คณะรัฐมนตรี ชุด “แพทองธาร” ยังยึดโครงเดิมเปลี่ยนเท่าที่จำเป็น หวั่นซ้ำรอยต้องตรวจประวัตินานขึ้น “สุทิน-พิชัย-จักรพงษ์” เสี่ยงหลุดสูง “สรวงศ์-ธีรรัตน์-ขัตติยา” ชื่อติดโผ ดัน “เอกนัฏ” เข้าเป็นรมต.แทน “ปุ้ย พิมพ์ภัทรา” ข่าวแรง “พัชรวาท” หลุดแน่
วันที่ 16 ส.ค. 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคเพื่อไทยว่า หลังจาก น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ได้รับการโหวตเป็นนายกฯ คนที่ 31 และเตรียมเข้าพิธีรับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 วันอาทิตย์ที่ 18 ส.ค. นี้ จำเป็นต้องฟอร์มคณะรัฐมนตรีกันใหม่ โดยคณะรัฐมนตรีของ น.ส.แพทองธาร นั้นจะยังคงยึดคณะรัฐมนตรีชุดเดิมของ นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ จำนวนโควตารัฐมนตรีของแต่ละพรรคร่วมรัฐบาลยังคงเหมือนเดิม แต่ถ้าจะปรับเปลี่ยนบุคคลก็ให้เป็นเรื่องภายในของพรรคนั้นๆ เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่น้อยที่สุด เพื่อจะได้เดินหน้างานอย่างต่อเนื่อง โดยโควตาที่วางไว้ก่อนหน้านั้นจากจำนวนเก้าอี้นายกฯ และรัฐมนตรีรวมกันไม่เกิน 35 เก้าอี้ พรรคเพื่อไทยได้รับ 17 เก้าอี้ คือเก้าอี้นายกฯ และเก้าอี้รมว.รวม 9 ที่นั่ง เก้าอี้ รมช. รวม รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รวม 8 ที่นั่ง พรรคภูมิใจไทยได้รับโควตา 8 รมว. 4 รมช. 4 รวมไทยสร้างชาติ 4 เก้าอี้ คือ รมว. 2 รมช. 2 พลังประชารัฐ 4 เก้าอี้ คือ รมว. 2 รมช. 2 พรรคประชาชาติ 1 รมว. พรรคชาติไทยพัฒนา 1 รมว.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการปรับเปลี่ยนเบื้องต้นในส่วนของพรรคเพื่อไทยอาจมีการปรับไม่กี่ตำแหน่งเพื่อให้การทำงานต่อเนื่อง โดยชื่อที่จะถูกปรับออก อาทิ นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รมช.มหาดไทย เนื่องจากระยะเวลาเกือบ 1 ปีที่ผ่านมา ถือว่าเป็นการตอบแทนแล้ว จากนี้จะกลับไปทำงานในสภาฯ ต่อไป ขณะที่รัฐมนตรีสายนายเศรษฐา ทวีสิน มีโอกาสจะถูกปรับเปลี่ยนเช่น ทั้ง นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และรมว.คลัง นายจักรพงษ์ แสงมณี รมต.ประจำสำนักนายกฯ และกรณีที่ นายพิชัย จะหลุดออกไปนั้น นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง จะได้รับการผลักดันขึ้นเป็น รมว.คลัง
...
ขณะที่ในส่วนของรายชื่อ ผู้ที่จะเข้ามานั่งในคณะรัฐมนตรี ขณะนี้มีการพูดถึง 3 รายชื่อประกอบด้วย นายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ที่ก่อนหน้านี้มีชื่อเป็นคณะรัฐมนตรีแล้ว แต่ให้เหตุผลว่า ต้องอยู่ช่วย น.ส.แพทองธาร ในการขับเคลื่อนพรรค แต่เมื่อ น.ส.แพทองธาร เป็นนายกฯ แล้วเลขาธิการพรรคเพื่อไทย จึงได้เข้ามาทำหน้าที่ในคณะรัฐมนตรีเพื่อประสานงานกับพรรค รวมถึง น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ สส.กทม.พรรคเพื่อไทย ที่จะได้เข้ามาเป็นตัวแทน กทม. ในคณะรัฐมนตรีในโควตากทม. และ น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อ ที่มีความใกล้ชิด นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ก็จะเข้ามาในครั้งนี้ด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในส่วนของพรรคร่วมอื่นนั้น พรรคภูมิใจไทย ยังยืนยันเหมือนเดิมว่าไม่ปรับเปลี่ยนรัฐมนตรีสัดส่วนของพรรค เช่นเดียวกับพรรคประชาชาติ และชาติไทยพัฒนา ที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลง ส่วนพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) มีความเคลื่อนไหว ช่วงเย็นวันที่ 16 ส.ค. พรรค รทสช.ได้มีการประชุมกรรมการบริหารพรรค โดยยังขอโควตาเดิมทั้งหมด 2 รัฐมนตรีว่าการ และ 2 รัฐมนตรีช่วย โดยนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯ และ รมว.พลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรค รทสช. ยังคงดำรงตำแหน่งเดิม ขณะที่ตำแหน่ง รมช.พาณิชย์ ยังเป็นนายสุชาติ ชมกลิ่น รองหัวหน้าพรรค แต่จะมีการปรับเปลี่ยนเก้าอี้ รมว. อุตสาหกรรม แทน น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล สส. นครศรีธรรมราช เขต 10 ซึ่งคาดว่านายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะเลขาธิการพรรค จะมาดำรงตำแหน่งแทน จากที่มีข่าวก่อนหน้านี้ นายพีระพันธุ์ ได้เคยทำหนังสือถึงนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ แจ้งเจตจำนงตำแหน่งรัฐมนตรีในโควตาพรรคที่ว่างอยู่ 1 ตำแหน่ง ยังเป็นโควตาพรรค และจะมีการสลับสับเปลี่ยนภายในพรรคเอง พร้อมระบุเสนอชื่อนายเอกนัฏ เข้ามาเป็นรัฐมนตรี เนื่องจากขณะนี้ยังไม่มีคดีความติดตัว ส่วนอีก 1 เก้าอี้ รมช.ที่ยังว่างอยู่ พรรคกำลังพิจารณาอยู่ว่าจะเป็นบุคคลภายในหรือบุคคลภายนอก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ในส่วนของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ยังโควตาเดิมเช่นกัน แต่ก็มีกระแสข่าวว่า อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงในส่วนของ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะที่ประธานที่ปรึกษาพรรค พปชร.หรือไม่ ซึ่งมีกระแสข่าวว่านายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.สาธารณสุข ในฐานะรองหัวหน้าพรรคจะขึ้นมาแทนที่ในตำแหน่งดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า สำหรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) รัฐบาลชุดใหม่นั้น พรรคร่วมรัฐบาลยังคงเดิม 11 พรรค โดยไม่มีพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เข้าร่วมรัฐบาลตามที่มีกระแสข่าวมาตลอด ขณะที่โควตารัฐมนตรีเบื้องต้นแต่ละพรรคยังคงโควตาเดิมทั้งหมด และมีรายงานข่าวว่า การจัดตั้ง ครม.จะไม่แล้วเสร็จโดยเร็ว เนื่องจากต้องการให้เกิดความรอบคอบในการตรวจสอบประวัติ ข้อห้ามต่างๆ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอย