อหรือไม่ โดยเฉพาะงานแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่กำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม
ส่วนประเด็นที่คุยกันระหว่างทานข้าวเย็นวันนั้นก็มีแต่เรื่องสำคัญเร่งด่วนที่ต้องแก้ปัญหาในทันที
เรื่องแรกคือ เรียกประชุมหน่วยงานเกี่ยวข้องของกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการคลัง กระทรวงอุตสาหกรรม และสำนักงานคณะกรรมการ อย.
เพื่อให้หน่วยงานต่างๆ นำเสนอมาตรการแก้ไขปัญหาแพลตฟอร์มซื้อขายสินค้าออนไลน์ใหญ่จากจีนที่ชื่อ TEMU ซึ่งเข้ามารุกตลาดในประเทศไทยโดยการนำเสนอสินค้าราคาถูกจากโรงงานในประเทศจีนส่งเข้ามา
TEMU เคยขย่มตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคในสหรัฐฯจนเจ๊งกันระนาวมาแล้ว และสั่นสะเทือนตลาดในหลายประเทศของเอเชีย ยิ่งกว่าแพลตฟอร์มออนไลน์ของ Lazada มาก
แต่การประชุมวันนั้นต้องยุติไป เพราะเศรษฐาถูกตัดสินให้พ้นตำแหน่งนายกฯ ก่อนถึงกำหนดนัดในเวลา 16.00 น.
ยังมีอีก 3 เรื่องสำคัญที่อดีตนายกฯ กำชับว่า ต้องรีบทำให้เสร็จ หลังหมดวาระกับศาลรัฐธรรมนูญ คือ โครงการเติมเงิน 10,000 บาท จากกระเป๋าเงินดิจิทัล ซึ่งน่าจะกลับมาพิจารณาใหม่ว่าทำอย่างไรให้จ่ายเงินคนให้เร็วกว่าเป้าหมายเดิมที่กำหนดไว้ในเดือน ธ.ค.67
...
2.คือ โครงการเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ และกาสิโนที่จะเปิดขายใบอนุญาตให้แก่นักลงทุนรายใหญ่ อดีตนายกฯ เศรษฐาเปิดเผยวันนั้นว่า เขามีนัดกับ เนวิน ชิดชอบ พ่อใหญ่บุรีรัมย์ แห่ง พรรคภูมิใจไทย ว่า จะต้องไปรับฟังข้อทักท้วงจากพ่อใหญ่จะได้เอามาปรับแก้ไขให้ตรงจุด
ข้อสุดท้ายคือ พื้นที่ทับซ้อนทางทะเลระหว่างไทย-กัมพูชา (OCA : Over lapping claims areas) แหล่งพลังงานที่เป็นเสมือนขุมทรัพย์ของไทย-กัมพูชาที่เจรจากันไว้นานแล้ว แต่ไม่ขับเคลื่อนไปไหน ถ้าลงนามแบ่งสมบัติกันคนละครึ่งในวันนี้พรุ่งนี้ได้ ประเทศไทยจะได้เงินสูงถึง 10 ล้านล้านบาท และผลประโยชน์นี้จะทำให้ราคาค่าไฟฟ้าต้องปรับลงทันที
อดีตนายกฯ เศรษฐาอาจขี้หงุดหงิด และเอ๊ะกับเรื่องต่างๆ ที่ไม่ขับเคลื่อนเหมือน CEO ทั่วๆ ไป แต่เขาเป็นนายกรัฐมนตรีที่มุ่งมั่นตั้งใจในการทำงานหนัก ตรงไปตรงมา ให้เกียรติเสมอกับพรรคร่วมรัฐบาล และคนทำงานด้วยกัน
ที่สำคัญคือ เขาเป็นลูกมีพ่อมีแม่ที่ได้รับการเลี้ยงดูมาอย่างดีจากคนในตระกูลเก่าแก่ มีความซื่อสัตย์ สุจริต และมีจริยธรรม...โชคไม่ดีของประเทศไทยที่คนอย่างเขาต้องพ้นไปจากตำแหน่งหน้าที่ก่อนเวลาอันควร.
มิสไฟน์
คลิกอ่านคอลัมน์ “กระจก 8 หน้า” เพิ่มเติม