143 อดีต สส.ก้าวไกลสยบข่าวงูเห่า ตบเท้าย้ายเข้าบ้านใหม่ “พรรคประชาชน” มติเห็นชอบ กก.บห. 5 คน “ณัฐพงษ์” นำทัพนั่ง หน.พรรค “ธนาธร” ส่ง “ติ่ง” เพื่อนรักเป็นเลขาธิการพรรค “ไหม” เคลียร์ข่าวดีลลับเปลี่ยนแม่ทัพเลี่ยงชน “อุ๊งอิ๊งค์” ออกตัวชงเองชื่อ “เท้ง” เพราะครบเครื่องขอผันตัวไปทำงานหลังบ้านและพัฒนานโยบายพรรค หน.พรรคประชาชนกร้าวเลือกตั้งปี 70 ต้องชนะตั้งรัฐบาลพรรคเดียว ยันไม่ต่อรองอะไรที่ขัดอุดมการณ์ เมินลดเพดานแก้ไข ม.112 “ศรายุทธ” รับสนิทกับ “ธนาธร” มากว่า 20 ปี กอดคอร่วมตั้งพรรคอนาคตใหม่ด้วยกันมา ย้ำจุดมุ่งหมายเปลี่ยนแปลงประเทศ แต่ต้องใช้เวลา “สรวงศ์” ให้กำลังใจพรรคน้องใหม่ เชื่อการทำงานไม่ต่างจาก ก.ก. “ภูมิธรรม” นัดแกนนำพรรคร่วมฯ 12 ส.ค.ถกเก้าอี้รองประธานสภาฯคนที่ 1 ภท.เชียร์ “โสภณ-ภราดร” เหมาะสมที่สุด
อดีต สส.พรรคก้าวไกล (ก.ก.) จำนวน 143 คน เข้าสู่กระบวนการเปลี่ยนผ่าน ย้ายเข้าสมัครเป็นสมาชิกพรรคประชาชน บ้านหลังใหม่ทดแทนพรรคก้าวไกลที่ถูกยุบไป โดยมีการตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่เพียง 5 คน เน้นย้ำเดินหน้าสานต่ออุดมการณ์เดิม
อดีต ก.ก.แปลงร่างสู่พรรคประชาชน
เมื่อวันที่ 9 ส.ค. ที่อาคารไทยซัมมิท อดีตพรรคก้าวไกล (ก.ก.) มีการเรียกประชุม สส.143 คน พร้อมทั้งคณะทำงานและสมาชิกพรรคทั่วประเทศ เพื่อประชุมเกี่ยวกับการเคลื่อนองคาพยพไปสู่พรรคใหม่ หลังจากถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรค ตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรค 10 ปี บรรยากาศคึกคัก สส.พร้อมสมาชิกพรรคเดินทางเข้ามาตั้งแต่ช่วงเช้า นอกจากสมาชิกอดีตพรรค ก.ก.แล้ว ยังเป็นที่น่าสังเกตว่ามีกลุ่มคนอีกจำนวนหนึ่งสวมเสื้อแจ็กเกตสีขาว ด้านหลังเสื้อมีการสกรีนตัวอักษรว่า “พรรคถิ่นกาขาวชาววิไล” เดินทางมาร่วมงานด้วย หลังจากมีการเทกโอเวอร์พรรคถิ่นกาขาวชาววิไลแล้วมาเปลี่ยนชื่อพรรคใหม่ในขั้นตอนต่อไปตามที่มีการหารือได้ข้อสรุปแล้วว่าใช้ชื่อพรรคประชาชน
...
“เท้ง” หน.พรรค ซี้ “ธนาธร” นั่งเลขาฯ
พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ อดีต สส.บัญชีรายชื่อ อดีตพรรค ก.ก. ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมสส.อดีตพรรค ก.ก.เมื่อคืนวันที่ 9 ส.ค. มีการอำลาของ กก.บห.ชุดเก่า ได้กล่าวขอบคุณพร้อมให้กำลังใจซึ่งกันและกัน บรรยากาศเป็นไปอย่างครึกครื้นสนุกสนาน จากนั้นแบ่งกลุ่มไปรับประทานอาหารกันต่อ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ขณะที่ สส.ส่วนหนึ่งยังประชุมต่อจนดึก ในที่ประชุมมีการโหวตตามที่มีแคนดิเดต 2 ชื่อคือ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล อดีตรองหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่และนายณัฐพงศ์ หรือเท้ง เรืองปัญญาวุฒิ รองเลขาธิการพรรค ก.ก. ตามกระแสข่าวผลโหวตของ สส.ให้นายณัฐพงษ์เป็นหัวหน้าพรรค ส่วนเลขาธิการพรรค คือนายศรายุทธิ์ ใจหลัก หรือติ่ง อดีตผู้อำนวยการพรรค จะนำรายชื่อเสนอเข้าที่ประชุม
“เท้ง”พลังเต็มเปี่ยมเชื่อมั่นสานต่อก.ก.
ต่อมาเวลา 08.30 น. นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ อดีตพรรค ก.ก. ในฐานะตัวเต็งหัวหน้าพรรคเดินทางขึ้นห้องประชุม นั่งข้าง น.ส.ชุติมาคชพันธ์ สส.บัญชีรายชื่อ อดีตพรรค ก.ก. ที่มีชื่อเป็นหนึ่งในกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ โดยนายณัฐพงษ์กล่าวกับผู้สื่อข่าวสั้นๆว่า มั่นใจเต็มเปี่ยมด้วยพลังวันนี้เห็นทุกคนมาสมัครสมาชิก ย้ายบ้านใหม่ด้วยกัน เชื่อมั่นเต็มที่ในการสานงานต่อจากพรรค ก.ก. จะขอแถลงข่าวอย่างเป็นทางการอีกครั้ง
ปัดตั้ง กก.บห.5 คนเลี่ยงอุบัติเหตุ
นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวถึงที่มาชื่อ “พรรคประชาชน” ว่า ตั้งแต่อนาคตใหม่ ก้าวไกล จนถึงประชาชน มีประโยคหนึ่งสำคัญสุดคือ อำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน คำว่าประชาชนในชื่อพรรค ไม่ใช่อยู่ในชื่อพรรคอย่างเดียว แต่ยังระบุสโลแกนว่า โดยประชาชนเพื่อประชาชน และเดินหน้าสู่การสร้างประเทศไทยที่อำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน สอดคล้องโลโก้พรรคเป็น 3 เหลี่ยมหัวกลับ มี 6 ด้าน สอดคล้องกับหลัก 6 ประการคณะราษฎร รวมถึงสีประจำพรรค สืบสานอุดมการณ์ต่อไป นี่คือหลายอย่างที่สะท้อนออกไป ความเชื่อ อุดมการณ์ เราไม่เปลี่ยนแปลงเดินหน้าต่อไป ส่วนที่ตั้ง กก.บห.แค่ 5 คน ไม่ใช่เพื่อหลบเลี่ยงอุบัติเหตุทางการเมืองในอนาคต ไม่ได้หลบเลี่ยงอันตราย แต่เป็นข้อกำหนดขั้นต่ำกฎหมาย เราต้องการสร้างความเปลี่ยนแปลงไร้รอยต่อ จากพรรคที่ถูกยุบสู่พรรคประชาชน เราต้องการหาสมาชิก 1 แสนคน บริจาค 10 ล้านบาทภายใน 1 เดือน พวกเรายังเปิดกว้าง หารือในพรรคว่าการออกแบบโครงสร้างพรรค จะมี กก.บห.สัดส่วนมากขึ้นหรือไม่ ยังหารือในพรรคได้ต่อ อาจได้ข้อสรุปปลายเดือนหน้า จะประชุมใหญ่อีกครั้งหนึ่ง
“ติ่ง” ย้ำมุ่งเปลี่ยน ปท.ต้องใช้เวลา
นายศรายุทธิ์ ใจหลัก เลขาธิการพรรคประชาชน กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงต้องใช้เวลา เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงร่วมกัน นั่นคือทำให้ต้องสร้างพรรคให้เป็นสถาบัน ตั้งแต่อนาคตใหม่ถึงก้าวไกล เรามีหลายโครงสร้างภายในพรรคที่ชื่อว่าประชาชน หน้าที่ตนคือบริหารจัดการประสานสอดคล้องกัน เพื่อเป้าหมายที่เราอยากสร้างการเปลี่ยนแปลงประเทศนี้ ทั้งนี้ รู้จักสนิทสนมกับนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า มากว่า 20 ปี ร่วมตั้งพรรคด้วยกันตั้งแต่อนาคตใหม่ ความคิดเราปกติ คุยกันตลอดเวลา ในฐานะเพื่อนแลกเปลี่ยน แม้วันนี้อยู่คนละองค์กร ต้องมีเจอบ้างในฐานะเพื่อนก็คุยกัน แต่เราเข้าใจกันดีว่าการบริหารงานแต่ละองค์กร จะมีผู้บริหารแต่ละองค์กร มีโครงสร้างการทำงาน ความเห็นต่างๆ อาจผ่านหูตน อาจเสนอบ้าง แต่อำนาจการตัดสินใจอยู่ที่กก.บห. เราทำงานด้วยความเข้าใจอย่างดี ส่วนดีลลับต่างๆ มั่นใจเพื่อนเราทุกคน ไม่ว่านายธนาธร นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า และนายชัยธวัช ตุลาธน อดีตหัวหน้าพรรค ก.ก.ในการคุยกับคนอื่น ไม่มีปัญหาอะไร รับฟังคนนั้นคนนี้คิดเห็นอย่างไร มาเล่าสู่กันฟัง ไม่ได้มีปัญหาอะไร ปัญหาอยู่ที่ กก.บห.จะตัดสินใจอย่างไรกับข้อมูลที่ได้รับมา นี่คือหลักการสำคัญ เรายืนบนหลักการนี้ตลอดตั้งแต่เป็นพรรค ก.ก.
“ไหม” ออกตัวชงชื่อ “เท้ง” เอง
น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล แกนนำพรรคประชาชน กล่าวว่า 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมามีการคาดเดาไปต่างๆ นานาว่าใครจะมาเป็นหัวหน้าพรรค โดยมีชื่อตนด้วย แต่อย่างที่บอกว่าการเลือกหัวหน้าพรรคต้องเริ่มจากกระบวนการภายใน โดยเริ่มจากคืนวันที่ 8 ส.ค.เป็นการเริ่มต้นกระบวนการภายในของ สส.อดีตพรรค ก.ก. ในกระบวนการต้องมีการหยั่งเสียงเพื่อหาเสียงผู้รับรองว่าที่หัวหน้าพรรคคนใหม่ ก่อนเข้าสู่กระบวนการที่ประชุมใหญ่วิสามัญในวันนี้ วานนี้ในการเสนอชื่อมีหัวหน้าพรรคคนเดียว ที่มีการเสนอชื่อคือนายณัฐพงษ์ และผู้เสนอชื่อนั้นคือตนเอง และตนไม่มีความประสงค์แข่งขันตำแหน่งหัวหน้าพรรคตั้งแต่ต้น จึงเสนอชื่อนายณัฐพงษ์ด้วยความมั่นใจว่ามีคุณสมบัติ เป็นคนครบเครื่อง
ปัดดีลลับหลีกทางไม่ให้ชน “อุ๊งอิ๊งค์”
เมื่อถามว่าสาเหตุที่ไม่เลือก น.ส.ศิริกัญญา เป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ เพราะมีดีลลับหลีกเลี่ยงไม่ให้ไปชน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคพท.ใช่หรือไม่ น.ส.ศิริกัญญาส่ายหน้าพร้อมกับยิ้ม ก่อนตอบคำว่า เรามุ่งหน้าโฟกัสไปที่การเลือกตั้งครั้งต่อไป ตนมีภารกิจหน้าที่ทำงานลงลึกเรื่องนโยบาย ต้องพัฒนานโยบายต่อ ทำงานหลังบ้าน สร้างมาตรฐานพรรคประชาชน และ สส.พรรคประชาชน สืบทอดมาตรฐานเดิมตั้งแต่พรรคอนาคตใหม่ ก้าวไกล รักษาไว้เป็นอย่างดี เป็นหน้าที่ความรับผิดชอบที่เต็มใจรับ จึงควรอยู่ในฐานะที่เป็นมือไม้ซัพพอร์ตหัวหน้าพรรคคนต่อไป ไม่ได้มีคุยเรื่องปะทะ หรือหลีกเลี่ยงการปะทะกับใครแต่อย่างใด
มติเอกฉันท์ “เท้ง-ติ่ง” นำทีม 5 กก.บห.
จากนั้นเวลา 09.00 น. ที่อาคารไทยซัมมิท มีการเปิดประชุมวิสามัญพรรคถิ่นกาขาวชาววิไล โดยมีสมาชิกอดีตพรรคก้าวไกล (ก.ก.) เข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง เริ่มวาระการประชุมสำคัญ อาทิ การเปลี่ยนชื่อพรรคใหม่ ที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์เปลี่ยนชื่อพรรคถิ่นกาขาวชาววิไล ไปเป็น “พรรคประชาชน” ต่อมาเข้าสู่มีมติเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ เป็นไปตามข้อสรุปคือบุคลากรจากอดีตพรรค ก.ก. มานั่งเป็นกรรมการบริหารพรรคประชาชนเพียง 5 คน ประกอบด้วย นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ เป็นหัวหน้าพรรค นายศรายุทธิ์ ใจหลัก เลขาธิการพรรค น.ส.ชุติมา คชพันธ์ เป็นเหรัญญิกพรรค นายณัฐวุฒิ บัวประทุม เป็นนายทะเบียนพรรค นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ เป็นกรรมการบริหารพรรค โดยมอบหมายให้นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ทำหน้าที่โฆษกพรรคประชาชน
“ไอติม” ลั่นฟื้นคืนชีพโดย ปชช. เพื่อ ปชช.
ต่อมาเวลา 12.00 น. แกนนำ พร้อมกรรมการบริหารพรรคประชาชนร่วมกันแถลงข่าว โดยนายพริษฐ์ วัชรสินธุ ทำหน้าที่โฆษกพรรคประชาชน แถลงว่า ขอประกาศอย่างเป็นทางการว่าพวกเราฟื้นคืนชีพกลับมาแล้วในนามพรรคประชาชน วันนี้ 143 สส.อดีตก้าวไกลที่ไม่ถูกตัดสิทธิทางการเมืองและแนวร่วม ประชุมตกลงร่วมกันเพื่อเดินหน้าต่อ ขับเคลื่อนผลักดันประเทศนี้ในนามพรรคประชาชน เหตุผลที่ใช้ชื่อนี้ เพราะต้องการเป็นพรรคการเมืองโดยประชาชน เพื่อประชาชน และเดินหน้าสู่การสร้างประเทศไทย ที่อำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน มีความเชื่อในระบอบประชาธิปไตย สิ่งมีคุณค่าสูงสุดคือประชาชนทุกคนในประเทศ สถาบันทางการเมืองทุกสถาบันควรยึดโยงประชาชน ถูกตรวจสอบได้โดยประชาชน และดำรงอยู่อย่างมั่นคง ชอบธรรม ด้วยความยินยอมพร้อมใจของประชาชนทุกคน
ชูโลโก้ใหม่ดันเปลี่ยนการเมืองไทย
นายพริษฐ์กล่าวอีกว่า สัญลักษณ์ของพรรค จะเป็นสัญลักษณ์สามเหลี่ยมมุมกลับ ต่อยอดจากแนวคิดอนาคตใหม่และก้าวไกล โดยภารกิจแรกเชิญชวนประชาชนที่อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น รวมถึงสมาชิกอดีตพรรค ก.ก.กว่า 1 แสนคนมาร่วมกันขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงในบทถัดไปของการเมืองไทย ในการเข้าเว็บไซต์พรรคประชาชน หลังจากนั้นในวันที่ 10 ส.ค.จะจัดกิจกรรมทั่วประเทศ เปิดรับสมาชิก เปิดรับบริจาคของประชาชนที่มาเป็นส่วนหนึ่งกับพรรคประชาชน โดยใน กทม. จะมีบูธใหญ่จัดขึ้นที่สเตเดียมวัน ถนนบรรทัดทอง
หน.กร้าวปี 70 ตั้ง รบ.พรรคเดียว
ด้านนายณัฐพงษ์แถลงว่า กระบวนการทำให้พรรคประชาชน เป็นสถาบันทางการเมือง สืบทอดอุดมการณ์พรรคอนาคตใหม่และก้าวไกล ภารกิจของเราต่อจากนี้ จะสร้างรัฐบาลแห่งการเปลี่ยนแปลงในการเลือกตั้งปี 2570 สำคัญที่สุดเราจำเป็นต้องชนะการเลือกตั้งครั้งหน้า เราต้องตั้งเป้าหมายให้สูงยิ่งขึ้น นอกจากการเป็นพรรคอันดับ 1 ในการเลือกตั้งปี 2566 ต่อไปคือการชนะเลือกตั้งเป็นรัฐบาลพรรคเดียวได้ นี่คือเป้าหมายสูงสุดของพวกเรา เมื่อผู้บริหารเปลี่ยน บางอย่างการบริหารพรรคต้องเปลี่ยนไป แต่เรื่องหลักการความเชื่อ อุดมการณ์ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง ไม่ต้องการสร้างพรรคให้เป็นของใครคนใดคนหนึ่ง การมีฐานสมาชิกพรรค ยึดโยงกับพรรค ไม่ใช่ยึดโยงกับนักการเมือง ถ้าอนาคตเกิดมีงูเห่า หรือคนย้ายเปลี่ยนอุดมการณ์จะทำให้พรรคไม่มั่นคงแข็งแรง การแบ่งบทบาทหน้าที่ของหัวหน้ากับเลขาธิการ สะท้อนให้เห็นชัดว่ามีแนวทางทำงานอย่างไร
เมินลดเพดานแก้ไขมาตรา 112
เมื่อข่าวถึงการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 จากนี้จะลดเพดานลงหรือไม่ นายณัฐพงษ์ ตอบว่า เราไม่เคยสื่อสารว่าลดเพดานอะไร ยืนยันว่าเราเสนอร่างแก้ไข มาตรา 112 เพื่อไม่ให้มีการกลั่นแกล้งพรรคฝั่งตรงข้าม และคำวินิจฉัยศาลไม่ได้สั่งห้ามแก้ไข แน่นอนว่าเราไม่ประมาททำทุกอย่างรอบคอบ คำตัดสินศาลรัฐธรรมนูญที่ออกมาจนยุบพรรค ก.ก.เราต้องศึกษาอย่างดี แต่คิดว่าพวกเราต้องผลักดันเดินหน้าการปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย โดยเฉพาะในส่วนนี้ที่ปัจจุบันยังมีปัญหาอยู่ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่เราเซ็นเซอร์ปิดปากตัวเอง เราเสนอบนหลักการ เราไม่ได้มุ่งเป้าเซาะกร่อนบ่อนทำลายสถาบันใด ตามรัฐธรรมนูญปัจจุบัน เราต้องยึดตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เรายืนยันเดินหน้าทุกอย่างต่อ แต่เราต้องกลับมาศึกษาข้อกฎหมายทุกอย่างด้วยวิธีการปฏิบัติ เราไม่ประมาท ต้องกลับมาทบทวนเรียนรู้ในส่วนคำตัดสินศาล และประเด็นกฎหมาย แต่สิ่งที่ไม่เปลี่ยนไปคือหลักการและความเชื่อ เราต้องการทำให้อำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน “เราไม่ได้พุ่งเป้าที่จะเสนอแก้ไขมาตรา 112 อย่างเดียว แต่เสนอแก้ไขเรื่องนโยบายอื่นๆด้วย ขอสื่อสารไปยังประชาชนที่อาจยังไม่ได้โหวตเลือกเราในอดีต พรรคประชาชนในปัจจุบันไม่ได้พุ่งเป้าใดๆ ต่อสถาบันทางการเมืองใดๆก็ตาม เราตั้งใจเสนอนโยบายต่างๆในโครงสร้างสังคมไทยที่ยังมีปัญหา นี่คือวิธีสื่อสารตรงไปตรงมา ทำงานหนัก และจริงใจ เราคิดว่าจะได้รับเสียงสนับสนุนมากขึ้น”
ไม่กังวล ป.ป.ช.จ่อเชือด 44 สส.
