จับตา "สิงหา" การเมืองร้อน คดี "ยุบพรรคก้าวไกล-คุณสมบัตินายกฯ เศรษฐา" อาจถึงขั้น ทำสมการ การเมือง ประเทศไทย เปลี่ยน เปิดขั้นตอนหาก 2 คดี หากผิดจริง ผลจะเป็นอย่างไร - "กูรู" ชี้ "ทักษิณ" ขอไปดูไบรักษาตัว ถ้าไปจริง "เพื่อไทย" ยิ่งเสียเปรียบ   

รศ.ดร.ยุทธพร อิสรชัย อาจารย์ประจำสาขาวิชารัฐศาสตร์ มสธ. กล่าวกับทีมข่าวการเมืองไทยรัฐออนไลน์ กรณี หาก นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ต้องหลุดจากตำแหน่ง จากปมคุณสมบัติ นายกฯ 14 ส.ค.นี้ว่า การเลือกนายกฯ คนใหม่ ตามรัฐธรรมนูญ ปี 2560 ไม่ได้กำหนดว่า ต้องเลือกนายกฯ ให้ได้ภายในกี่วัน กำหนดเพียง "เลือกให้ได้โดยเร็ว"

ถ้านายกฯ ต้องออกจากตำแหน่ง รัฐบาลชุดปัจจุบันก็ต้องพ้นไปด้วย และหารัฐมนตรีใหม่โดยเร็ว รัฐธรรมนูญไม่ได้กำหนดต้องหานายกฯ ภายในกี่วัน

และไม่ได้กำหนดต้องมีนายกฯ "รักษาการ" ด้วย เนื่องจากอันนี้ ไม่ได้เป็นการอยู่ครบวาระ เพราะหากอยู่ครบวาระ ก็จะเป็นนายกรัฐมนตรีรักษาการ เหมือนชุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รักษาการ จนเลือกนายกฯ กัน 3-4 เดือน ตอนปี 2566 

...

อย่างไรก็ตาม ไม่มีคำว่า "สุญญากาศ" เหตุเพราะมีบรรดาปลัดกระทรวง ขึ้นมาปฏิบัติหน้าที่ ปฏิบัติราชการแทน สภาก็ต้องเลือกนายกฯ โดยเร็ว เลือกจากแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ที่มีรายชื่ออยู่ในแต่ละพรรคการเมือง แต่รอบนี้ จะไม่มี สว.วุฒิสภา มาร่วมด้วย ก็เป็น สส.ล้วนๆ 200 สว.ชุดใหม่ ก็ไม่มีอำนาจมาร่วมเลือกนายกรัฐมนตรีแล้ว 

มีโอกาสทะลุไปที่พรรคก้าวไกล จัดตั้งรัฐบาลแทนพรรคเพื่อไทย หรือไม่

รศ.ดร.ยุทธพร กล่าวต่อว่า พรรคก้าวไกล ผมว่าอาจจะยาก เพราะก่อนหน้านั้น เราต้องดูคดียุบพรรคก้าวไกลก่อน ถ้าคดียุบพรรคก้าวไกล 7 ส.ค.นี้ ศาล รธน.ออกมาวินิจฉัยให้ยุบพรรค นั่นหมายความว่า คุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ก็ต้องถูกตัดสิทธิ์การเมืองด้วยแน่นอน เพราะในกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ เขียนเอาไว้ชัดว่า ถ้าศาลสั่งยุบพรรคการเมือง ต้องตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรคด้วย ฉะนั้นศาลจะตัดสินเป็นอย่างอื่นไม่ได้ ถ้ายุบพรรค กรรมการบริหารต้องไปหมดเลย ซึ่งคุณพิธา อยู่ในนั้นด้วย จะทำให้แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกล ก็จะหายไป ฉะนั้นก็ต้องดูคดีแรกก่อน 7 ส.ค.นี้ก่อน จึงจะสามารถตอบได้ ไม่ได้ว่า ก้าวไกล จะมีโอกาสตั้งรัฐบาลได้ไหม

วันนี้ "งูเห่าฝากเลี้ยง" หรือ "ผึ้งแตกรัง" มีโอกาสเกิดขึ้นได้ แม้หลายคนจะบอกว่า วันนี้รัฐบาลเสียงไม่ได้ปริ่มน้ำ เสียงไม่ได้จำเป็นอะไรแล้ว สส.ที่เป็นงูเห่า ก็เจอบทเรียนกันมา อะไรกันมา แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ยังไงก็ตาม เชื่อมีโอกาสเห็น สส.เป็นงูเห่า เกิดผึ้งแตกรัง ก็ยังมีอยู่ เพราะฉะนั้นต้องจับตาดูว่า ถ้ายุบพรรคก้าวไกลแล้วจะทำให้สมการการเมืองเปลี่ยนไหม ซึ่งตรงนั้นจะทำให้เกี่ยวข้องกับคดีของ นายกฯ เศรษฐา ด้วย ถ้านายกฯ จะต้องให้ถูกพ้นจากตำแหน่ง

มองกรณี "ทักษิณ" มายื่นขอไปรักษาตัวที่ “ดูไบ” อย่างไร แม้ศาลยกคำร้อง

อาจารย์ประจำสาขาวิชารัฐศาสตร์ มสธ.กล่าวว่า จริงๆ ถ้าจะเกี่ยวข้องกับการเมืองจริง คุณทักษิณ ต้องไม่ไป หากคุณทักษิณไปต่างประเทศจริง ยิ่งเสียเปรียบทำให้การจัดตั้งรัฐบาลพรรคเพื่อไทยเสียเปรียบทันที เพราะเราจะเห็นวันที่คุณเศรษฐา เป็นนายกรัฐมนตรี เป็นวันเดียวกันกับที่เครื่องบินคุณทักษิณลงจอดที่ดอนเมืองนะครับ เราเลือกนายกฯ กันมา 4 เดือน ไม่สำเร็จ พอเครื่องบินคุณทักษิณมาลงจอดก็สำเร็จเลย เพราะฉะนั้น เมื่อเป็นแบบนี้คุณทักษิณ ไม่น่าออกไป ฉะนั้นผมว่าไม่น่าจะเกี่ยวกันนะครับ เพราะคุณทักษิณถ้ายังอยู่ในไทยคือคนคุมเกมพรรคเพื่อไทยแน่นอน

ต้องดู "สมการการเมือง" จะเปลี่ยน หรือไม่ "ก้าวไกล-เศรษฐา" มีความเสี่ยง

รศ.ดร.ยุทธพร ย้ำว่า ต้องดูทั้งคดียุบพรรคก้าวไกล 7 ส.ค. และคดีคุณสมบัติตำแหน่งนายกฯ ของเศรษฐา ว่า สมการการเมืองจะเปลี่ยนไหม ถามว่า คุณเศรษฐา ยังอยู่ในความเสี่ยงไหม ผมคิดว่ายังอยู่ แล้วพรรคก้าวไกล โอกาสถูกยุบพรรคนั้นมากกว่าไม่ถูกยุบพรรค แต่ว่ามันก็ยังมีหนทางที่พรรคก้าวไกลจะรอดได้ โดยเฉพาะเรื่องของมาตรา 93 ที่ กกต.ไม่ได้ดำเนินการก่อน ที่เขาจะใช้มาตรา 92 ซึ่งเป็นข้อต่อสู้ที่ก้าวไกลยกขึ้นมา

ชี้ คดี "ยุบพรรคก้าวไกล" เสี่ยงกว่าคดี คุณสมบัติ "นายกฯ เศรษฐา"

"มองว่า โอกาสก้าวไกลจะถูกยุบพรรคมีมากกว่า เพราะ 1 เลยในเรื่อง มาตรา 49 คดีล้มล้างการปกครอง ที่ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัย มันเป็นข้อกฎหมายที่คล้ายคลึงกันกับ มาตรา 92 ในกฎหมายพรรคการเมือง เพราะฉะนั้นในแง่ข้อกฎหมายมันคล้ายคลึงกัน ฉะนั้นศาลจะวินิจฉัยออกนอกกรอบกฎหมายคงยาก

อันที่สอง คือข้อเท็จจริง ก่อนหน้านี้พรรคก้าวไกลยกเป็นข้อต่อสู้ ว่า ข้อเท็จจริงในคดีล้มล้างการปกครอง เอามาใช้ไม่ได้ เพราะเป็นคนละกรรมคนละวาระ อะไรต่างๆ แต่ล่าสุดก่อนศาลรัฐธรรมนูญจะนัดตัดสินก็มีคำสั่งให้ไปเอาข้อเท็จจริงในคดี 3/2567 ก็คือ คดีล้มล้างมาตรา 49 ในรัฐธรรมนูญ ให้เอามาเป็นข้อเท็จจริง พยานหลักฐานในคดีนี้ด้วย ยิ่งไม่เปิดโอกาสให้ไต่สวน ผมจึงคิดว่าพรรคก้าวไกลมีความเสี่ยงสูง

ส่วนคดีนายกฯ เศรษฐา ผมว่า โอกาสยัง 50:50 ครับ แต่คดีของพรรคก้าวไกล โอกาสโดนมากกว่า" รศ.ดร.ยุทธพร กล่าว.