“จิราพร” ชี้ คดี “เศรษฐา” แต่งตั้ง “พิชิต” ไม่กระทบโครงการดิจิทัลวอลเล็ต มั่นใจช่วงปลายปี 2567 ประชาชนได้ใช้เงินหมื่น ย้ำ พรรคเพื่อไทยไม่เสียสมาธิ เดินหน้าผลักดันนโยบายให้สำเร็จ ไร้เตรียมการเปลี่ยนตัวนายกฯ

วันที่ 4 สิงหาคม 2567 น.ส.จิราพร สินธุไพร รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญนัดฟังคำวินิจฉัยคุณสมบัติ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กรณีแต่งตั้ง นายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 14 สิงหาคม 2567 จนมีกระแสข่าวอาจส่งผลให้มีการเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี และอาจกระทบต่อการดำเนินโครงการเติมเงิน 10,000 ผ่าน Digital Wallet ว่า ตนเชื่อมั่นว่าการดำเนินการที่ผ่านมาของ นายเศรษฐา เป็นไปด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ซึ่งบรรดาสมาชิกพรรคเพื่อไทยต่างก็มีความมั่นใจในส่วนนี้เช่นกัน 

เศรษฐา ทวีสิน
เศรษฐา ทวีสิน

น.ส.จิราพร กล่าวต่อไปว่า ขณะที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่ถูกพาดพิงว่าถูกวางตัวให้เป็นนายกรัฐมนตรีแทนนั้น ก็ได้ออกมาปฏิเสธแล้วว่าเป็นไปไม่ได้ คดีในศาลรัฐธรรมนูญของนายกรัฐมนตรีไม่ส่งผลกระทบใดๆ ต่อการดำเนินโครงการดิจิทัลวอลเล็ต เนื่องจากเป็นโครงการที่รัฐบาลได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภา ไม่ว่าจะมีคดีความข้างต้นหรือไม่ก็ตาม โครงการจะยังเดินหน้าต่อไปเช่นเดิมจนสำเร็จ 

...

พิชิต ชื่นบาน
พิชิต ชื่นบาน

อีกทั้งเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา งบประมาณดิจิทัลวอลเล็ตในร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 พ.ศ. .... วงเงิน 122,000 ล้านบาท ก็ผ่านสภาผู้แทนราษฎร และงบประมาณปี 2568 ที่จะมาใช้ในโครงการนี้ก็ผ่านวาระแรกแล้ว หากผ่านวาระ 3 เมื่อใด คาดว่าในช่วงปลายปี 2567 ประชาชนจะสามารถใช้จ่ายเงินดิจิทัลวอลเล็ตได้พร้อมกันทั่วประเทศ เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้กลับมาคึกคักอีกครั้งอย่างแน่นอน 

ทั้งนี้ ในส่วนของพรรคเพื่อไทย ไม่มีความเคลื่อนไหวเรื่องการเตรียมการใดๆ เกี่ยวกับประเด็นการเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี ขณะนี้เรื่องเดียวที่พรรคเพื่อไทยในฐานะแกนนำจัดตั้งรัฐบาลกำลังมุ่งมั่นดำเนินการ คือการผลักดันนโยบายต่างๆ เพื่อแก้ปัญหาของประชาชนให้สำเร็จโดยเร็วที่สุด โดยเฉพาะนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตที่กำลังเปิดรับลงทะเบียนอยู่ในเวลานี้ และได้รับความสนใจและการตอบรับจากประชาชนอย่างดียิ่ง.