เมื่อถามถึงคดีความของ 44 สส.อดีตพรรค ก.ก. ที่อยู่ระหว่างไต่สวนในชั้น ป.ป.ช. นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า คำร้องของ ป.ป.ช.ต่างจากการยุบพรรค เพราะเป็นศาลยุติธรรม ต้องพิจารณาเป็นรายกรณี การกระทำของ สส.แต่ละคน องค์ประกอบอาจต่างกันบ้าง บางคน อาจเรียกร้องแทนผู้ชุมนุม บางคนใช้สิทธิประกันตัว แต่ทุกคนได้ลงนามเสนอแก้ไขมาตรา 112 แต่ละคนมีสิทธิชี้แจงกันไป แต่ส่วนตัวไม่มีข้อกังวล เมื่อถามว่า พรรคประชาชนที่เพิ่งตั้งมานี้จะมีอายุสั้นหรือยืนยาว นายณัฐพงษ์กล่าวว่า สั้นหรือยืนไม่ได้อยู่ที่เรา ที่ผ่านมาเห็นว่าสั้นหรือยืน อยู่ที่กลุ่มขั้วอำนาจเก่า ใช้เครื่องมือทุบทำลายเรา เอาสิ่งเหล่านั้นมากดทับ ไม่ให้เราเดินหน้าต่อก็ไม่ได้ เพราะประชาชนอาจขาดศรัทธาในตัวเรา ยืนยันจะเดินหน้าต่อไป แต่ไม่ประมาท ทำงานด้วยความสุขุมรอบคอบ ดังนั้นอายุยืนหรือไม่อยู่ที่พวกเขาด้วยและอยู่ที่ประชาชนสนับสนุน
แม้ยังไม่ดีพร้อมแต่มั่นใจมีดีพอพาชนะ
เมื่อถามว่าใครจะเป็นแคนดิเดตนายกฯของพรรค นายณัฐพงษ์กล่าวว่า ในส่วนของตนฐานะหัวหน้าพรรคประชาชน ขอพูดตรงๆ คิดว่าวันนี้ยังไม่ได้ดีพร้อม แต่พร้อมพัฒนาตัวเอง ตราบใดที่ประชาชนสนับสนุน เห็นว่าสิ่งที่เราทำมาโดยตลอด เราทำสิ่งเรียบง่ายมาก การเมืองเป็นของทุกคน เป็นของประชาชน ตราบใดที่เราได้รับเสียงสนับสนุนเหล่านี้อยู่ตนพร้อมผลักดันตัวเองไปข้างหน้า ส่วนแคนดิเดตนายกฯเราได้ถอดบทเรียนมาในอดีต เราเปิดกว้าง เสนอหลายชื่อได้ แต่ต้องผ่านการหารือในอนาคตด้วย คิดว่าตนพร้อมทำหน้าที่แทนทุกคน ส่วนคนเป็นนายกฯต้องพร้อมทุกด้าน ตนพร้อมพัฒนาตัวเองให้ดียิ่งขึ้น
เร็วไปจะตอบจับมือ พท.ตั้งรัฐบาล
เมื่อถามว่า จะนำพาพรรคประชาชนชนะเลือกตั้ง 2570 อย่างไร นายณัฐพงษ์กล่าวว่า คิดว่าคือการทำงานหนัก ถ้าเอาตนเปรียบเทียบอดีตแกนนำพรรค คิดว่าคุณสมบัติอาจไม่เทียบเท่า แต่สิ่งที่คิดว่ามีไม่แพ้คนอื่นคือ นำพาพวกเรามาอยู่ตรงนี้ ทำงานการเมืองให้ดีกว่าเดิม สิ่งที่มีไม่แพ้ใครคือ ทำงานหนัก เพื่อนำพาพรรคชนะการเลือกตั้งได้ เมื่อถามถึงในการเลือกตั้งครั้งหน้า หากมีการจัดตั้งรัฐบาล จะจับมือกับพรรค พท.หรือไม่ นายณัฐพงษ์กล่าวว่า ตอนนี้เร็วไปที่จะตอบตรงนั้น แต่ขึ้นอยู่กับผลการเลือกตั้งหรือไม่ว่าเราชนะการเลือกตั้ง เป็นรัฐบาลพรรคเดียวได้หรือไม่ แต่ถ้าไม่ได้เสียงเกินครึ่ง ก็ต้องจับมือกับพรรคการเมืองต่างพรรคด้วย แต่จะจับมือใครบ้าง ก็ต้องดูนโยบายในการเลือกตั้งครั้งหน้า ถ้าพรรคที่เสนอนโยบายไม่ได้ขัดแย้งเรา เราก็พร้อมทำงานกับทุกฝ่าย
“ธนาธร” แนะนำ ต้องพัฒนาตัวเอง
เมื่อถามว่า ก่อนมาเป็นหัวหน้าพรรค นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า และอดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ให้คำแนะนำอะไรบ้างหรือไม่ นาย ณัฐพงษ์กล่าวว่า ไม่กี่วันก่อนได้พูดคุยกับนายธนาธร บ้าง และเขาได้สื่อสารตรงๆ โดยเขาบอกว่า ถ้ามา รับตำแหน่งตรงนี้ ถ้าคุณต้องทำ เป็นแคนดิเดตนายกฯ คุณต้องพัฒนาตัวเอง ต้องเห็นนโยบายอีกหลายด้าน ต้องทำงานอย่างหนัก ตนคิดว่าสิ่งที่นายธนาธรแนะนำมาถูกต้องที่สุด วันนี้ที่มาแถลงข่าวคิดว่าสำคัญที่สุดอย่างหนึ่งคือ ถ้าเสนอตัวเองเป็นแคนดิเดตนายกฯ จะสื่อสารตรงไปตรงมา โดยสิ่งที่เป็นอิทธิพลกับตนคือ อุดมการณ์ความเชื่อ ไม่ใช่เรื่องตัวบุคคล
ขึ้นโปรไฟล์ PEOPLE’S PARTY
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจเฟซบุ๊กอดีตพรรค ก.ก.ได้เปลี่ยนรูปโปรไฟล์เป็น “พรรคประชาชน PEOPLE’S PARTY” ระบุว่า สถาบันที่ศักดิ์สิทธิ์และยืนยงที่สุดในระบบการเมืองแบบประชาธิปไตย คือ ประชาชน ผู้เป็นเจ้าของอำนาจสูงสุดในการปกครองประเทศ “สัญลักษณ์สามเหลี่ยมพีระมิด
หัวกลับ แสดงถึงการยกประชาชนผู้เป็นรากฐานของประเทศไว้เหนือผู้ปกครอง เส้นประกบสามเส้น สื่อถึงเสรีภาพ เสมอภาค และภราดรภาพ ลักษณะตัวอักษรชื่อพรรค เป็นงานสไตล์ Rectilinear ที่เป็นเส้นตัด สะท้อนความเสมอภาคเท่าเทียมและทันสมัย และนี่คือพรรคประชาชน โดยประชาชน เพื่อประชาชน สร้างประเทศไทยที่อำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน
ส่งว่าที่ผู้สมัครฝังตัวล่วงหน้า 3 เดือน
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า จากกรณีนายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต.ออกมาระบุว่า พรรคประชาชน ยังส่งสมาชิกใหม่ ลงสมัครรับเลือกตั้งซ่อม สส.ที่ จ.พิษณุโลก เขต 1 แทนนายปดิพัทธ์ สันติภาดา อดีต สส.พิษณุโลก พรรค ก.ก.ไม่ได้ เนื่องจากต้องเป็นสมาชิกพรรคไม่น้อยกว่า 90 วัน แต่พรรคประชาชนเพิ่งเปิดตัว ล่าสุด แกนนำพรรคประชาชนเปิดเผยว่า พรรคประชาชนส่งผู้สมัครลงได้ เนื่องจากพรรค ก.ก.ส่งคนไปสมัครสมาชิกพรรคถิ่นกาขาวชาววิไล ก่อนจะยุบพรรค ทําให้บุคคลดังกล่าวเป็นสมาชิกพรรคครบกำหนด 90 วัน จึงมีคุณสมบัติลงสมัครรับเลือกตั้งได้ แต่พรรคยังไม่มีการเปิดเผยชื่อบุคคลดังกล่าว
“จุลพงษ์” โชว์หลักฐานจบดราม่างูเห่า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายจุลพงษ์ อยู่เกษ สส.บัญชีรายชื่อ อดีตพรรคก้าวไกล ที่ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าเป็น สส.เพียงคนเดียว ที่ไม่ยอมเซ็นชื่อย้ายพรรค ล่าสุด ได้ออกมาเข้าห้องน้ำระหว่างประชุมวิสามัญฯ จึงเดินมาชี้เเจงกับสื่อมวลชนเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวว่า “มาแล้วนี่ไง พร้อมโชว์หลักฐานการสมัครสมาชิกพรรค ตั้งแต่พรรคอนาคตใหม่ เมื่อวันที่ 29 ต.ค.61 พรรคก้าวไกลเมื่อวันที่ 1 มิ.ย.64 และสมัครสมาชิกพรรคถิ่นกาขาวฯ เมื่อวันที่ 8 ส.ค.ที่ผ่านมา
9 ชม.กองหนุนบริจาคเงินเฉียด 9 ล้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากพรรคประชาชน ขับเคลื่อนประชุมวิสามัญฯ กำหนดชื่อพรรคใหม่อย่างเป็นทางการเรียบร้อยเเล้ว พรรคประชาชนได้เปิดเว็บไซต์ใหม่ https://www.peoplespartythailand.org/?utm_source=qr ทันที ในช่วงเวลาประมาณ 10.00 น. โดยเปิดให้ประชาชนร่วมสมัครสมาชิกพรรคและบริจาคเงิน ล่าสุด ณ เวลา 19.30 น. วันที่ 9 ส.ค. ผ่านไป 9 ชั่วโมง ปรากฏว่ามีประชาชนสมัครเป็นสมาชิกพรรค 18,451 คน และมียอดเงินบริจาคแล้ว 8,741,028 บาท คาดว่าในช่วงดึกยอดบริจาคจะถึง 10 ล้านบาท ตามที่พรรคตั้งเป้าไว้
จัดอีเวนต์ล่าสมาชิกปลุกด้อมส้ม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากพรรคประชาชน เปิดตัว กก.บห.แล้ว ได้จัดตารางงานเดินหน้าทันที อาทิ วันที่ 10 ส.ค.จะจัดกิจกรรมเปิดรับสมัครสมาชิกพรรคใหม่เป็นครั้งแรก พร้อมพบปะ สส. สก. และผู้บริหารพรรคชุดใหม่ที่ใจกลางเมืองสยาม-สเตเดียมวัน ย่านถนนบรรทัดทอง ขณะที่ในพื้นที่ สส.เขต ก.ก.บางจังหวัด เตรียมจัดกิจกรรมในลักษณะดังกล่าวเช่นกัน เช่น จ.ชลบุรี วันที่ 10 ส.ค.ตั้งแต่เวลา 09.00 น. สส.เขต แต่ละคนจะขึ้นรถปราศรัย ตระเวนไปพื้นที่ต่างๆในเขตเลือกตั้งตัวเองเพื่อ 1.ชี้แจงประชาชนถึงการยุบพรรค ก.ก.และการดำเนินกิจกรรมการเมืองต่อในนามพรรคประชาชน 2.ชี้แจงแนวทางพรรคยังมีจุดยืน สืบสานอุดมการณ์ทางการเมือง เหมือนกับพรรคอนาคตใหม่ พรรค ก.ก. 3.เชิญชวนประชาชนมาสมัครสมาชิกพรรคเพิ่ม ส่วนวันที่ 11 ส.ค.ช่วงเช้า จะทำกิจกรรมของ สส.เขตแต่ละคนแบบดาวกระจาย จากนั้นช่วง 13.00 น. จะมาถึงงานก้าวแคมป์ ตามที่เพจพรรคก้าวไกลชลบุรี โพสต์ข้อความมีเนื้อหาว่า “ก้าวแคมป์ มาพบกัน ที่งานก้าวแคมป์ ครั้งที่ 4 (ชลบุรี) เวลา 4 โมงเย็นถึง 3 ทุ่ม ลานกางเต็นท์ We Camping เขาเขียว ชลบุรี” มีรายงานว่าหากนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ไม่ติดภารกิจเร่งด่วน จะเดินทางมาร่วมงานวันที่ 11 ส.ค.ด้วย
ชงสภาฯตั้งผู้นำฝ่ายค้านคนใหม่
เมื่อเวลา 12.20 น. นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ อดีตพรรคก้าวไกล ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้านให้สัมภาษณ์หลังการประชุมพิจารณาแก้ไขข้อบังคับพรรคว่า กระบวนการต่างๆ จะแล้วเสร็จ กระบวนการเอกสารจะเรียบร้อยแล้วจะรายงานให้ กกต. และ กกต.ต้องนำเอกสารทั้งหมดไปให้สภาฯ ทั้งนี้สภาฯจะจัดเตรียมรายชื่อพรรคใหม่และบัตรแสดงตนของ สส. ที่สังกัดพรรคใหม่ทั้งหมด รวมถึงหัวหน้าพรรคคนใหม่ที่ กกต.รับรองเรียบร้อยแล้ว ต้องเสนอให้ประธานสภาฯรับทราบกระบวนการเสนอให้สภาฯ แต่งตั้งผู้แทนฝ่ายค้านในสภาคนใหม่ จะใช้ระยะเวลาดำเนินการเท่าไหร่ ยังไม่แน่ชัด เจ้าหน้าที่สภาฯรับปากว่าจะจัดการให้โดยเร็วที่สุด ส่วนวิปฝ่ายค้านตอนนี้ได้ประสานเลขาธิการสภาฯแล้ว สถานะการเป็นฝ่ายค้านยังคงเดิมทั้งหมด ตนเป็นประธานวิปฝ่ายค้านอยู่เหมือนเดิม แต่จะเปลี่ยนหรือไม่ สส.ต้องประชุมกันอีกครั้ง ทุกอย่างไม่มีปัญหาการประชุมต้องเดินหน้าต่อไป
รอง ปธ.สภา สส. เลือกไม่ใช่โควตาใคร
เมื่อถามย้ำว่าตำแหน่งรองประธานสภาคนที่หนึ่ง ในส่วนของโควตายังคงเป็นในส่วนของ สส.พรรคฝ่ายค้านอยู่หรือไม่ นายปกรณ์วุฒิกล่าวว่า การเลือกตั้งรองประธานสภาฯเป็นการเลือกตั้งของ สส.ไม่ใช่โควตาของพรรคใดพรรคหนึ่ง ในวันที่มีการเลือกตั้งใหม่การลงคะแนนเสียงส่วนใหญ่จะเลือกคะแนนให้ผู้ที่ได้รับตำแหน่ง ส่วนภายในพรรคต้องให้ กก.บห. พูดคุยกันก่อน เมื่อถามว่า จำนวน สส.ตอนนี้มีจำนวนลดลง พรรคประชาชน กังวลสัดส่วนกรรมาธิการหรือไม่ นายปกรณ์วุฒิกล่าวว่า เรายังคงมีพรรคการเมืองที่มี สส.มากที่สุดในสภาฯ ดังนั้นโควตาต่างๆเทียบเท่ากับพรรค พท.โควตายังคงเหมือนเดิม ไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไร แม้แต่ตำแหน่งประธาน กมธ.หรือ กมธ.วิสามัญที่ก่อนหน้านี้ยังคงเหมือนเดิม แม้สัดส่วนของพรรค ก.ก. และพรรค พท.จะเท่ากัน
“สรวงศ์” ให้กำลังใจเชื่อไม่ต่าง ก.ก.
นายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ว่า ขอให้กำลังใจซึ่งกันและกันในฐานะพรรคการเมือง ในการปฏิบัติหน้าที่ทำงานให้ประชาชนต่อไป และการที่ สส.พรรค ก.ก. ย้ายไปทั้งหมด ไม่มีการแตกแถว เหมือนที่เคยบอกว่าพรรค พท.ไม่เคยมีการทาบทาม สส.จากพรรค ก.ก.เลย เพราะรู้ดีว่าการทำเช่นนั้นไม่เหมาะสม ที่ผ่านมาพรรค ก.ก.ทำหน้าที่ในสภาฯได้ดี อย่างที่นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ประธานวิปฝ่ายค้าน พูดก่อนปิดสภาฯว่าการทำงานของสภาฯประสานราบรื่นร่วมกัน ระหว่างวิปฝ่ายค้านกับรัฐบาล จากนี้คิดว่าคงทำงานร่วมกันในสภาฯได้เหมือนเดิม เมื่อถามว่ามองว่าการตรวจสอบของพรรคประชาชน จะต่างจากพรรค ก.ก.หรือไม่ นายสรวงศ์กล่าวว่า ไม่ต่าง เพราะหัวหน้าพรรค ตลอดจนสมาชิกพรรคของเขา ทำหน้าที่อยู่ในสภาฯมาตลอด
“อ้วน” นัดถกยึดรอง ปธ.สภาคนที่ 1
ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า วันจันทร์ที่ 12 ส.ค.วันหยุดราชการ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ แกนนำพรรค พท.ได้เชิญหัวหน้าและเลขาธิการพรรคร่วมรัฐบาล มาประชุมที่ทำเนียบรัฐบาลในเวลา 17.00 น. เพื่อหารือในประเด็นต่างๆทางการเมือง อาทิ ตำแหน่งรองประธานสภาฯคนที่ 1 ที่ว่างลง รวมถึงผลักดันกฎหมายต่างๆที่ค้างสภาฯ อาทิ ร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร และร่าง พ.ร.บ. การประกอบสถานบันเทิงครบวงจรหรือกาสิโน ที่อยู่ระหว่างการรับฟังความคิดเห็น
ภท.ชี้ “โสภณ-ภราดร” เหมาะสุด
ที่รัฐสภา นายสฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง สส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงการเลือกตำแหน่งรองประธานสภาฯคนที่ 1 ที่ว่างลงว่า นายภราดร ปริศนานันทกุล สส.อ่างทองและนายโสภณ ซารัมย์ สส. บุรีรัมย์ เป็นคนที่มีคุณภาพเหมาะสมที่จะทำหน้าที่บนบัลลังก์รองประธานสภาฯ แล้วแต่ลีลาที่แตกต่างกัน แต่ท้ายที่สุดแล้วให้เป็นมติของผู้ใหญ่ในพรรค ภท.จะเลือกใคร เพราะตามรัฐธรรมนูญแล้วพรรคลำดับที่ 2 จะได้รองประธานสภาฯคนที่ 1 ไม่น่ามีปัญหาและอุปสรรคใดๆ โดยที่ประชุมวิปรัฐบาล วันที่ 13 ส.ค.จะเคาะรายชื่อเสนอเข้าสู่ที่ประชุมสภาฯในวันที่ 14 ส.ค.เพื่อเลือกรองประธานสภาฯที่ว่างลง คาดว่าไม่มีคู่แข่งเพราะเป็นเรื่องที่คุยกันมาแล้ว
กลุ่มป้องสถาบันประท้วงสหรัฐฯ
เมื่อเวลา 13.00 น. ที่หน้าสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย ถนนวิทยุ กลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) นำโดยนายอานนท์ กลิ่นแก้ว ร่วมกับกลุ่มกองทัพธรรม สันติอโศก นำโดย น.ส.ผ่องไพรธรรม กล้าจน นัดมวลชนไปชุมนุมประท้วงรัฐบาลสหรัฐฯที่ออกแถลง การณ์แสดงความกังวลต่อกรณียุบพรรคก้าวไกล นำรถเครื่องขยายเสียงมาจอดปราศรัยอยู่ฝั่งตรงข้ามสถานทูตฯ ขณะที่มวลชนไปรวมตัวชูป้ายโจมตีทั้งภาษาไทยและอังกฤษที่หน้าสถานทูตฯ และปราศรัยย้ำให้สหรัฐฯขอโทษประชาชนไทยและแสดงความรับผิดชอบ ก่อนอ่านแถลงการณ์ถึงนายโรเบิร์ต เอฟ.โกเดค เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ เรียกร้องให้ทบทวนบทบาทหน้าที่ มารยาททางการทูต หยุดพฤติกรรมก้าวก่ายกิจการภายใน และก้าวล่วงอำนาจศาลรัฐธรรมนูญไทย จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งว่า สถานทูตฯจะไม่ขอออกมารับเรื่อง ขอให้ไปยื่นเรื่องต่อกระทรวงการต่างประเทศ นายอานนท์ยืนยันว่า จะไม่ยอมให้เรื่องยุติแค่นี้ ต้องนำหนังสือประท้วงไปส่งให้กระทรวงการต่างประเทศ และจะเดินหน้าเคลื่อนไหวเรียกร้องให้สหรัฐฯแสดงความรับผิดชอบ
“ศรี” โผล่ร้องศาล ปค.สกัดเงินดิจิทัล
เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ศาลปกครอง ถนนแจ้งวัฒนะ นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน ยื่นร้องต่อศาลปกครองกลาง พิจารณายุติและออกมาตรการคุ้มครองชั่วคราว สั่งระงับการดำเนินโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ตไว้ก่อนจนกว่าคดีจะถึงที่สุด เนื่องจากนายกฯ ครม. รมว.คลัง และคณะกรรมการนโยบายโครงการฯใช้อำนาจโดยมิชอบ ละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติพยายามดำเนินโครงการดิจิทัลวอลเล็ตด้วยการใช้เงินแผ่นดินที่มาจากภาษีประชาชน และจากการกู้เงิน ส่อไปขัดต่อรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 62 ขัดต่อ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ 2561 พ.ร.บ.เงินคงคลัง 2491 และแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.เงินตรา 2501 ตลอดจนกฎหมาย คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ และระเบียบอื่นๆที่เกี่ยวข้องอีกมากมาย เสี่ยงอาจทำให้ประเทศไทยมีหนี้สินล้นประเทศได้ หยุดโครงการฯดังกล่าวเสีย นอกจากนี้ยังขอให้ศาลพิจารณา