“หมอวรงค์” เผย 13 ส.ค.นี้ พรรคไทยภักดี ยื่นร้อง กกต. ตรวจสอบพรรคถิ่นกาขาวชาววิไล สิ้นสภาพก่อนเป็นพรรคประชาชน หรือไม่ กรณีในอดีตมีสาขาพรรคไม่ครบ 4 ภาค

วันที่ 12 สิงหาคม 2567 นายแพทย์วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี เผยแพร่คลิปและข้อความชี้แจงกรณีเตรียมยื่นสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตรวจสอบการมีสาขาของพรรคถิ่นกาขาวชาววิไล ว่ามีครบทั้ง 4 ภาคหรือไม่ ก่อนที่จะถูกเปลี่ยนมาเป็นพรรคประชาชน ว่า หลังจากที่ออกมาเปิดเผยถึงการตรวจสอบข้อมูลจากเว็บไซต์ กกต. พบว่าพรรคถิ่นกาขาวชาววิไล มีสาขาพรรคแค่ 2 ภาค ไม่ครบ 4 ภาค มีความเสี่ยงที่ถูกยุบ มีผลทำให้พรรคประชาชน มีโอกาสสิ้นสภาพพรรคนั้น ต่อมาคนของพรรคประชาชน ออกมาตอบโต้ว่าตนไม่อัปเดตข้อมูล และยืนยันว่าตอนนี้มีสาขาพรรคครบทั้ง 4 ภาค 

นายแพทย์วรงค์ ระบุต่อไปว่า นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. ก็ได้ให้สัมภาษณ์ว่าช่วงราว 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา เพิ่งมีการประชุมจัดตั้งจนครบ ทั้งนี้ หัวใจที่ตนต้องการสื่อสาร ไม่ใช่สาขาพรรคมีไม่ครบในปัจจุบัน ตอนนี้มีครบ แต่ในอดีตในช่วงที่เป็นพรรคถิ่นกาขาวชาววิไล มีสาขาพรรคครบทั้ง 4 ภาคหรือไม่ จึงต้องไปยื่นต่อ กกต. ซึ่งเป็นนายทะเบียนพรรคการเมือง เพื่อให้ตรวจสอบข้อมูลย้อนหลัง ไปจนถึงวันที่กฎหมายพรรคการเมืองมีผลบังคับ นั่นคือต้องตรวจสอบการมีสาขาครบ 4 ภาค ไปถึงปี 2560 ว่ามีช่วงใดที่ขาดไปหรือไม่ ซึ่งหากขาดถึง 1 ปี เท่ากับว่าพรรคถิ่นกาขาวชาววิไล ต้องสิ้นสภาพ

...

“การที่พรรคถิ่นกาขาวชาววิไลสิ้นสภาพ สิ่งที่ต้องถามกลับ แล้วพรรคการเมืองที่ไปเซ้งเขามาต่อยอดจะเป็นอย่างไร นี่คือกระบวนการตรวจสอบของพรรคการเมืองในระบอบประชาธิปไตย เพราะผมยังยืนยันนะครับว่า การทำงานการเมืองเพื่อประชาชน ทุกอย่างต้องเป๊ะ ทุกอย่างต้องอยู่บนรากฐานของข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย”

ดังนั้น การตรวจสอบสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่ตรงไปตรงมา ซึ่ง กกต. ควรจะเข้าไปสู่ระบบฐานข้อมูลและชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจว่าแต่ละปีเป็นอย่างไร ทำไมรายงานจึงมีเพียง 2 สาขาในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา นี่คือสิ่งที่ตนต้องการสื่อสารกับประชาชน โดยในวันที่ 13 สิงหาคมนี้ เวลา 10.30 น. พรรคไทยภักดี จะไปยื่นเรื่องนายทะเบียนพรรคการเมืองที่สำนักงาน กกต.