“นายกฯ นิด” ชื่นชมยินดี พร้อมขอบคุณนักกีฬาไทยที่ทั้งได้เหรียญและไม่ได้ รวมถึงทีมงาน ชี้ ทุกคนเป็นความภาคภูมิใจของประเทศ ฝาก กกท. มองการสร้างอาชีพหลังจากเขาเหล่านี้รีไทร์จากการแข่งขันด้วย

เมื่อเวลา 14.19 น. วันที่ 12 สิงหาคม 2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี โพสต์ภาพนักกีฬาทีมชาติไทยซึ่งได้รับเหรียญจากโอลิมปิก ปารีส 2024 พร้อมกับระบุข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก ว่า ผ่านไปแล้วสำหรับ 1 เหรียญทอง, 3 เหรียญเงิน และ 2 เหรียญทองแดงของทีมนักกีฬาไทย ขอแสดงความยินดีอีกครั้งกับ เทนนิส พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ, วิว กุลวุฒิ วิทิตศานต์, ฟ่าง ธีรพงศ์ ศิลาชัย, เวฟ วีรพล วิชุมา, บี จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง และ ออย สุรจนา คำเบ้า ที่นำเหรียญจากโอลิมปิกกลับมาฝากคนไทย นำมาซึ่งความสุขและความภาคภูมิใจของพวกเราทุกคน 

นายกรัฐมนตรี ระบุต่อไปว่า ไม่เพียงแต่ผู้ที่ได้เหรียญกลับมา ตนอยากขอบคุณและให้กำลังใจนักกีฬาทุกคนที่ไปแข่งโอลิมปิกครั้งนี้ในฐานะตัวแทนของชาติไทย ทุกคนได้ทำอย่างเต็มกำลังความสามารถ และพวกคุณคือความภูมิใจของคนไทย กว่าจะมาถึงวันที่นักกีฬาแต่ละคนได้ไปโอลิมปิก กว่าจะมาถึงวันที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มและความสำเร็จ รู้ว่าแต่ละคนได้อุทิศตนให้กับการฝึกซ้อม ฝึกฝน ระเบียบวินัย น้องเทนนิส ต้องรักษาน้ำหนักไว้ที่ 49 กิโลกรัม กับร่างกายที่บาดเจ็บไปทุกจุด ไม่เคยได้กินอะไรตามใจปาก ไม่เคยมีชีวิตวัยรุ่น และคนอื่นๆ ก็คงไม่ต่างกัน การต้องแลกความสำเร็จนั้นมาด้วยเหงื่อ น้ำตา และความท้อแท้อีกนับครั้งไม่ถ้วน ยังไม่ต้องพูดถึงพ่อแม่ ครอบครัว ที่ต้องลงทุนลงแรงไปขนาดไหนกว่าจะสร้างนักกีฬาระดับโลกมาได้สักหนึ่งคน

...

นอกจากการสนับสนุนการสร้างนักกีฬาที่ยอดเยี่ยมของประเทศด้วยการให้เงินรางวัลในยามที่รุ่งโรจน์แล้ว นายกรัฐมนตรี ยังคิดว่า เราจำเป็นต้องมองเรื่องเส้นทางอาชีพของนักกีฬาหลังจากที่พวกเขารีไทร์จากการแข่งขันด้วย และไม่เฉพาะนักกีฬาที่ได้เหรียญ หรือแชมป์ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ต้องมองการสร้างอาชีพให้นักกีฬาด้วย ให้พวกเขาได้ต่อยอดเป็นโค้ช โปรโมเตอร์ ผู้จัดการทีม เทรนเนอร์ เจ้าของโรงเรียนกีฬา เป็นดีไซเนอร์ออกแบบชุดกีฬาร่วมกับแบรนด์ต่างๆ หรือก้าวไปเป็นโค้ชให้กับทีมในต่างประเทศ ทำงานในระดับอินเตอร์ได้ 

“ที่สำคัญ เราทุกคนรู้ดีว่าเบื้องหลังนักกีฬาหนึ่งคน มีทีมงานอยู่ข้างหลังอีกหลายชีวิต ตั้งแต่นักวิทยาศาสตร์การกีฬา นักจิตวิทยา นักกายภาพบำบัด นักโภชนาการ ผมอยากฝากให้การกีฬาแห่งประเทศไทย และทุกคนในวงการกีฬาบ้านเราเห็นความสำคัญ พัฒนาบุคลากรที่อยู่เบื้องหลังและอยู่รายล้อมนักกีฬาเหล่านี้ด้วย เราต้องมองการพัฒนาวงการกีฬาภาพรวม มากกว่ามองเฉพาะตัวนักกีฬาที่อยู่ในสนามแข่ง หัวใจของกีฬาคือทีม และข้างหลังของนักกีฬาที่ประสบความสำเร็จทุกคนคือทีมที่ยอดเยี่ยมครับ”