"เกรียงยศ" สส.รทสช.ลั่น หยุดชักศึกเข้าบ้าน หลัง "พิธา" พบทูต 18 ประเทศ หารือวิกฤติ ประชาธิปไตยในไทย-ศาลตัดสินคดียุบพรรคก้าวไกล ชี้ ไม่ควรก้าวก่าย-แทรกแซง อำนาจศาล
เวลา 10.30 น. วันที่ 6 ส.ค. 67 นายเกรียงยศ สุดลาภา สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล พบปะพูดคุยกับทูตและอุปทูตจากหลายประเทศ เพื่อหารือเกี่ยวกับวิกฤติประชาธิปไตยในประเทศไทย และกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญ นัดวินิจฉัยคดียุบพรรคก้าวไกล วันที่ 7 สิงหาคมนี้ ว่า ตนเห็น นายพิธา มีการโพสต์ในโซเชียลส่วนตัว เรื่องการไปพบปะอุปทูต 18 ประเทศ ต้องมองว่า หากไปพบปะในนามส่วนตัวก็โอเค แต่ครั้งนี้มีการโพสต์ว่าไปพบกันในฐานะที่อุปทูต หรือ ทูตประเทศต่างๆ มีความกังวลเรื่องการยุบพรรคก้าวไกล และการมีประชาธิปไตยในประเทศไทย จึงมองว่า ไม่เหมาะสม เหมือนเป็นการชักศึกเข้าบ้าน ไม่ใช่วิธีที่ถูกต้อง และตนไม่แน่ใจว่าอุปทูต หรือทูตทราบในรายละเอียดย่อย หรือไม่ว่ามีที่มาที่ไปเป็นอย่างไร
และจากข้อคำถามที่ว่า สำหรับในส่วนกระทรวงต่างประเทศของไทย ควรออกมาแสดงบทบาทปกป้องกระบวนการยุติธรรมของไทยนั้น มองว่าควรออกมาดำเนินการอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ นายเกรียงยศ กล่าวว่า สำหรับกระทรวงการต่างประเทศ มีหน้าที่โดยตรงที่จะประสานกับทูต หรืออุปทูต หรือเจ้าหน้าที่ต่างๆ ในสถานทูต โดยต้องให้ข้อมูลที่มาที่ไปถูกต้อง หรือการที่ศาลรัฐธรรมนูญมีการพิจารณาคดียุบพรรคก้าวไกลนั้น ไม่ควรเข้าไปก้าวก่าย หรือแทรกแซง
“แม้กระทั่งเรา ที่เป็นคนไทยเองก็รู้อยู่แล้วว่าไม่ควรเข้าไปแทรกแซงอำนาจของศาล ไม่ว่าจะผิดหรือถูก ก็ต้องปล่อยให้เป็นอำนาจของศาลยุติธรรมเป็นผู้ตัดสิน” นายเกรียงยศ กล่าว
...
ส่วนกรณีที่ นายพิธา ไปพบปะกับทูต ซึ่งดูเหมือนเป็นการชักศึกเข้าบ้าน และอาจมีการพูดในรายละเอียดไม่ครบทำให้ผู้รับข้อมูลเข้าใจอีกมุมมองเกี่ยวกับประเด็นนี้ นายเกรียงยศ ระบุว่า ใช่ นั่นคือเหตุผลหลัก แต่สำหรับตนไม่ได้ว่าทางทูต หรืออุปทูต เพราะเขามีหน้าที่มารับฟังปัญหา หรือ เหตุการณ์ต่างๆ ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ แต่ตนมองว่าการให้ข้อมูลของนายพิธา มีโอกาสให้ข้อมูลเป็นกลางน้อยมาก เนื่องจากหลายครั้งที่ผ่านมา นายพิธา ออกมาแถลงข่าว ไม่ว่าจะมาด้วยตัวเอง หรือมาพร้อมกับนายชัยธวัช ก็มักเป็นการดูหมิ่นดูแคลนระบบยุติธรรมของไทยอยู่แล้ว
สำหรับกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญ จะมีการวินิจฉัยคดียุบพรรคก้าวไกลในวันพรุ่งนี้นั้น นายเกรียงยศ เผยว่า ตนยังไม่สามารถบอกได้ เพราะอยู่ในอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญ ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ไม่ควรที่จะก้าวก่ายอำนาจศาล หรือ ชี้นำว่าจะยุบหรือไม่ยุบ และอีกไม่นานคงจะทราบผลของคดี
เมื่อถามว่า หากผลเป็นลบต่อพรรคก้าวไกล จะทำให้มวลชนออกมากดดันนั้น เกี่ยวกับประเด็นนี้ นายเกรียงยศ เชื่อว่า ไม่มีการออกมากดดัน เพราะที่ผ่านมา ศาลให้ความยุติธรรมกับทุกฝ่าย และในหลายคดีที่เกี่ยวข้องกับพรรคก้าวไกลก็มีการยกฟ้องบ้าง ซึ่งเมื่อศาลยกฟ้องทางพรรคก้าวไกล ก็บอกว่า เป็นความยุติธรรมของศาล ดังนั้นเมื่อไม่ยกฟ้องหรือตัดสินไปอีกทาง หาก พรรคก้าวไกล กลับบอกว่า ไม่ยุติธรรมแล้วออกมากดดันศาล ตนมองว่าไม่ใช่วิถีทางประชาธิปไตยที่ถูกต้อง