ไม่ไปศาลงานเยอะ ไร้แผนสำรอง ดูสบายๆ

แต่แอบเครียด กดดันอย่างเห็นได้ชัด

“นายกฯนิด” เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของไทยลุ้นระทึก แม้สัญญาณฉุกเฉินไม่รุนแรงเหมือนกับคดียุบพรรคก้าวไกล

เช่นเดียวกับบรรดากูรูการเมืองล้วนวิเคราะห์ไปทางเดียวกัน “เศรษฐา” รอดชัวร์ ประเมินทั้งด้านนิติศาสตร์ และรัฐศาสตร์แล้วน้ำหนักของคดีทางผิดมีน้อยกว่าทางรอด

มองว่าข้อกล่าวหากรณีแต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็น รมต.ประจำสำนักนายกฯ ทั้งที่รู้หรือควรรู้อยู่แล้วว่าขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ ไม่มีผลทำให้ต้องเปลี่ยนนายกฯ

เพราะก่อนหน้านี้ศาลรัฐธรรมนูญก็มีมติเสียงข้างมาก 8 ต่อ 1 ไม่รับคำร้องเฉพาะส่วนของนายพิชิตไว้พิจารณา

แต่ผิดคาด ปรากฏว่าผลการตัดสินศาลรัฐธรรมนูญหักปากกาเซียนทุกสำนัก

วิเคราะห์การเมือง : "เศรษฐา" หลุดรัฐบาลวุ่น

ชี้ชัดว่าข้อเท็จจริงเป็นไปตามข้อกล่าวหา นายกฯรู้หรือควรรู้ แต่ยังเสนอนายพิชิตเป็น รมต.ประจำสำนักนายกฯ จึงถือว่าฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรง ไม่มีความสุจริตเป็นที่ประจักษ์

...

ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมาก 5 ต่อ 4 วินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีของนายเศรษฐาสิ้นสุดลงเฉพาะตัว หลุดจากตำแหน่งนายกฯ

ตุลาการเสียงข้างมาก 5 คน ประกอบด้วย นายปัญญา อุดชาชน นายอุดม สิทธิวิรัชธรรม นายวิรุฬห์ แสงเทียน นายจิรนิติ หะวานนท์ และนายบรรจงศักดิ์ วงศ์ปราชญ์

ส่วนตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างน้อย 4 คน คือ นายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์ นายนภดล เทพพิทักษ์ นายอุดม รัฐอมฤต และนายสุเมธ รอยกุลเจริญ

ขณะที่นายเศรษฐาแถลงน้อมรับคำตัดสิน ยอมรับเสียใจถูกมองว่าเป็นนายกฯที่ไม่มีจริยธรรม สะเทือนใจยังไม่ได้ทำหน้าที่นายกฯเต็มที่อย่างใจหวัง ปัญหาบ้านเมืองที่รอการสะสางมีอีกมาก

สถานการณ์หลังจากนี้อลเวงทันที ไล่ตั้งแต่ตัวนายกฯใครจะขึ้นมาแทน เพื่อไทยไม่ยอมปล่อยแน่ ขณะที่ภูมิใจไทย พลังประชารัฐ ก็ซุ่มโป่งรอเสียบ

การปรับ ครม.ที่เดากันว่าจะปรับเดือน ส.ค.-ก.ย. ปรับเล็กหรือปรับใหญ่ คงไม่ต้องเดาแล้ว ปรับแน่ ปรับเยอะ ปรับใหญ่ยกคณะกันไปเลย

เครื่องยนต์รัฐบาลที่กำลังรวนอยู่ถึงขั้นดับไปเลย ต้องรอนายกฯคนใหม่มาสตาร์ต

ตอนนี้พรรคเพื่อไทยในฐานะแกนนำรัฐบาลต้องวางแผนรัดกุม ในการประคองรักษาอำนาจการนำ ที่เคยคิดว่าจะเอาพรรคไหนเข้าพรรคไหนออก ต้องเปลี่ยนเป็นจะจับมือใครเป็นแกนนำรัฐบาล เป็นนายกฯต่อ

เป้าหมายคือนายกฯคนถัดไปต้องเป็นของพรรคเพื่อไทยเช่นเดิม ตามที่ “อดีตนายกฯนิด” ส่งสัญญาณ ไม่ว่านายกฯจะเป็นใคร มาจากพรรคไหน ก็จะต้องดำเนินนโยบายเดิมต่อไป แม้แต่ดิจิทัลวอลเล็ต

ถอดรหัสคือทุกอย่างเหมือนเดิม เปลี่ยนแปลงแค่ตัวนายกฯของพรรคเพื่อไทย

ในขณะเดียวกันพรรคร่วมรัฐบาลก็จ้องจะเล่นเกมเขย่าตามน้ำ หวังต่อรองผลประโยชน์ แชร์ส่วนแบ่งอำนาจ และตำแหน่งรัฐมนตรี

อาการจะดูเฮี้ยวเฟี้ยวฟ้าว เหมือนจะเอาตำแหน่งนายกฯเองยังไงยังงั้น ตามทฤษฎีตั้งราคาสูงไว้ให้ต่อรอง

ตามจังหวะที่ภูมิใจไทยเหมือนรู้เหตุการณ์ล่วงหน้า ออกมาสวมบทไอ้เข้ขวางคลอง คัดค้าน “กาสิโน” เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ปกป้องผลประโยชน์ของประชาชนจนน่าขนลุก

เนื้อแท้อาจเพราะไม่ต้องการตกขบวนที่เพื่อไทยจะไปขุดทองในอนาคต จึงต้องกระตุกให้หิ้วไปด้วย

และเมื่อมีคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญออกมาเช่นนี้ เพื่อไทยคงหนีไม่ออกแน่

ชัยเกษม นิติสิริ
ชัยเกษม นิติสิริ

เพราะสุดท้ายเพื่อไทยก็ไม่สามารถปล่อยเก้าอี้นายกฯให้ใครได้ “อุ๊งอิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร หรือ

แคนดิเดตนายกฯพรรคเพื่อไทย คนใดคนหนึ่งต้องเป็นนายกฯคนถัดไป

เพราะถ้านายกฯเป็น “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย หรือ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ สภาพเพื่อไทยคือเละเทะ คะแนนนิยมไม่เหลือ

ประเมินสถานการณ์แล้วสุดท้ายหน้าตาของ ครม.สัดส่วนอาจเหมือนเดิม แต่เพื่อไทยอาจต้องเฉือนโควตาแบ่งให้พรรคร่วมมากขึ้น เพื่อหอบกระเตงไปกันต่อแบบทุลักทุเล

ดูสภาพรัฐบาล พรรคร่วมเหมือนเล่นชักเย่อกันในโคลน มอมแมมกันไปหมด

ส่วนค่ายส้มยืนหล่อๆในซีกฝ่ายค้าน รอชนะสวยๆในสนามเลือกตั้งครั้งต่อไป.

ทีมข่าวการเมือง

คลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม