โฆษกรัฐบาล เผยคืบหน้า Digital Wallet สมาคมธนาคารไทย ยัน ทุกธนาคารยินดีให้ความร่วมมือเร่งเชื่อมระบบชำระเงิน Open Loop ย้ำ ลงทะเบียนผ่านแอปฯ ทางรัฐ ปลอดภัย ข้อมูลไม่รั่วไหล พร้อมเตือนประชาชน อย่าเชื่อข่าวปลอม
วันที่ 14 สิงหาคม 2567 นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีภาครัฐขอความร่วมมือภาคธนาคาร ในการเชื่อมระบบการชำระเงินลักษณะ Open Loop ในโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ซึ่งทางสมาคมธนาคารไทย (TBA) เผยว่า พร้อมเร่งเชื่อมระบบชำระเงิน (Open Loop) โครงการดิจิทัลวอลเล็ตให้ทันกรอบเวลา
สมาคมธนาคารไทย ยังระบุด้วยว่า ทุกธนาคารยินดีให้ความร่วมมือ ซึ่งสมาคมธนาคารไทยมอบหมายให้ทางสำนักงานระบบการชำระเงิน สมาคมธนาคารไทย (Payment System Office : PSO) ร่วมกับประธานชมรม CIO ประสานงานกับทางสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) สพร. หรือ DGA เป็นผู้พัฒนาระบบ เพื่อทำความเข้าใจสถาปัตยกรรมของระบบและการเชื่อมต่อระบบการชำระเงิน ทั้งนี้ ภาครัฐได้ทยอยส่งแผนพัฒนามาให้กับคณะทำงาน PSO และ CIO เบื้องต้น แต่ยังมีคำถามและต้องการข้อมูลเพิ่มเติม เชื่อว่ายังเป็นไปตามช่วงเวลาที่ได้กำหนด
...
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยต่อไปว่า กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) โดยศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมประเทศไทย ตรวจสอบพบว่ามีการเผยแพร่ข่าวปลอมเรื่องการลงทะเบียนแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” อาจมีความเสี่ยงทำให้ข้อมูลในบัตรประชาชนรั่วไหลไปสู่แอปฯ ใหม่ที่ชื่อว่า SupperApp ซึ่งกระทรวงดีอีได้ตรวจสอบแล้ว ยืนยันว่าแอปฯ ทางรัฐ ซึ่งพัฒนาโดย DGA ยืนยันว่า ทางรัฐ เป็นแอปพลิเคชันที่อำนวยความสะดวกให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการภาครัฐได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย โปร่งใส ตรวจสอบได้ ดังนั้น ขอเตือนให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่งหรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ โดยประชาชนสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารอย่างเป็นทางการที่เกี่ยวข้องกับแอปฯ ทางรัฐ จากสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล ได้ที่เว็บไซต์ DGA หรือ โทรศัพท์หมายเลข 0-2612-6060
ในช่วงท้าย โฆษกรัฐบาล กล่าวว่า “เพื่อยืนยันความตั้งใจของรัฐบาล ที่จะทำให้โครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet สำเร็จ รัฐบาลได้ดำเนินการในทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง เดินหน้าก้าวข้ามทุกอุปสรรคอย่างถูกต้อง โปร่งใส รวมทั้งรับฟังทุกคำแนะนำตามหลักเหตุและผล เกิดความสำเร็จตามวัตถุประสงค์ กระตุ้นเศรษฐกิจ วางรากฐานเศรษฐกิจดิจิทัล และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้ประเทศและประชาชนไทย”