การสิ้นสุด การดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ของ เศรษฐา ทวีสิน นายกฯคนที่ 30 ของประเทศไทย ตามคำวินิจฉัยของ ศาลรัฐธรรมนูญ จากกรณีการแต่งตั้ง พิชิต ชื่นบาน เป็น รมต.ประจำ สำนักนายกฯ ทำให้ขาดคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญด้านจริยธรรมและความซื่อสัตย์สุจริต เป็นโทษที่ร้ายแรงสำหรับผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และถือว่าเป็นถ้อยคำที่ อดีตนายกฯเศรษฐา ยอมรับว่าสะเทือนใจ กับคำว่า ไม่มีจริยธรรม มากกว่าจะถูกตัดสิทธิ ทางการเมืองหรือไม่ เข้าใจอกเขาอกเรา

เมื่อคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญถือเป็นที่สิ้นสุด จะไปฟื้นฝอยหาตะเข็บไม่ใช่เรื่องที่จะเป็นประโยชน์กับฝ่ายใดทั้งสิ้น แม้เบื้องหลังกว่าจะมาถึงวันนี้มีเรื่องเล่ามากมายก็ตาม หรือแม้แต่ในวันข้างหน้า ถ้ามีคนอยากจะฟื้นฝอยหาตะเข็บ ตามเช็กบิลอดีตนายกฯเศรษฐาไปร้องศาลให้ตัดสิทธิทางการเมืองตลอดชีวิตเหมือนกับอดีตนักการเมืองดังที่มีตัวอย่างจากการถูกวินิจฉัยผิดจริยธรรมร้ายแรง ก็คงไม่มีผลใดๆในทางการเมืองและอดีตนายกฯเศรษฐา อีกต่อไป

จะไปฟื้นฝอย คดีถุงขนม ที่อ้างว่ามีความเกี่ยวข้องกับพิชิต ชื่นบาน จนเป็นสาเหตุที่ทำให้ พิชิต ไม่สามารถประกอบอาชีพทนายความหรือเป็นการละเมิดอำนาจศาล ไม่ให้เกียรติศาลและองค์กรตุลาการหรือเป็นเหตุให้มีการร้องถอดถอน อดีตนายกฯ เศรษฐาในวันนี้ ก็ไม่มีประโยชน์ใดๆอีกเช่นกัน เพราะการเมืองถูกกำหนดให้เดินไปข้างหน้า ปัญหาและอุปสรรคข้างหน้าที่มีผลต่ออนาคตของประเทศยังมีอีกมากมายและหนักหนาสาหัสกว่า

แม้ภาคธุรกิจและภาคเอกชนยังหวังว่า การพ้นจากตำแหน่งนายกฯ จะมีผลกระทบในระยะสั้นๆเท่านั้น และเป็นการเริ่มต้นของความเชื่อมั่น หลังจากตัดสินคดีจบลงแล้วไม่มีความอึมครึมต่อไป แต่ในสายตาต่างชาติจะมองเหมือนคนไทยมองหรือไม่เป็นอีกเรื่อง จาก เซาะกร่อน บ่อนทำลาย ยุบพรรคก้าวไกล มาจนถึงไม่มีจริยธรรม ถอดเศรษฐา ทวีสิน ออกจากตำแหน่งนายกฯ น่าจะเป็นการพิสูจน์ตัวตนของศาลรัฐธรรมนูญและกระบวนการยุติธรรมได้ในระดับหนึ่งว่า ไม่มีการเลือกที่รักมักที่ชัง ถึงความเห็นของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญบางท่านจะสวิงไปมาก็ตาม

...

ชื่อของตุลาการเสียงข้างมาก 5 เสียง และตุลาการเสียงข้างน้อยที่ให้ อดีตนายกฯเศรษฐา ไปต่อ ปัญญา อุดชาชน, อุดม สิทธิวิรัชธรรม, วิรุฬห์ แสงเทียน, จิรนิติ หะวานนท์, บรรจงศักดิ์ วงศ์ปราชญ์ ที่ไม่ให้ไปต่อ กับ นครินทร์ เมฆไตรรัตน์, นภดล เทพพิทักษ์, อุดม รัฐอมฤต, สุเมธ รอยกุลเจริญ ให้ไปต่อแล้วจะอย่างไร จะต่างจากคดียุบพรรคก้าวไกลเป็นเอกฉันท์ 9-0 เสียง ให้อดีตนายกฯเศรษฐาพ้นจากตำแหน่ง 5 ต่อ 4 เสียง ก็ถือเป็นเสียงข้างมากอยู่ดี

แต่ที่ ช็อก กันทั้งประเทศ น่าจะรวมถึงตัวอดีตนายกฯเศรษฐาด้วย คือ คำวินิจฉัยออกมาชนิดหักปากกาเซียน ในเมื่อความรู้สึกของคนทั่วไปคิดว่า อย่างไรเสียอดีตนายกฯเศรษฐาก็รอดชัวร์ สัญญาณออกมาชัดมาก

เอาเถอะ มันผ่านไปแล้ว ฝ่ายไหนจะโหนกระแสห้ามไม่ได้ ที่ชาวบ้านช็อกกว่า คือ ดิจิทัลวอลเล็ตจะได้ไปต่อหรือพอแค่นี้ ซึ่งถ้าไม่มีข้อผิดพลาดอะไรนายกฯคนที่ 31 ของประเทศไทย น่าจะชื่อชัยเกษม นิติสิริ เป็นที่เรียบร้อย

ยกเว้นว่าจะมี อาฟเตอร์ช็อก รอบสอง.


หมัดเหล็ก
mudlek@thairath.co.th

คลิกอ่านคอลัมน์ “คาบลูกคาบดอก” เพิ่มเติม