“ธรรมนัส” ลุยเยี่ยมให้กำลังใจ มอบถุงยังชีพ บรรเทาความเดือดร้อนชาวบ้านและเกษตรกรที่ประสบภัยน้ำท่วมจันทบุรีและตราด เดินหน้าผลักดันสร้างอ่างเก็บน้ำห้วยสะตอ แก้ปัญหาอย่างยั่งยืน
วันที่ 29 กรกฎาคม 2567 ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นำคณะผู้บริหารในสังกัดที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ ณ ที่ทำการผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 4 ต.ปัถวี อ.มะขาม จ.จันทบุรี เพื่อพบปะ รับฟังปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนและเกษตรกรที่ได้รับความเดือดร้อนสถานการณ์น้ำท่วมจากเหตุการณ์ฝนตกหนักในพื้นที่อย่างต่อเนื่องหลายวัน โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี นำหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ให้การต้อนรับและบรรยายสรุปสถานการณ์อุทกภัยของจังหวัดจันทบุรี
สำหรับ จ.จันทบุรี เกิดสถานการณ์น้ำท่วม น้ำเอ่อล้นตลิ่ง จากฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในพื้นที่ อ.มะขาม อ.เมือง อ.ขลุง และ อ.โป่งน้ำร้อน ทำให้มวลน้ำจำนวนมากหลากเข้าท่วมฉับพลันในพื้นที่ทั้ง 4 อำเภอ ส่งผลกระทบต่อประชาชนรวม 16 ตำบล 74 หมู่บ้าน 7 ชุมชน 33,397 ครัวเรือน 9,130 ราย พื้นที่ทางการเกษตรได้รับผลกระทบกว่า 41,222 ไร่ ปัจจุบันสถานการณ์รอบนอกได้เริ่มเข้าสู่สภาวะปกติในหลายพื้นที่ และยังคงเฝ้าติดตามสถานการณ์
...
จากนั้น ร้อยเอกธรรมนัส นำคณะไปติดตามสถานการณ์น้ำท่วม พบปะประชาชนและเกษตรกร ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมดังกล่าว ณ องค์การบริหารส่วนตำบลสะตอ อ.เขาสมิง จ.ตราด โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี สส. และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ให้การต้อนรับและบรรยายสรุปสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ โดยร้อยเอกธรรมนัส ยังได้มอบน้ำดื่ม พร้อมถุงยังชีพจำนวน 1,000 ชุด ให้ประชาชนเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน
ร้อยเอกธรรมนัส ให้สัมภาษณ์ว่า สถานการณ์น้ำท่วมจันทบุรี หากไม่มีปริมาณฝนเพิ่มมาอีก มั่นใจว่าจะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ แต่ยังต้องคอยติดตามในช่วงเวลา 18.00 น.วันนี้ ซึ่งเป็นเวลาทะเลหนุนสูงสุดในรอบ 3 เดือน หากน้ำไม่ท่วมสูงอีกก็แสดงว่าผ่านวิกฤติได้ ส่วน จ.ตราด ถือว่าเป็นจังหวัดที่น้ำท่วมใหญ่เป็นประวัติศาสตร์ก็ว่าได้ อีกทั้งปีนี้ปริมาณฝนที่ตกลงมามาก ทำให้ระบายน้ำออกไม่ทัน ดังนั้นสิ่งสำคัญที่สุด ณ เวลานี้คือการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ช่วยพี่น้องที่ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน อ.เขาสมิง ถือว่าเป็นวิกฤติ เพราะถนนหลายสายถูกตัดขาดการสัญจรลำบาก ทางผู้ว่าราชการจังหวัด ตลอดจนถึงพี่น้องผู้นำทุกพื้นที่ ร่วมมือกันช่วยเหลือประชาชนเต็มที่ ในส่วนของกระทรวงเกษตรฯ โดยกรมชลประทาน ตนเองได้สั่งให้อธิบดีกรมชลประทาน ลงมาในพื้นที่ตั้งแต่เมื่อวาน (28 กรกฎาคม 2567) ในการประเมินสถานการณ์ที่จะแก้ไขปัญหาทันท่วงที
“ผมก็ไม่อยากให้เหตุการณ์มันเกิดขึ้นซ้ำซาก การมาแจกถุงยังชีพและอาหารกล่องเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า เราต้องการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน คือการสร้างอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง ขนาดใหญ่ อีกหลายอ่าง ซึ่งยังไม่ได้รับการสร้าง โดยเฉพาะอ่างเก็บน้ำห้วยสะตอ ที่เราคิดกันมา 25 ปีแล้ว ปีนี้ทางกรมประทานได้ตั้งงบฯ เสนอสภาสำหรับโครงการนี้ 200 ล้านบาท หากเรียบร้อยคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างในปี 2569 ซึ่งจะต้องประสานขอใช้พื้นที่จากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมด้วย ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ
อันนี้เดี๋ยวผมจะไปขับเคลื่อนเอาจริงเอาจัง ซึ่งเมื่อสักครู่ก็ได้หารือกับทางผู้ว่าฯ ตราด และท่าน สส. จะขับเคลื่อนในพื้นที่ที่จะขอใช้พื้นที่แล้ว ประมาณ 5,000 ไร่ หากดำเนินการเสร็จแล้วจะสามารถเก็บน้ำได้อีกปริมาณเกือบ 50 กว่าล้านลูกบาศก์เมตร ถือว่าเป็นจำนวนมาก เวลาฝนมันตกหนักเรายังมีแหล่งที่กักเก็บน้ำไว้ ขณะเดียวกันอ่างเก็บน้ำที่เราสร้างไว้แล้วจำนวน 7 แห่งนั้น มีปริมาณเต็มหมดแล้ว 4 แห่ง เหลืออีก 3 แห่งกำลังจะล้นสปิลเวย์ ซึ่งเราก็ต้องบริหารจัดการให้ได้ หากไม่มีปริมาณฝนตกลงมาเพิ่ม เรามั่นใจว่าจะสามารถควบคุมสถานการณ์น้ำในพื้นที่จันทบุรีและตราดได้ครับ”