ปลุกใจกองเชียร์โค้งสุดท้าย ก่อนลุ้นอนาคตตัวเองสัปดาห์หน้า

พรรคก้าวไกลแถลงใหญ่ ฉายหนังซ้ำคำแถลงปิดคดีอีกรอบ ยืนยันความถูกต้องทั้งข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย ไม่คิดล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข สู้คดียุบพรรคที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดตัดสิน วันที่ 7 ส.ค.นี้

พร้อมปล่อยคลิปประกอบรัวๆหลายชุด เกี่ยวกับการต่อสู้คดี ประกาศเชิญชวนด้อมส้มมาร่วมฟังคำวินิจฉัยอย่างพร้อมเพรียงที่พรรคก้าวไกล ในวันนัดชี้ชะตา

ก้าวไกลโหมโรงปลุกประชาชน วัดพลังมวลชนโค้งสุดท้ายจะมีความหนักแน่นแค่ไหน

แนวโน้มอนาคตพรรคริบหรี่ แม้ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล และคีย์แมนหลายคน จะแสดงความมั่นใจไม่ถูกยุบพรรค อย่าเพิ่งรีบด่วนสรุปก้าวไกลจะโดนยุบ

แต่ก็เห็นอาการขาสั่น เตรียมทางหนีทีไล่ สร้างค่ายสำรอง เซ้งพรรค “ถิ่นกาขาวชาววิไล” เป็นที่รวบรวมไพร่พล หากต้องแพแตก แล้วค่อยพิจารณาการเปลี่ยนชื่อพรรคต่อไป

อย่างที่เพจพรรคก้าวไกลเคลื่อนไหวล่าสุด เผยแพร่คลิปวิดีโอหัวข้อ “จากอนาคตใหม่ สู่ก้าวไกล สู่อนาคต” ส่งซิกชื่อพรรคใหม่อาจใช้ชื่อ “อนาคต”

ก้าวไกลมองข้ามช็อตเรื่องการถูกยุบพรรคไปถึงการตั้งพรรคใหม่แล้ว

เบญจา แสงจันทร์
เบญจา แสงจันทร์

...

เต็งหนึ่งหัวหน้าพรรครุ่นต่อไป “ศิริกัญญา ตันสกุล” สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ก็ออกปากพร้อมรับนั่งเก้าอี้ผู้นำพรรคคนใหม่ หรือ “เบญจา แสงจันทร์” สส.บัญชีรายชื่อ และกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล ก็พูดเหมือนทำใจระหว่างตั้งกระทู้ถามสดในสภา ระบุการอภิปรายครั้งนี้อาจเป็นครั้งสุดท้าย

พลพรรคสีส้มทำใจ ยอมรับชะตากรรม ก้าวไกลเข้าสู่ช่วงนับถอยหลัง เตรียมสแตนด์บายตัวบุคคล ลุยไฟในนามพรรคใหม่ต่อไป

ฉวยจังหวะเล่นกับอารมณ์ความรู้สึกของประชาชน หากพรรคก้าวไกลถูกยุบ พลิกวิกฤติเป็นโอกาส ปั่นกระแสสีส้มทั้งแผ่นดิน โกยแต้มสงสาร ยิ่งยุบยิ่งโต ตายสิบเกิดแสน

แต่ก็ไม่รู้ในทางปฏิบัติ พรรคใหม่จะได้ทันโตหรือไม่ ตามปมชนักปักหลัง 44 สส.ก้าวไกล ในคดีความผิดจริยธรรมร้ายแรง เข้าชื่อแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เป็นช็อตที่ต้องลุ้นต่อไป

ถึงเวลาเข้าด้ายเข้าเข็มก็ไม่รู้ 44 สส.จะโดนสึนามิทางคดี กวาดหายเกลี้ยงออกจากสารบบอีกหรือไม่

ดาบสองถูกตั้งแท่นไว้ แก้เกมไม่ให้พรรคใหม่ของกองทัพสีส้มโตวันโตคืนจากกระแสประชาชน

ก้าวไกลตกอยู่ในวงล้อมค่ายกลการเมืองหลายชั้น แม้จะตั้งพรรคใหม่ก็ไม่รู้จะบ้านแตกอีกรอบเมื่อไหร่ อนาคตวังเวง น่วมต่อเนื่อง ตั้งแต่ชนะเลือกตั้งแต่ถูกสกัด ชวดทั้งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี วืดจัดตั้งรัฐบาล กระหน่ำตามทุบ โดนบอนไซ

เค้าลางโรคเรื้อรัง “ยุบพรรค” ตามรังควาน ไม่ว่าจะเปลี่ยนหัวใหม่กี่ครั้ง ชนะเลือกตั้งเป็นอันดับ 1 กี่รอบ ก็ไม่การันตีจะตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ

พริษฐ์ วัชรสินธุ
พริษฐ์ วัชรสินธุ

ชะตากรรมค่ายส้มวนลูปอยู่อย่างนี้ จะหายขาดได้ ต้องผ่าตัดใหญ่ แก้ไขกติการัฐธรรมนูญปี 2560 และกฎหมายลูก สร้างภูมิคุ้มกันให้ตัวเอง

อย่างที่เห็นความพยายามปลุกกระแสต่อเนื่อง รื้อรัฐธรรมนูญปี 2560 ทั้งฉบับ ลดทอนอำนาจองค์กรอิสระ

แก้เกมระยะยาวทุกช่องทาง ไม่ให้การถูกยุบพรรคทำกันได้ง่ายๆ

ล่าสุด นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ ดาวรุ่งก้าวไกล เพิ่งเสนอรายงานของคณะกรรมาธิการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร เข้าสภาฯ

เรียกร้องแก้ไข พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง อยากให้พรรคการเมืองเกิดง่าย อยู่ได้ ตายยาก ทบทวนโทษยุบพรรค ให้ลงโทษคนทำผิดรายบุคคลมากกว่าให้อวสานทั้งพรรค

ไม่ใช่แค่ค่ายก้าวไกลที่ชักธงรบสู้เต็มที่ แม้แต่พรรคเพื่อไทยก็ร่วมเป็นลูกคู่ อภิปรายสนับสนุนเป็นคอหอยลูกกระเดือกเคียงข้างไปกับพรรคก้าวไกลด้วย

อารมณ์หวาดผวาที่มีอยู่เป็นทุนเดิม แหยงถูกยุบพรรครอบสามซ้ำรอยยุคไทยรักไทย พลังประชาชน หากยังไม่แก้กฎเหล็กเรื่องยุบพรรค

แม้ถึงวันนี้เพื่อไทยจะอยู่ฝั่งเดียวกับขั้วอนุรักษ์นิยม แต่อยู่ร่วมกันแบบหวาดระแวง ภูมิคุ้มกันขึ้นๆลงๆ

ความสัมพันธ์ระหว่าง “เพื่อไทย-ขั้วอำนาจเก่า” แค่สมประโยชน์เฉพาะกิจ ไม่รู้จะยืนระยะได้นานแค่ไหน

ยิ่ง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำตัวล่อเป้าเรียกแขกมากขึ้นเท่าไร ก็เพิ่มความเสี่ยงถูกเล่นงานข้อหาคนนอกครอบงำแทรกแซงพรรคการเมือง หมิ่นเหม่เสี่ยงถูกยุบพรรคเหมือนกัน

ถูกหมั่นไส้หนักขึ้นมาวันไหน ชะตากรรมก็คงเสี่ยงแขวนบนเส้นด้ายไม่ต่างจากก้าวไกล!!!

ทีมข่าวการเมือง

คลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม