เพจพรรคก้าวไกลเผยแพร่คลิปวิดีโอ หัวข้อ จากอนาคตใหม่ สู่ก้าวไกล สู่อนาคต ในคลิปดังกล่าวเป็นการสัมภาษณ์ ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรค ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ รองเลขาธิการพรรค และพริษฐ์ วัชรสินธุ โฆษกพรรค ซึ่งเป็นการบรรยายถึงขั้นตอนการยุบพรรคก้าวไกล ที่ศาลรัฐธรรมนูญ นัดอ่านคำวินิจฉัยในวันที่ 7 ส.ค.นี้ สรุปเนื้อหาได้ว่า คดียุบพรรคก้าวไกล ที่กำลังเผชิญอยู่ ย่อมไม่ต่างกับสิ่งที่ พรรคอนาคตใหม่ เผชิญเมื่อ 4 ปีที่แล้ว หรือพรรคการเมืองต่างๆเจอมาในรอบเกือบ 20 ปีที่ผ่านมา การยุบพรรคอาจจะยุบได้แค่องค์กรนิติบุคคล แต่ไม่สามารถหยุดชุดอุดมการณ์เช่นนี้ได้ และเราจะเดินหน้าต่อไป ไม่ว่าวันที่ 7 ส.ค.นี้จะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม
“สมัยพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบ ไม่ได้เพราะไปแตะต้องสถาบัน แต่เพราะไปชนกับกลุ่มการเมืองเก่า ซึ่งหลังการเลือกตั้งปี 2566 เห็นได้ชัดว่า มีการรวมขั้วกันเป็นกลุ่มเป็นก้อน เพื่อต่อต้านพรรค และลากพรรคก้าวไกลไปสู่เรื่องของสถาบัน พรรคก้าวไกลไม่ต้องการล้มล้าง หรือเซาะกร่อนบ่อนทำลายใคร เพียงแต่ต้องการโครงสร้างทางการเมือง ที่ตอบสนองความต้องการของประชาชน การยุบพรรคหรือจับคนไปขัง ไม่สามารถขัดขวางความคิดได้”
ถูกนำไปตีความกันว่าก้าวไกลก็รู้ตัวเองดีว่าไม่สามารถหนีวิบากกรรมยุบพรรคได้ สิ่งที่เฝ้าติดตามคือหลังจากยุบพรรคก้าวไกลมากกว่า สส.151 คนจะยังเหนียวแน่นอยู่หรือไม่ นั่นหมายถึงการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นใน ขั้วรัฐบาล ที่มีการวางหมากหลายชั้นอยู่ในเวลานี้
รัฐบาลนายกฯเศรษฐา ทวีสิน กำลังจะพายเรือชนตอ ไม่ใช่เพราะการวินิจฉัยคุณสมบัตินายกฯของเศรษฐา ในวันที่ 14 ส.ค.นี้ แต่มี 2 เรื่องที่ยืนอยู่บนเส้นยาแดงผ่าแปด ดิจิทัลวอลเล็ต เปิดให้ประชาชนลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการวันนี้เป็นวันแรกผ่านทางแอปฯ ทางรัฐ จะไปต่อจนถึงเดือน พ.ย.-ธ.ค.ที่จะแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ได้สำเร็จ หรือจะมีปัญหาอะไรตามมาไปตายเอาดาบหน้า
...
อีกเรื่อง การลดภาษีน้ำมันทุก 3 เดือน ที่ ครม.มีมติให้ปรับลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลิตรละ 1 บาท จากเดือน ม.ค.เป็นต้นมา ทำให้เกิดภาระหนี้กองทุนน้ำมันที่ต้องนำไปชดเชยราคาน้ำมันบานตะไทแม้ราคาน้ำมันดีเซลจะทะลุเพดาน 30 บาทต่อลิตร เป็น 33 บาทต่อลิตรในปัจจุบันแล้วก็ตาม คาดว่าการตรึงราคาขายปลีกดีเซลที่ลิตรละ 33 บาทไปจนถึงวันที่ 31 ต.ค.ที่จะถึงนี้จะทำให้ภาระหนี้กองทุนน้ำมันสูงกว่า 1 แสนล้านบาท ในขณะที่กรมสรรพสามิตก็สูญเสียรายได้ไปปีละกว่า 28,000 ล้าน และต้องเสียรายได้จากการลดภาษีสนับสนุนรถ EV อีกว่า 25,000 ล้าน ประเทศไทยต้องนำเข้าน้ำมันถึงร้อยละ 90 และภาษีสรรพสามิตที่แท้จริงจะต้องอยู่ที่ 5.99 บาทต่อลิตร บวกค่าการตลาดและภาษีมูลค่าเพิ่มแล้วจะอยู่ที่กว่า 6 บาทต่อลิตร รัฐจะต้องแบกภาระหนี้หลังแอ่นแค่ไหน การแบกภาระหนี้เยอะๆ ก็เป็นการทำลายเครดิตการเงินการคลังของประเทศ
และเรื่องสุดท้าย ปัญหากัญชา ที่ฝ่ายการเมืองปฏิเสธว่าไม่ใช่ปัญหาการเมือง แต่การนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติดมีแนวโน้มไปสู่ความล้มเหลว การออกประกาศกัญชาเป็นยาเสพติดที่มี พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เป็นประธานบอร์ด ป.ป.ส. มี อนุทิน ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย และ สมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข เป็นกรรมการ
สามพรรคสามหนุ่มสามมุม จะลงเอยอย่างไร.
หมัดเหล็ก
mudlek@thairath.co.th
คลิกอ่านคอลัมน์ “คาบลูกคาบดอก” เพิ่มเติม