ครม. เห็นชอบ 7 มาตรการ แก้ปัญหาปลาหมอคางดำ ไม่ปิดโอกาสแนวคิดใช้ไซยาไนด์ แต่หากจะใช้ยาแรงต้องไตร่ตรองให้ดี หวั่นกระทบระบบนิเวศ

วันที่ 30 กรกฎาคม 2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี แถลงหลังเป็นประธานประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ทำเนียบรัฐบาล โดยในที่ประชุม ครม. กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้รายงานมาตรการแก้ปัญหาปลาหมอคางดำ โดยมีการตั้งคณะทำงานมาแก้ไขปัญหา พร้อมเสนอร่างการแก้ไขปัญหาปลาหมอคางดำ 7 มาตรการ ทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว โดยคาดการณ์ว่าจะใช้งบประมาณ 450 ล้านบาท และคาดว่าปัญหานี้จะหมดสิ้นไปตามลำดับในปี 2570

ทางด้าน นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ขอบคุณ ครม. ที่เห็นชอบมาตรการที่กระทรวงเกษตรฯ ได้เสนอ 7 มาตรการ แก้ปัญหาปลาหมอคางดำด้วยวาจา และสัปดาห์หน้าจะเสนอด้วยเอกสาร ประกอบด้วย 

...

1. จำเป็นต้องกำจัดและนำปลาหมอคางดำออกจากระบบนิเวศของไทยให้มากที่สุด 

2. มาตรการรอการกำจัด โดยต้องรอให้ปลาหมอคางดำลดลง หลังจากนั้นจะใช้วิธีธรรมชาติบำบัดโดยการปล่อยปลานักล่าลงไป อาทิ ปลากะพง ปลาอีกง ที่เราเชื่อว่าในช่วงเวลาที่เหมาะและพื้นที่ที่เราศึกษามาแล้ว โดยแต่ละพื้นที่จะใช้ปลานักล่าไม่เหมือนกัน ซึ่งจะช่วยลดปริมาณปลาหมอคางดำได้มากขึ้น 

3. นำปลาหมอคางดำที่จับขึ้นมาได้ไปใช้เรื่องอื่นๆ โดยตั้งเป้าภายในปีนี้จนถึงกลางปีหน้าเราจะจับให้ได้ไม่ต่ำกว่า 4,000 ตัน หรือ 4 ล้านกิโลกรัม 

4. มาตรการเฝ้าระวังไม่ให้มีการแพร่ระบาดไปพื้นที่อื่น 

5. ทำความเข้าใจเรื่องการแพร่ระบาดกับประชาชน โดยเฉพาะพื้นที่ 17 จังหวัดที่มีการแพร่ระบาด 

6. ใช้การวิจัย นวัตกรรมเข้ามาช่วย เช่น การเหนี่ยวนำโครโมโซม จาก 2n เป็น 4n ซึ่งจะทำให้ปลาเป็นหมัน และเราจะใช้ฟีโรโมน หรือสารคัดหลั่งในการดึงดูดทางเพศ ในการนำแสงสีไปล่อให้ปลาหมอคางดำมารวมอยู่ในบริเวณเดียวกัน เพื่อง่ายต่อการจับและกำจัด ซึ่งเป็นแนวคิดเดียวกับการใช้แสงสีเขียวล่อหมึก 

7. การฟื้นฟู กระทรวงเกษตรฯ จะต้องไปศึกษาแหล่งน้ำที่เราพบปลาหมอคางดำ ในปัจจุบันมีปลา ปู กุ้ง หอย อะไรบ้าง เพื่อเป็นข้อมูลให้กรมประมงเตรียมเพาะพันธุ์สัตว์เพื่อคืนระบบนิเวศที่อุดมสมบูรณ์ให้กลับมา 

เมื่อถามว่ามีข้อเสนอนักวิชาการให้ใช้ไซยาไนด์กำจัดปลาหมอคางดำ นายอรรถกร ระบุว่า ข้อเสนอนั้นมาจากนักวิชาการที่ไม่ได้อยู่สังกัดกระทรวงเกษตรฯ เราไม่ปิดโอกาสให้เสนอแนวความคิด แต่ในมาตรการต่างๆ ที่เราจะใช้ยาแรง ก่อนที่เราจะทำต้องคิดและไตร่ตรองให้ดีก่อน เพราะสังคมไทยและระบบนิเวศจะได้รับผลกระทบจากมาตรการต่างๆ ที่เราออกไป ดังนั้น มาตรการหลักของเราคือทำงานร่วมกับชาวประมงที่ถือเป็นนักล่ามือหนึ่ง ส่วนมาตรการอื่นเราจะค่อยๆ พิจารณาตามสถานการณ์ต่อไป.