ลุ้นระทึก 7 ส.ค.ตัดสินคดียุบพรรคก้าวไกล

หากผลออกมาในทางร้าย คดี 44 สส.ที่ยังค้างอยู่ใน ป.ป.ช. คงหนีไม่พ้นออกมาทำนองเดียวกัน

อาจส่งผลให้พรรคก้าวไกลบ้านแตกสาแหรกขาด แกนนำแถวสองหายเกลี้ยง แถวสาม แถวสี่ โตขึ้นมารับช่วงต่อไม่ทัน อนาคตพรรคสีส้มดูวังเวงเหลือเกิน

แต่กระนั้นก็ยังใจดีสู้เสือ นัดแถลงข่าว 2 ส.ค. บอกหมุดหมายความในใจเป็นครั้งสุดท้าย เหมือนทำใจไว้แล้วกลายๆ มั่นใจมีประสบการณ์เคยโดนยุบมาแล้ว ไม่ว่ายังไงอนาคตจะพร้อมมากกว่าเดิม

พรรคก้าวไกลประกาศตัวว่าไม่ใช่พวก “อยู่เป็น” ไม่ต้องการอยู่รอดปลอดภัยในระบบ ระเบียบที่มันค้านกับความรู้สึก จึงกลายเป็นพวกขวางโลกในสายตาของการเมืองระบบเก่า

แต่ในสายตาประชาชนแล้วชัดเจนเป็นที่ชื่นชอบ เป็นทางเลือกที่ใช่ในการเปลี่ยนแปลง

พิธา ลิ้มเจริญรัตน์
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์

พรรคการเมืองนี้จึงกลายเป็นผู้มาก่อนกาล ท่ามกลางพรรคการเมืองที่ “อยู่เป็น” ในระบบเก่าน้ำเน่า

...

ถึงตอนนี้แกนนำพรรคก้าวไกลเองก็ยอมรับว่ามี สส.ก้าวไกลบางคนติดต่อพูดคุยกับพรรคการเมืองอื่นไว้แล้ว โดยเฉพาะพรรคขั้วตรงข้าม นั่นก็หมายถึงพรรคฝั่งอนุรักษ์นิยมที่อยู่ในรัฐบาลตอนนี้

ประเมินแล้วถึงจะมีงูเห่าสีส้มก็คงไม่มากนัก

แต่ความจริงแล้วมันอาจมากกว่าที่คิด สส.ประเภทยอมพลีชีพเพื่อผลประโยชน์เฉพาะหน้า ไม่คาดหวังถึงอนาคต หรือการเลือกตั้งครั้งหน้าคงมีไม่น้อย

เพราะ สส.พรรคก้าวไกลหลายคนไม่ว่าระบบเขต หรือบัญชีรายชื่อ ล้วนเข้ามาเพราะกระแสสีส้มและ “เดอะทิม” พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคฟีเวอร์

พูดง่ายๆว่ามาแบบฟลุกๆ ไม่ได้มีอุดมการณ์เข้มข้นอะไร

อีกทั้งไม่ได้มีความยึดโยงกับชาวบ้านในพื้นที่ เหนืออื่นใดครั้งหน้ายังไม่รู้ว่าพรรคจะส่งลงหรือไม่

เมื่อเจอกระสุนสาดเข้าไปสัก 10-20 ชุด ก็มีหวั่นไหวอ่อนระทวย เหมือนงูเจอเชือกกล้วยเป็นแน่แท้

ที่ผ่านมาก็มีข่าวแวะเข้าบ้านป่าหลายสิบราย และยิ่งเห็นค่ายน้ำเงินเบ่งบาน ก็อาจมีรายการต่อรองเสนอตัว

หากสุดท้ายแล้ววันที่ 7 ส.ค.พรรคก้าวไกลถูกยุบ แล้วงูเห่าปรากฏตัวยั้วเยี้ย ย้ายกันปุบปับฉับพลันไปพรรคพลังประชารัฐตามข่าวลือที่ตกเขียวเอาไว้มากมาย หรือแม้แต่ย้ายไปค่ายน้ำเงิน ภูมิใจไทย

พรรคเพื่อไทยคงมีอาการหนาวสั่นหวั่นไหว และต้องคิดวางแผนแก้เกมกันหลายกระบวนท่า ดีไม่ดีอาจต้องดูด สส.แข่งกับเขาด้วย

มิฉะนั้นโมเมนตัมการเมืองอาจพลิกเปลี่ยนอีกรอบ

ประเมินเชิงรัฐศาสตร์ ถ้างูเห่าเลื้อยไปฝั่งอนุรักษ์นิยมมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งน่าเป็นห่วงคดีถอดถอนนายกฯวันที่ 14 ส.ค.

ถ้าผลออกมาเป็นลบ นายกฯหลุดจากตำแหน่ง การเมืองไทยบันเทิงแน่ ถึงเวลานั้นอาจต้องวิ่งไล่จับขั้วตั้งรัฐบาล ฟอร์ม ครม.กันใหม่หมด

อนุทิน ชาญวีรกูล
อนุทิน ชาญวีรกูล

เพื่อไทยคงไม่ลืมตัวเองว่าเป็นอนุรักษ์นิยมนอกคอก เป็นพรรคเดียวที่ย้ายข้างเข้ามาผสมโรงข้ามขั้ว เป็นรัฐบาลประนอมอำนาจเฉพาะกิจ ไม่ใช่เนื้อแท้พวกเดียวกัน ทะเลาะเบาะแว้งกันอยู่ตลอด

ถ้าเกิดอุบัติเหตุกับนายกฯตอนนี้ และมีงูเห่าค่ายส้มย้ายข้างมากๆ

เพื่อไทยอาจตกอยู่ในวงล้อม ถึงขั้นจนกลางกระดาน

แต่การเมืองชั่วโมงนี้มีหลายก๊กเดาทางยาก โดยเฉพาะพรรคภูมิใจไทยที่แรงขึ้นมาอย่างน่ากลัว

ถ้าไปประสานงานจับมือกับทีม “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ถล่ม “นายใหญ่บ้านจันทร์ส่องหล้า” ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ

ทั้งเครือข่ายองคาพยพพรรคเพื่อไทย ย่อมตกที่นั่งลำบากแน่

แต่ดูเหมือนว่านายใหญ่ผู้นำจิตวิญญาณเพื่อไทยก็มองออกว่าหมากเกมนี้ “ภูมิใจไทย” คือตัวแปรสำคัญ

เลยไปผูกเสี่ยวออกรอบตีกอล์ฟกระชับมิตรกับ “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย อย่างชื่นมื่น

ตามมาด้วยการถอยเชิงนโยบาย กลับลำปล่อยผ่าน “กัญชา” ดื้อๆ

พยายามรักษาโมเมนตัม ถือแต้มต่อทางการเมืองเอาไว้ตามเดิม.

ทีมข่าวการเมือง

คลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม